สังคม

เราไม่อยากได้...'ป้าติ๋ม' เปิดใจ หลังเจ้านายฝรั่งเศส ยกมรดกร้อยล้าน - เปิดคลิปผู้ตายดันกล้องวงจรปิด ก่อนปลิดชีพ

โดย nattachat_c

3 พ.ค. 2567

86 views

ป้าติ๋ม เปิดใจเราไม่อยากได้ หลังเจ้านายชาวฝรั่งเศส ยกมรดกให้ 100 ล้าน ไม่ติดใจปมก่อเหตุ เชื่อลงมือจบชีวิตตัวเอง ตอนนี้รู้สึกเสียใจ เตรียมจัดศพให้ตามประเพณีไทย พร้อมเปิดพินัยกรรมตัวเต็ม แหม่มฝรั่งเศสแจกแจงยกทรัพย์สิน พร้อมฝากดูแลแมว 3 ตัวที่รักด้วย


จากกรณี พบศพนางแคทเทอร์ริน เดลาคอท อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส นอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นริมสระน้ำ ภายในวิลล่าหรูบนเนินเขา พื้นที่บ้านแม่น้ำ ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย  จังหวัดสุราษฎร์ธานี


โดยพบแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างตัวพบปืนพกสั้น และเตียงนอนเล่นริมสระมีเลือดนอง โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจพบคราบเขม่าดินปืนติดอยู่ที่ข้อมือซ้ายของผู้ตาย รวมทั้งตรวจสอบวิถีกระสุน และข้าวของภายในบ้าน ไม่มีร่องรอยรื้อค้น  หรือร่องรอยการต่อสู้  


และยังตรวจสอบเขม่าดินปืนกลุ่มคนที่พบศพ ได้แก่ คนดูแลสระน้ำ คนสวน และแม่บ้าน ไม่พบเขม่าดินปืน  


ส่วนที่ศพลงมาอยู่ที่พื้น เนื่องจากทีมพยาบาลจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง มาถึงที่เกิดเหตุ ก่อนที่ตำรวจจะมาถึง และได้เคลื่อนย้ายศพผู้ตายลงจากเตียงนอนเล่น มาวางที่พื้น ซึ่งขณะเคลื่อนย้าย ปืนก็ตกลงมาที่พื้นด้วย ทำให้สภาพศพ และปืนไม่อยู่ในสภาพเดิม แต่จากการสอบปากคำพยานที่พบศพ พยานแวดล้อม หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ  จึงสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็น 'การฆ่าตัวตาย'


แต่ที่กลายเป็นประเด็นความสนใจของสังคม คือ ผู้ตายเป็นนักธุรกิจหญิง มีทรัพย์สินจำนวนมาก และก่อนเสียชีวิต ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สิน / ที่ดิน / วิลล่าหรู รวมประมาณ 100 ล้านบาท ให้แม่บ้านคนสนิท ที่ทำงานด้วยกันมานาน17 ปี  และยังมอบทรัพย์สินบางส่วนให้กับคนงานในบ้านด้วย

---------------

วานนี้ (2 พ.ค. 67) มีการเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ คือ คืนวันที่ 28 เม.ย. ต่อเนื่อง วันที่ 29 เม.ย .67 กล้องจับภาพนางแคทเทอร์ริน นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าวิลล่า สภาพอยู่บ้านตามปกติ สวมเสื้อกล้ามสีขาว และนุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ นั่งพิมพ์ข้อความลงในเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โดยใช้เวลานาน  


จากนั้น ลุกขึ้น และหายออกจากกล้องไปนานเกือบ 10 นาที ก่อนจะออกมาพร้อมกับไม้ถูกพื้นสีแดง และใช้ไม้ถูพื้นดันกล้องวงจรปิด ที่เดิมมุมกล้องจะหันออกไปตรงสระน้ำ และเตียงนอนเล่นริมสระ โดยดันให้มุมกล้องหันเข้าหากำแพงแทน


ต่อมา เช้าวันที่ 29 เมษายน เวลาประมาณ 8.00 น. นายสมพร อายุ 29 ปี คนงานดูแลสระน้ำ เดินทางมาที่วิลล่าเพื่อจะดูแลทำความสะอาดสระน้ำตามปกติ เมื่อเดินขึ้นบันไดมาถึงสระน้ำ พบว่า มีคราบเลือดไหลนองพื้น และเห็นนางแคทเทอร์ริน  เจ้านาย นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงนอนริมสระ เลือดท่วมตัว จึงวิ่งลงมาโทรศัพท์บอกป้าติ๋ม ที่เป็นหัวหน้าแม่บ้าน  ให้แจ้งตำรวจ  ซึ่งตอนนั้น คนงานดูแลสระน้ำ ยังไม่เห็นปืน มาเห็นก็ตอนที่พยาบาลย้ายร่างผู้ตายจากเตียงมาที่พื้น แล้วปืนตกลงมา


ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางณัฐวลัย หรือป้าติ๋ม อายุ 49 ปี แม่บ้านประจำตัวที่ดูแลผู้ตายมานานถึง 17 ปี


ป้าติ๋มได้ถ่ายรูปการพบศพครั้งแรกไว้ ซึ่งจะเห็นว่า เดิมผู้ตายนอนอยู่บนเตียงริมสระ พร้อมเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้านายได้โอนเงินเดือนให้ตน กับคนงานคนอื่น ๆ รวมทั้งค่าอินเตอร์เน็ต ค่าน้ำ ค่าไฟ พร้อมกับบอกว่า พรุ่งนี้มีเรื่องต้องคุยกัน เป็นเรื่องที่ซับซ้อน


จนกระทั่งภายหลังจากที่เจ้านายเสียชีวิต ตนจึงรู้ว่า เจ้านายยกทรัพย์สินให้ตน โดยก่อนหน้านี้ เจ้านายเคยขอเอกสารต่าง ๆ ของตนไป เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน แต่ไม่ได้บอกว่าเอาไปทำอะไร  


ป้าติ๋ม เล่าว่า ตนรู้จักกับนางแคทเทอร์ริน มากว่า 17 ปี แล้ว โดยเพื่อนของนางแคทเทอร์รินได้แนะนำให้ตนเองไปสมัครทำงานเป็นแม่บ้าน ที่ห้องเช่าของนางแคทเทอร์ริน   


จากนั้น นางแคทเทอร์รินก็ได้ขยายธุรกิจจากห้องพักให้เช่า มาสร้างรีสอร์ต สร้างวิลล่า ธุรกิจเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตนเองก็เป็นแม่บ้าน คอยช่วยนางแคทเทอร์รินมาตลอด


จนล่าสุด เมื่อ 12 ปีก่อน นางแคทเทอร์รินมาซื้อที่ดินบนเกาะสมุย โดยจดทะเบียนเป็นบริษัท เพื่อสร้างวิลล่า 5 หลัง และสร้างวิลล่าหลังนี้ไว้พักอาศัยเอง โดยมีนางแคทเทอร์ริน / คุณวินเซนต์ (อดีตสามี) และตนเอง ช่วยกันสร้าง ช่วยกันดูแล และร่วมกันทำพิธียกเสาเอกวิลล่าหลังนี้ด้วยกัน


ช่วงเช้า วันที่ 28 เมษายน ตนมาทำความสะอาดบ้านตามปกติ และช่วงบ่ายขออนุญาตลาหยุดไปทำบุญที่วัดแถวนั้น เพราะเป็นวันเกิดพอดี เจ้านายยังอวยพรให้ตนมีความสุขมาก ๆ และพูดว่า “แฮปปี้เบิร์ธเดย์” ด้วย


จนกระทั่ง เช้าวันถัดมา คนงานดูแลสระน้ำก็โทรมาบอกว่า พบเจ้านายนอนเลือดท่วมตัวอยู่ริมสระ ตนตกใจมาก รีบขี่จักรยานยนต์จากบ้านมาดูด้วยความเป็นห่วง โดยมีคนงานดูแลสระ และคนสวน รวม 3 คน ชวนกันเข้าไปดูใกล้ ๆ จึงพบปืนวางอยู่ข้างตัวเจ้านาย จากนั้นก็แจ้งตำรวจ


หลังจากนั้น ตนเพิ่งเห็นว่า คุณแคทเทอร์รินส่งข้อความผ่านไลน์มาให้ และยังส่งอีเมลภาษาฝรั่งเศสอีกฉบับไปให้เพื่อนสนิทของคุณแคทเทอร์ริน ที่ชื่อนายเอ็มมานูเอลด้วย พอเปิดอ่านก็พบข้อความว่า


“ถึงติ๋ม


“ถนนของฉันสิ้นสุดแล้วที่นี่  ฉันคิดอย่างจริงใจว่า คุณเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงเลือกคุณให้เป็นผู้ดำเนินการของฉัน ไม่มีอะไรซับซ้อน สำเนาพินัยกรรมของฉัน จะอยู่ในตู้นิรภัยของฉัน ฉันอยากจะเผาศพ และเอาขี้เถ้าของฉันไปไว้บนเกาะ”


ส่วน บริษัท จี.วี.เอ็น.อี จำกัด (มะพร้าว) ซึ่งเป็นวิลล่าที่มีทั้งหมดของฉัน เหลืออีก 2 หลัง ขอคืนให้แฟนเก่าของฉัน และบัญชีธนาคารอีกบางส่วน ขอให้คุณดูแลแมว ทั้ง 3 ตัว ที่ฉันรัก


ฉันขอมอบโทรศัพท์เครื่องนี้  ซึ่งไม่มีรหัสผ่านให้คุณด้วย ฉันชำระค่าสมัครสมาชิกไว้แล้วเป็นเวลาหลายเดือน และโปรดแจ้งบุคคลต่อไปนี้ในฝรั่งเศสว่า ฉันตายแล้ว  ได้แก่ Valerie Miton เพื่อนของฉันในฝรั่งเศส, Martine Valnet เพื่อนของแม่อุปถัมภ์ของฉัน, Stephane Nemarq อดีตสามีของฉัน, Chantal Magnan ลูกพี่ลูกน้องของแม่ และ Marie Christine Loup ลูกพี่ลูกน้องที่อยู่ฝั่งแม่”


ในข้อความที่ส่งถึงป้าติ๋ม ยังเล่าถึงความทุกข์ทรมานของอาการเจ็บป่วยด้วย ซึ่งคาดว่า ภาพในกล้องวงจรปิดที่เห็นนางแคทเทอร์รินนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ก็คือนาทีที่กำลังพิมพ์ข้อความสั่งเสียเหล่านี้ถึงป้าติ๋ม และนายเอ็มมานูเอล ที่เป็นเพื่อนนั่นเอง


นอกจากนี้ เจ้านายยังสั่งเสียให้ช่วยดูแลแมว 3 ตัว ที่เธอรักมาก ๆ พร้อมกับโอนเงินจำนวน 5 แสนบาท ให้ตน เพื่อเป็นค่าทำศพให้เจ้านายด้วย ซึ่งตนสัญญาจะจัดงานให้ดีที่สุด และจะไม่ลืมพระคุณของเจ้านายเลย  


ส่วนสาเหตุที่นางแคทเทอร์รินตัดสินใจฆ่าตัวตาย คิดว่าน่าจะเกิดจากความเครียด เนื่องจากที่ผ่านมา เธอจะตัดพ้อกับตนเองอยู่ตลอดว่า ตัวเองเจ็บป่วย และทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งที่เป็นอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ นางแคทเทอร์รินป่วยเป็นโรคริดสีดวง ก่อนจะกลายเป็นมะเร็ง ซึ่งตนเองยังเชื่อมั่นว่า ที่เธอทำอย่างนั้น คงเพราะอยากไปอย่างสงบ  


โดยหลังจากนี้ ตนเองยังไม่ได้คิดว่า จะเอาวิลล่าหลังนี้ไปทำอะไรต่อ แต่คงไม่ขายแน่นอน เช่นเดียวกับรถหรูที่คุณแคทเทอร์รินยกให้ ถึงแม้ตนเองจะขับไม่เป็นก็ตาม


ทั้งนี้  ป้าติ๋ม แม่บ้านที่ได้รับมรดกมูลค่ามหาศาล ยังกล่าวต่อว่า ตนนั้น มีลูกทั้งหมด 4 คน มีอาชีพเป็นแม่บ้านมาตั้งแต่วัยรุ่น และได้ติดตามทำงานเป็นหัวหน้าแม่บ้านให้กับผู้ตายมากว่า 17 ปี  โดยมีเงินเดือนอยู่ประมาณ 22,000 บาท  


หลังจากนี้ ยังไม่ได้คิดวางแผนว่าจะทำอย่างไรต่อ โดยตอนนี้ จะขอทำพิธีทางศาสนาให้คุณแคทเทอร์รินก่อน แต่ศพยังอยู่ที่โรงพยาบาลเกาะสมุย ต้องรอการประสานกับหลายฝ่ายก่อน ถึงจะนำร่างของเจ้านายมาประกอบพิธีทางศาสนาได้

------------------

ด้านทนายเกิดผล แก้วเกิด ให้ความเห็นทางมุมกฎหมายว่า ในกรณีนี้ ถ้าพิสูจน์ได้ว่า ชาวต่างชาติผู้ตายทำพินัยกรรมตอนที่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ และเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ถูกต้อง คือ มีพฤติกรรมฉบับเดียว หรือเป็นพินัยกรรมฉบับล่าสุด ก็มีผลสมบูรณ์ ก็สามารถรับทรัพย์สินทางพินัยกรรมได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องสอบถามทายาท เว้นแต่ว่า ญาติของชาวต่างชาติคัดค้าน หรือต่อสู้ว่าเป็นพินัยกรรมปลอม ซึ่งถ้าเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ที่ถูกต้อง ทายาทคนอื่นจะถูกตัดไปโดยมีผลทางกฎหมายทันที

------------------

สำหรับพินัยกรรมฉบับเต็มของนางแคทเทอร์ริน ถูกเก็บไว้ในตู้เซฟ เขียนข้อความระบุว่า


“อย่าให้อะไรกับคุณวินเซนต์ (สามีเก่า) โดยที่เอ็มมานูเอลไม่เห็นด้วย คอมพิวเตอร์ว่างเปล่า มอบสำเนาภาษาฝรั่งเศสให้เอ็มมานูเอล เพื่อนสนิทของฉัน ขออภัยสำหรับความกังวล และปัญหาในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ฉันไว้วางใจให้คุณจัดการได้ดี นี่คือจุดสิ้นสุดของถนนของฉัน


เป็นเวลาอย่างน้อย 12 ปีแล้ว ที่คุณยังอยู่ที่นี่เพื่อฉัน ขอบคุณ หากไม่มีคุณ หลายสิ่งหลายอย่างคงเป็นไปไม่ได้ ฉันต้องการที่จะเผาร่างและเถ้าของฉันแยกกัน ถ้าเป็นไปได้ ดูแลแมวของฉัน จนกว่าพวกเขาจะพบครอบครัวใหม่ เพื่อนจะพยายามหาบ้านให้แมวของฉัน


รหัสเปิดตู้เซฟของฉัน คือ xxx ในตู้เซฟ มีโฉนด และเอกสารของวิลล่า มีเงินมัดจำสำหรับวิลล่า 2 พันดอลลาร์ (ประมาณ 70,000 บาท)


เครื่องประดับในกล่องดินสอสีขาวเป็นของคุณ วิลล่าที่พัก ที่ดินข้าง ๆ เป็นของคุณ บัญชีธนาคาร รถ บ้าน ทุกอย่างอยู่ในนั้น ฉันไม่มีครอบครัวอีกต่อไป โทรหาทนายของฉัน ชื่อ xxx  เขาสามารถให้คำแนะนำคุณได้


ฉันโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร เพื่อให้คุณสามารถชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ ระหว่างรอการเข้าถึงบัญชีธนาคารของฉัน ใช้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการทำศพ สำหรับดูแมว ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้ติดต่อทนายของฉัน


มอบเงิน 50,000 บาท ให้กับ “ปิง” คนดูแลสระว่ายน้ำ สำหรับลูก ๆ ของเขา สำหรับวิลล่าอีก 2 หลัง ให้คุณวินเซนต์ (สามีเก่า) รถมีประกันถึงเดือนสิงหาคม มีกุญแจสำรองอยู่ท้ายรถ อย่าไว้ใจคุณวินเซนต์ (สามีเก่า) แต่คุณไว้ใจคุณเอ็มมานูเอลได้นะ เขาเป็นเพื่อนของฉัน เอาโทรศัพท์ของฉันไปให้คุณเอ็มมานูเอล”


ทั้งนี้ นางแคทเทอร์ริน มีวิลล่าทั้งหมด 6 หลัง เป็นที่พักของตัวเอง 1 หลัง อีก 5 หลังสร้างไว้ขาย ซึ่งขายไปแล้ว 3 หลัง ยังเหลืออีก 2 หลัง


สำหรับผู้ที่มีรายชื่อรับมรดกของคุณแคทเทอร์ริน คือ ป้าติ๋ม ที่ได้วิลล่าที่เป็นบ้านพักของคุณแคทเทอร์ริน ราคาประมาณ 50 ล้านบาท, ที่ดินเปล่าข้าง ๆ วิลล่า ประมาณ 2 ไร่ ราคาประมาณ 7 ล้านบาท, รถหรู, เครื่องประดับเพชรพลอย, เงินในบัญชีธนาคาร / นายวินเซนต์ สามีเก่า ได้วิลล่า 2 หลัง (วิลล่าที่ยังขายไม่ได้) และเงินในบัญชีจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ ยังตามหาตัวนายวินเซนต์ไม่ได้  / นายปิง คนดูแลสระว่ายน้ำ ได้เงินสด 50,000 บาท

------------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kBO-6rBn2eA

คุณอาจสนใจ

Related News