คลังเรียกเงินคืนจากร้านค้า ทำผิดเงื่อนไข "เราชนะ" จ่อตัดสิทธิ์ทุกโครงการของรัฐ

หลังจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ส่งหนังสือเรียกเงินคืนจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเราชนะ ซึ่งบางรายถูกเรียกเงินคืนสูงสุดถึง 17 ล้านบาท ล่าสุด กระทรวงการคลังชี้แจงเรื่องนี้ ระบุว่า เป็นเพราะร้านค้าทำผิดเงื่อนไข เเต่เปิดโอกาสให้ยื่นอุทธรณ์ได้ ภายใน 15 วัน ขณะโฆษกรัฐบาล เตือนให้ระวังจะเสียสิทธิจากโครงการของรัฐอื่นๆ ในอนาคต

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ชี้แจงกรณีเรียกเงินคืนจากร้านค้า ที่ทำผิดเงื่อนไขโครงการเราชนะ โดยบอกว่า สศค.ได้กำหนดเงื่อนไข เพื่อควบคุมและป้องกันการกระทำผิดวัตถุประสงค์ ของโครงการอย่างเข้มงวด และได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องร้องเรียน กรณีพบการฝ่าฝืน

การดำเนินการมี 3 ขั้นตอน คือ

(1.) ระงับสิทธิ์ชั่วคราวการใช้แอปพลิเคชั่น "ถุงเงิน" เมื่อพบพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น จุดรับเงินของแอปพลิเคชั่น "ถุงเงิน" ขยับไปมาระยะไกล  ทำธุรกรรมเต็มจำนวนวงเงินเเละใช้สิทธิจำนวนมาก

(2.) เมื่อพิจารณาเอกสารหลักฐานของร้านค้าแล้ว เห็นว่าฝ่าฝืนหลักเกณฑ์จริง หรือไม่ชี้แจงโต้แย้งภายในเวลาที่กำหนด จะมีหนังสือแจ้งและขอให้ชำระเงินคืน ซึ่งร้านค้าสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งขณะนี้มีร้านค้าที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขของโครงการ มากถึง 2,099 ราย

(3.) เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามข้อ 2. แล้ว กรณีไม่อุทธรณ์ หรือไม่ชำระเงินคืน รวมถึงกรณีอุทธรณ์แล้ว แต่คณะทำงานฯเห็นว่า ยังมีพฤติกรรมฝ่าฝืนเงื่อนไข ก็จะมีหนังสือแจ้งอีกครั้ง หากร้านค้ายังไม่ชำระเงินคืน จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย

เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ จึงขอให้ร้านค้าชี้แจงเหตุผล พร้อมยื่นหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อ สศค. ภายในเวลาที่กำหนด เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป

ผู้อำนวยการ สศค. ระบุเพิ่มเติมว่า โครงการเราชนะ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  มีประชาชนได้รับสิทธิ จำนวน 33.2 ล้านคน ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 9,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขก็คือ จะต้องใช้จ่ายกับร้านค้าในโครงการ จำนวน 1.3 ล้านราย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ , แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" และบัตประชาชน 

ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่าจากการตรวจสอบ พบการทำธุรกรรมที่ผิดเงื่อนไข หลากหลายวิธี เช่น บางร้านรับสแกนแล้วแลกเป็นเงินสด ร้านค้าออนไลน์บางเเห่ง รับสแกนซื้อ-ขายกันข้ามจังหวัด ทำให้จุดรับเงินขยับไป-มาเกิน 7,000 กิโลเมตรใน 1 วัน จึงฝากย้ำเตือนไปยังผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ อย่าได้มีธุรกรรมเสี่ยง เพราะถ้าพบว่าผิดเงื่อนไข อาจเสียสิทธิในการเข้าร่วมโครงการ หรือมาตรการของรัฐอื่นๆ ในอนาคตด้วย

ล่าสุด มีรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (12 พ.ค.) เวลา 10.30 น. กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าที่ถูกเรียกเงินคืน กว่า 100 ราย จะรวมตัวไปยื่นหนังสือร้องเรียน ที่ศูนย์ร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล