สังคม

นายกฯ ชี้ย้าย 'บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก' ไม่ใช่ลงโทษ แต่เพื่อแก้ขัดแย้ง ตั้งกก.สอบ รู้ผลใน 60 วัน

โดย panwilai_c

20 มี.ค. 2567

33 views

นายกรัฐมนตรี เรียก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ไปพบ ก่อนที่ทั้งสองจะเปิดแถลงข่าวร่วมกัน ในลักษณะของการยุติความขัดแย้ง กระทั่งต่อมานายกรัฐมนตรี ได้สั่งย้ายทั้งสอง ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ให้รู้ผลภายใน 60 วัน



ช่วงประมาณบ่ายสอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องคำสั่งย้ายว่า ทั้งสองยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แต่เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเดินหน้าไปได้ด้วยความสะดวก ดูแลประชาชนได้เต็มที่ ไม่มีการก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม จึงขอโอนทั้งสองมาช่วยราชการที่สำนักนายกฯเป็นการชั่วคราว ประมาณ 60 วัน ระหว่างการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันเป็นการย้ายมาชั่วคราว ไม่ได้เป็นการลงโทษ



ทั้งนี้นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้ออกคำสั่งไป 2 ฉบับแล้ว ฉบับแรก เป็นคำสั่งย้ายทั้งสองท่านมาประจำสำนักนายกฯ / ฉบับที่สอง มอบหมายให้ พลตํารวจเอกกิตติรัฐ พันธุ์เพชร รอง ผบ.ตร.รักษาการ ผบ.ตร. / และฉบับที่ 3 คือตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะมี 3 ท่าน



ผู้สื่อข่าว ถามว่าให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีอะไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ก็คดีที่มีการพูดกัน ทุกคดีที่มีการกล่าวโทษซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ นายกฯเปิดเผยด้วยว่า วันนี้ได้นัดพูดคุยกับคณะกรรมการทั้ง 3 ท่านด้วย และ วันพรุ่งนี้ ก็จะไปเป็นประธานการประชุม กตร. เพื่อชี้แจงนโยบายการทำงาน ซึ่งก็คงไม่จำเป็นต้องชี้แจงเรื่องนี้อีก



ทั้งนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและ ประกอบด้วย

1. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ

2. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด กรรมการ

3. พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ กรรมการ และเลขานุการ



ซึ่งเป็นคณะการชุดเดิมที่เคยตรวจสอบกรณีบุกค้นบ้านพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ที่เคยมีคำสั่งนายกรัฐมนตรี ในครั้งนั้นว่า ให้สรุปผลการสอบสวนภายใน 30 วัน แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่มีการแถลงผลในครั้งนั้นแต่อย่างใด



หลังรับทราบคำสั่งย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า ทราบมาก่อนแล้วว่า ต้องย้าย เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งก่อน ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ คำสั่งย้ายเช่นกันว่า พร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง



ก่อนหน้าที่จะมีคำสั่งย้าย และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งสองได้ถูกนายกรัฐมนตรี เรียกเข้าพบ ก่อนจะเดินทางมาร่วมแถลงข่าว ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยุติความขัดแย้ง



โดย ผบ.ตร. ระบุว่า เป็นผู้ชวน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าพบนายกรัฐมนตรีเอง เพื่อแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีว่า คดีที่เกี่ยวเนื่องกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และนายตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งหมด ในคดีเว็บพนันออนไลน์ ทั้งสำนวนคดีของสน.เตาปูน และ สน.ทุ่งมหาเมฆ จะส่งไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ เพื่อความความยุติธรรม และไม่เกิดภาพของความขัดแย้งขึ้นอีก



พร้อมระบุว่า ระหว่างเขากับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่มีความขัดแย้งใดๆ แต่ภาพและประเด็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาจากสื่อโซเชียลทั้งนั้น หลังจากนี้หากเกิดภาพความขัดแย้งขึ้นอีก ให้เข้าใจว่าเกิดจาก "Social Media" ไม่ได้เกิดจากเขาทั้งสองคน



ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้แถลงว่า คดีที่มีการฟ้องร้องกัน เช่น การฟ้องร้องพนักงานสอบสวนกว่า 200 คน คดีที่พลตำรวจตรี นำเกียรติ ฟ้อง ผบ.ตร. และคดีที่เขาฟ้องพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ จะทำอย่างไรว่า ต้องถอนฟ้องทุกคดี จะไม่มีเอาคืนกับพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีตนเอง



หลังจบการแถลงข่าว ทั้งคู่ได้ยืนขึ้นหลังโต๊ะแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้แสดงความเคารพ โดยการยกมือไหว้ และโค้งคำนับ ก่อนจะไปยืนชิด ผบ.ตร. พร้อมทั้งกอดเอว กอดไล่กัน เพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ

คุณอาจสนใจ

Related News