ชาวบ้านผวา ลุงสติไม่สมประกอบ ติดโควิด เดินเพ่นพ่าน ถ่มน้ำลายไปทั่ว หวั่นแพร่เชื้อให้คนอื่น

ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ จากคุณปัด หลังครอบครัวติดเชื้อยกบ้าน 4 คน ไปรักษาตัวกันหมดแล้ว เหลือเพียงคุณลุง อายุ 66 ปี ที่สติไม่สมประกอบอยู่บ้านลำพัง เพราะไม่มีบัตรประชาชน แต่คุณลุงมักออกมาเดินเพ่นพ่านในหมู่บ้าน โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย และยังถ่มน้ำลายไปทั่ว จนชาวบ้านหวาดผวา หวั่นจะแพร่เชื้อให้คนอื่น

โดยบ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน มีคุณพ่อ คุณแม่ คุณป้า 2 คน และคุณลุงที่สติไม่สมประกอบมานานกว่า 20 ปี ส่วนตนพักอาศัยอยู่ที่อื่น จะมาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่บ้างเป็นบางครั้ง

ก่อนหน้านี้คุณลุงมีอาการไอหนัก และมีเสมหะปนเลือด แต่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นโควิด เพราะมีอาการไอแบบนี้มานานเป็นปีแล้ว แต่ต่อมาคุณป้าที่เป็นพี่สาวของเขาเริ่มมีอาการ จึงไปตรวจ และพบว่าติดเชื้อ คนในบ้านที่เหลือจึงไปตรวจ และพบว่าติดเชื้อทั้งหมด ยกเว้นคุณแม่เพียงคนเดียวที่ผลเป็นลบ จึงแยกไปกักตัวไปอยู่ที่อื่น

ส่วนตัวคุณลุงตอนแรกคุณพ่อชื้อชุดตรวจมาเพื่อจะตรวจให้ แต่เขาไม่ยอมตรวจ บอกว่าจะเอาเชื้อไปให้เขา พร้อมกับถือไม้ไล่ตีคุณพ่อ แต่เมื่อวันที่ 15 ส.ค. มีเจ้าหน้าที่สวมชุด PPE เข้ามาฉีดพ่นฆ่าเชื้อในบ้าน คุณพ่อจึงขอร้องให้เขาช่วยตรวจให้คุณลุง คุณลุงถึงจะยอมตรวจ และผลออกมาเป็นบวก

ขณะนี้คุณพ่อ และคุณป้าอีก 2 คน ได้เข้ารักษาตัวในฮอสพิเทลแล้ว เหลือเพียงคุณลุงคนเดียวที่ยังอยู่ที่บ้าน เพราะไม่มีบัตรประชาชน เคยขอดูบัตรประชาชนของเขาแล้ว แต่เขาไม่ยอมให้ดู บอกว่าพวกตนจะไปทำร้ายเขา คนในบ้านไม่กล้าไปเข้าไปในห้องของเขา ตนจึงไม่ทราบว่าเขามีบัตรประชาชนหรือไม่

ซึ่งที่ผ่านมา คุณลุงมักอยู่เงียบๆคนเดียว ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ไม่ยอมใช้ห้องน้ำร่วมกับคนอื่น แต่ใช้วิธีงัดพื้นห้องขึ้นมาแล้วปัสสาวะอุจจาระลงใต้ถุนบ้านแทน จนกลิ่นโชยไปทั่วบ้าน บางครั้งก็อุจจาระใส่ถุงพลาสติก แล้วเดินออกมาโยนทิ้งตามพงหญ้าในหมู่บ้าน และมักจะอาละวาดทำลายข้าวของและทำร้ายคนในบ้านหลายครั้ง บางครั้งก็ถือมีดไล่ฟันหรือถือปืนที่ไม่มีกระสุนไล่ยิงคนในบ้าน ซึ่งครอบครัวก็ไม่รู้จะทำอย่างไร คุณพ่อเคยพาเขาขึ้นหลังรถกระบะเพื่อจะพาไปรักษาอาการทางจิตแล้ว แต่เขากระโดดหนีลงกลางทาง เขาจึงไม่เคยได้รับการรักษาเลย

ตอนนี้คุณลุงอยู่เพียงลำพังในบ้าน และมักเดินออกมาซื้อของหลายครั้ง โดยที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย บางครั้งก็สวมไว้ใต้คาง เดินเพ่นพ่านไปทั่วหมู่บ้าน และยังถ่มน้ำลายไปทั่ว พอเพื่อนบ้านเห็น ตะโกนถามว่าติดโควิดไม่ใช่หรือ ทำไมออกมานอกบ้าน เขาก็ไม่สนใจ ทำให้เพื่อนบ้านต่างหวาดกลัวกันว่าคุณลุงจะนำเชื้อแพร่กระจายให้คนอื่นๆ และยังหวั่นว่าจะถูกคุณลุงทำร้ายอีกด้วย

ทั้งนี้ ตนไม่กล้าล็อกกุญแจขังเขาไว้ในบ้าน เพราะก่อนหน้านี้เคยล็อกแล้วเขาโมโหจนเผาบ้านมาแล้ว แต่โชคดีที่เข้าไปดับไฟได้ทัน ซึ่งตนได้ติดต่อไปหน่วยงานหนึ่ง เขาก็บอกว่าจะมารับไปรักษา แต่ก็เงียบหายไป ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว จึงนำกระดาษไปแปะประตูไว้ว่า "บ้านนี้มีคนติดโควิดนะคะ" ตนจึงอยากขอความช่วยเหลือ ช่วยพาคุณลุงไปรักษา ไม่อยากให้สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นๆ

ขณะที่เพื่อนบ้านเผยว่า ชาวบ้านในละแวกต่างหวาดกลัวเขา เพราะเขาสติไม่สมประกอบ คุ้มดีคุ้มร้าย กลัวว่าเขาจะคลุ้มคลั่งขึ้นมา ยิ่งตอนนี้ที่เขาติดโควิด กลัวว่าจะแพร่เชื้อให้คนอื่น ซึ่งล่าสุดตนได้หากุญแจมาล็อกประตูรั้วไว้ให้ และคอยจับตาดูแทนญาติ แต่จู่ๆก็เห็นเขาเดินออกมาซื้อของได้ ตนก็งงมากว่าเขาออกมาได้อย่างไร ตอนนี้คนในละแวกนี้กลัวเขามาก เหมือนเป็นบุคคลอันตรายไปเลย

เบื้องต้น ทีมข่าวได้ประสานไปยังกรมสุขภาพจิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้รับเรื่องไว้ และประสานเรื่องให้ทีมงาน MCATT covid ซึ่งเป็นระบบดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่ติดเชื้อโควิด เพื่อนำข้อมูลผู้ป่วยเข้าระบบ ก่อนจะเข้าทำการช่วยเหลือนำตัวมารักษาอาการโควิด และจะทำการรักษาอาการทางจิตให้เขาต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/5cGBKOL8_w0