สังคม

2 พ่อลูกติดโควิด กักตัวในกระต๊อบ กางเต็นท์นอนกลางดงกล้วย แจงยังไม่เดือดร้อน ขอให้คนอาการหนักได้มีเตียงรักษา

โดย thichaphat_d

9 ส.ค. 2564

72 views

วานนี้ (8 ส.ค.) ทีมข่าวลงพื้นย่านมีนบุรี กรุงเทพฯ พบสองพ่อลูก พ่อทราบชื่อนายสมหวัง (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ลูกชายทราบชื่อนายธิตินันทร์ หรือน้องอาร์ต อายุ 18 ปี ทั้งคู่ติดเชื้อโควิดโดยผู้เป็นพ่ออาศัยกักตัวอยู่ในบ้าน ลักษณะคล้ายกระต๊อบหลังเล็ก ๆ มุงด้วยสังกะสี ส่วนลูกชาย แยกกักตัว โดยกางเต็นท์นอนบนแคร่ไม้กลางดงกล้วยข้าง ๆ กระต๊อบที่พ่ออยู่


จากการลงพื้นที่พบว่ากระต๊อบที่สองพ่อลูกอาศัยอยู่นั้น ปลูกอยู่บริเวณหลังบ้านของญาติอีกคน โดยน้องอาร์ต กักตัวอยู่แต่ในเต็นท์ จะออกมาเฉพาะเข้าห้องน้ำเท่านั้น ซึ่งอยู่ข้าง ๆ บ้านญาติคนดังกล่าว ข้าง ๆ เต็นท์มีผ้ายางกองอยู่ ซึ่งน้องอาร์ต เอาไว้คลุมหลังเต้นท์เวลาฝนตกหรือแดดแรง ๆ เนื่องจากเต็นท์ที่น้องอาร์ต นอนกักตัวค่อนข้างบางไม่สามารถกันแดดกันฝนได้ ฝนตกทีไรน้ำฝนจะซึมเข้าไปในเต็นท์จนที่นอนเปียก


ภายในเต็นท์มีที่นอน หมอน ผ้าห่ม น้ำดื่ม กระดาษทิชชู่ หน้ากากอนามัย ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้ไอ ฟ้าทะลายโจร ใส่ไว้ในถังน้ำตั้งอยู่ข้าง ๆ ที่นอน สำหรับใช้กินเพื่อบรรเทาอาการ บางครั้งน้องอาร์ตก็จะออกมานั่งหย่อนเท้าอยู่หน้าเต็นท์ คอยส่งเสียงถามอาการคุณพ่อว่าเป็นอย่างไรบ้าง


ขณะที่คุณพ่อ ปิดประตูกักตัวเองอยู่ด้านในกระต๊อบ จะนั่งอยู่ข้าง ๆ คอยมองดูลูก ลอดช่องคล้ายหน้าต่างที่ทำด้วยไม้เลื่อนเปิดปิดได้ เปิดออกกว้าง ๆ ไม่ได้ แล้วส่งเสียงถามลูกชายว่า “อาร์ตเป็นอย่างไงบ้าง ดีขึ้นมั้ย” ทั้งคู่จะพูดคุยหรือส่งยาให้กันกิน ผ่านช่องดังกล่าวนี้


น้องอาร์ต เล่าว่า ตนเองเรียน กศน. ช่วงนี้ไม่ได้ไปเรียนจึงรับจ้างทำความสะอาด กวาดถนนในหมู่บ้าน ต่อมาวันที่ 15 ก.ค. มีอาการปวดศีรษะตัวร้อน กระทั่งวันที่ 30 ก.ค. เป็นไข้ ตาแดงมีน้ำมูก วันที่ 31 ก.ค. จึงไปตรวจหาเชื้อโควิดที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เขตมีนบุรี ผลออกมาเป็นบวก จากนั้นกลับมากักอยู่ในกระต๊อบกับพ่อด้วยกัน 2 คน ขณะนั้นพ่อยังไม่ติดเชื้อ


โดยภายในกระต๊อบคับแคบ จึงเอาพลาสติกใสมากั้นระหว่างกลางแยกกันอยู่คนละฝั่ง ต่อมาวันที่ 2 ส.ค. ตนย้ายมากางเต็นท์นอนข้างนอนลำพังกลัวพ่อจะได้รับเชื้อไปด้วย ย้ายออกมานอนในเต็นท์ได้เพียง 2 วัน คุณพ่อ เริ่มมีอาการเป็นไข้ วันที่ 3 ส.ค. จึงได้ไปตรวจหาเชื้อพบว่าติดโควิด พอทราบผลพ่อก็กลับมากักตัวอยู่ที่กระต๊อบ แยกกันอยู่ พ่อนอนในกระต๊อบ ตนเองกางเต็นท์นอน


น้องอาร์ต เล่าต่อว่า “อยากเข้าไปอยู่ด้านในกระต๊อบ ผมคิดว่าพ่อเพิ่งมีอาการเริ่มแรก ผมอาการดีขึ้นแล้ว พ่อกลัวว่าอาการของผมจะทรุดหนักไปอีก ผมจึงขอกางเต็นท์นอนอยู่ข้างนอก แล้วคอยถามอาการกันไปมา” ทั้งนี้ตนเองประสานขอความช่วยเหลือหน่วยงาน ๆ 2-3 หน่วยงาน เจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้แต่ก็เงียบหายไป มีเพียงกลุ่มอาสาฯ ที่นำสิ่งของยาฟ้าทะลายโจรมาให้กินบรรเทาอาการ


“ผมไม่ต้องการเตียง อยากให้คนที่อาการหนักได้มีเตียงรักษา ผมกับพ่อยังไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ มีคนหาข้าวหาน้ำและยาฟ้าทะลายโจรมาให้กิน ขอรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่ถ้าอาการดีขึ้นหรือหายดีแล้ว ก็อยากให้เขาเอายาไปช่วยคนอื่น” อยู่ลำบากมากแต่ก็ยอมรับ ในเมื่อติดเชื้อมันก็ทำอะไรไม่ได้แล้วก็ต้องทนอยู่แบบนี้ไปก่อน


ตอนนี้พ่อให้ญาติมาสร้างกระต๊อบอีกหลังอยู่ใกล้ ๆ กระต๊อบหลังเดิม เพื่อให้ตนได้อาศัยในช่วงกักตัวรักษาโควิด พ่อเป็นห่วงไม่อยากให้ลำบาก กลางคืนไม่มีไฟ เดินไปเข้าห้องน้ำสะดุดตอไม้ประจำ “ผมเป็นห่วงพ่อมากกว่าเพระเป็นโรคปอดกลัวอาการจะทรุด” อย่างไรก็ตามตอนนี้มีเพียงยาแก้ไข้ ฟ้าทะลายโจรไว้กินบรรเทาอาการเท่านั้น มียาฟ้าทะลายโจร 1 กระปุก แบ่งกันกิน ตนแบ่งมากิน 10 เม็ด ที่เหลือให้พ่อกิน


ด้านนายสมหวัง พ่อของน้องอาร์ต บอกว่า ทีแรกตนอาศัยอยู่ในกระต๊อบกับลูกชายสองคน นำพลาสติกใสมากั้นกลางคิดว่าเชื้อจะไม่แพร่กระจาย สุดท้ายตนเองก็ติดเชื้อโควิด ลูกขอกางเต็นท์นอนอยู่ข้างนอก ตนบอกกับลูกว่าให้นอนอยู่อย่างนี้ไปก่อน เดี๋ยวจะทำกระต๊อบอีกหลังให้อยู่ กำลังสร้างยังไม่แล้วเสร็จ หากฝนตกหนักตนก็เรียกให้ลูกเข้ามาอยู่ในกระต๊อบด้วยกัน แต่ลูกชายบอกทนอยู่ในเต็นท์ได้



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/jFleOsLlhQs

คุณอาจสนใจ