เปิดม่านประชุมสุดยอดอาเซียน จับตาสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในเมียนมา

การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 พฤศจิกายน เริ่มขึ้นแล้วที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยมีผู้นำจากชาติสมาชิกประชาคมอาเซียน 10 ชาติ และประเทศคู่เจรจาเข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง

โดยเมื่อวานนี้ ผู้นำไทย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย และ อัซฮาร์ อาซิซาน ฮารัน ประธานสภาของมาเลเซีย ได้ร่วมการประชุม "โกลเดน ไทรเองเกิล ซัมมิต" ซึ่งเป็นการประชุมนอกรอบ เพื่อยกระดับความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันด้วย

โดยในส่วนของอาเซียนเอง ประเด็นที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในเมียนมา ที่ดูจะไม่มีพัฒนาการในแง่บวกใดๆ โดยอาเซียนยังคงไม่เชิญผู้แทนทางการเมืองของเมียนมา เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้เช่นเดิม

นอกจากนั้น อีกประเด็นที่คนจับตามองคือ การเดินทางมาเข้าร่วมประชุมกับผู้นำอาเซียนของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นครั้งแรก หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯเดินทางมาประชุมกับผู้นำอาเซียนครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2017 ท่ามกลางการพยายามที่จะสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาค

โธมัส แดเนียล ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติของมาเลเซีย กล่าวว่า สำหรับอาเซียนการที่่ผู้นำสหรัฐฯเดินทางมาร่วมประชุมด้วยตนเองนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หลังจากการหายตัวไปของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ถูกมองว่าเป็นการลดระดับความสัมพันธ์กับอาเซียนลง