ฝนถล่ม “ภาคใต้” วิกฤตหนัก เผชิญกับอุทกภัยหลายจังหวัด “นครศรีธรรมราช-ตรัง-พัทลุง-สตูล”

สถานการณ์อุทกภัย “ภาคใต้” กระจายหลายจังหวัด โดยผู้สื่อข่าว จ.ตรัง รายงานว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ 22 พ.ย.68 มวลน้ำจากคลองลำชาน และมวลน้ำจากคลองสาขาต่าง ๆ ภายหลังจากที่มีฝนตกติดต่อกันลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายวัน ประกอบกับปริมาณน้ำป่าซึ่งอยู่เหนือลำคลองที่สะสมเป็นจำนวนมาก ได้เอ่อล้นเข้าท่วมภายในเขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ตั้งแต่ช่วงย่ำรุ่งที่ผ่านมา


โดยเฉพาะภายในตลาดสดย่านตาขาว (เขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว) ซึ่งถือเป็นใจกลางเศรษฐกิจสำคัญของอ.ดังกล่าว มวลน้ำได้เอ่อเข้าท่วมในขณะที่พ่อค้าแม่ค้ากำลังค้าขาย และมีชาวบ้านมาจับจ่ายซื้อของกันอยู่ ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างต้องเร่งเก็บข้าวของและสินค้ากัน เพื่อที่จะหนีน้ำ ไปจำหน่ายที่หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลย่านตาขาว ซึ่งเป็นพื้นที่สูงกว่า และอยู่ห่างจากตลาดสดย่านตาขาวเป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร อย่างทุลักทุเล โดยมีชาวบ้านทั้งในพื้นที่และพื้นที่ข้างเคียง ต่างออกมาจับจ่ายซื้อของเพื่อนำไปกักตุนไว้ในช่วง 1-2 วันนี้ โดยส่วนใหญ่หวั่นว่ามวลน้ำจะเพื่อสูงขึ้นและเข้าท่วมในพื้นที่ข้างเคียง


โดยถนนสำคัญที่มวลน้ำเข้าท่วม ได้แก่ถนนวรคีรี และถนนในบ้าน ชาวบ้านต่างไม่คาดคิดว่ามวลน้ำจะเข้าท่วมอีกครั้งในปีนี้ เนื่องจากในห้วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาไม่เคยเกิดน้ำท่วมในเขตเทศบาลมาก่อน ภายหลังจากที่มีการปรับปรุงขยายและขุดลอกลำคลองย่านตาขาว หรือแม่น้ำปะเหลียน พร้อมกับทำพนังกั้นน้ำ ซึ่งในครั้งนี้มวลน้ำส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากคลองย่านตาขาว หรือแม่น้ำปะเหลียน ซึ่งเป็นลำคลองหลัก แต่เอ่อมาจากคลำคลองสาขาที่อยู่ในพื้นที่


ขณะที่ นายสมนึก ธูปหอม นายอำเภอย่านตาขาว พร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ อส. อ.ย่านตาขาว เจ้าหน้าที่เทศบาลฯ กำลังตำรวจจราจร ได้ออกให้ความช่วยเหลือประชาชน ในการช่วยขนข้าวของ จัดการดูแลการจราจร โดยภาพรวมสถานการณ์มีน้ำสูงตั้งแต่ 0.3 เมตร ถึง 1 เมตร ซึ่งคาดว่าปริมาณน้ำอาจจะเพิ่มสูงขึ้น หากมีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเพิ่มขึ้น ส่วนถนนเส้นทางหลักที่จะเดินทางไปยังอ.ข้างเคียง รวมทั้ง จ.สตูลนั้น ยังคงสัญจรได้ตามปกติในขณะนี้


นายสมนึก ธูปหอม นายอำเภอย่านตาขาว เปิดเผยว่า ตอนนี้น้ำจากด้านบนเทือกเขาบรรทัด และคลองลำชานได้ไหลมาท่วมตลาดย่านตาขาว ในเขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว โดยน้ำเริ่มไหลมาตั้งแต่ตี 4 ตอนนี้ได้เพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเทศบาลฯ ได้ระดมพลมาช่วยขนของตั้งแต่เมื่อคืน ทางตนก็ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและแจ้งผู้บังคับบัญชาให้รับทราบ โดยขอกำลังสนับสนุนจากทหารค่าย ร.15 พัน 4 และกำลัง อส.


โดยมีการเฝ้าระวังมาตลอดตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งเมื่อคืนนี้มีท่วมบ้างในเส้นทางน้ำที่มาจากเทือกเขา 5 ตำบล 14 หมู่บ้าน 40 กว่าครัวเรือน แต่ไม่คาดคิดว่าน้ำจะท่วมมากจึงให้พี่น้องประชาชนเฝ้าระวังตลอด โดยแจ้งเตือนทางหอกระจายข่าวและให้เทศบาลแจ้งเตือน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีน้ำท่วมมานานกว่า 10 ปีแล้ว ตั้งแต่เราทำคลองหินขวาง แต่ครั้งนี้มวลน้ำมาเยอะจากเส้นคลองลำชาน อ.นาโยง เพราะมีฝนตกต่อเนื่อง 4 วันกว่าทำให้ปริมาณน้ำมันเยอะ มองว่าน้ำจะท่วมขังนานเป็นวันก่อนจะลงคลองปะเหลียนและไหลออกสู่ทะเลไป


หากยังมีฝนตกต่อเนื่อง ก็จะต้องมีน้ำขังอยู่อีกระยะหนึ่งน่าจะเป็นวัน ๆ สำหรับ จ.ตรังมีน้ำท่วมแล้วรวม 9 อ.จากทั้งหมด 10 อ. ยกเว้นอ.หาดสำราญ โดยมีแนวโน้มขยายวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องหลายวันติดต่อกัน.


ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพัทลุงทวีความรุนแรงขึ้น หลังมีน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดทะลักเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 9 ตำบลชะมวง อ.ควนขนุน โดยเฉพาะบริเวณ วัดล้อ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขณะเดียวกันน้ำได้ไหลหลากเข้าท่วม ถนนสายเอเชีย บริเวณ สี่แยกโพธิ์ทอง ฝั่งขาขึ้น ระดับน้ำสูงครึ่งเลน ส่งผลให้รถทุกชนิดต้องชะลอความเร็วและการจราจรติดขัดอย่างมาก


น้ำที่เพิ่มระดับอย่างต่อเนื่องมีสาเหตุมาจากการที่ ฝ่ายชลประทานได้เปิดประตูระบายน้ำ 3 บาน เพื่อรองรับน้ำป่าที่ไหลลงจากเทือกเขาบรรทัด ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำถูกน้ำหลากท่วมเป็นวงกว้างบนถนนเส้นทางเข้าตัวอ.ควนขนุนจากสี่แยกโพธิ์ทอง มีน้ำท่วมขังยาวประมาณ 1 กิโลเมตร แม้ยังสามารถสัญจรได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง โดยคาดว่าระดับน้ำจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา


ในพื้นที่ ชุมชนหลังตลาดสด อ.ควนขนุน มุ่งหน้าไปบ้านควนพลี มีน้ำท่วมสูงเกือบ 50 เซนติเมตร รถยนต์ขนาดเล็กสัญจรลำบาก บ้านเรือนกว่า 50 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ หลายครอบครัวต้องใช้ชีวิตท่ามกลางน้ำท่วมขัง


นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุงได้รับแจ้งเหตุ รถจักรยานยนต์ล้มลงเอง ในพื้นที่หมู่ 13 ตำบลควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง บริเวณคลองลำเบ็ด ซึ่งมีระดับน้ำล้นสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ทำให้รถพยาบาลไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงประสานตำรวจ ตชด.43 ใช้รถกระบะฝ่ากระแสน้ำเข้าช่วยเหลือ ก่อนปฐมพยาบาลและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล


ขณะนี้หลายพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงยังคงมีฝนตกหนักสลับเบา แต่ต่อเนื่องตลอดทั้งคืน โดยพื้นที่ล่อแหลมที่สุดคือ อ.ริมเทือกเขาบรรทัด ซึ่งยังคงมีน้ำป่าไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง จนสถานการณ์น่าเป็นห่วง


ส่วนในพื้นที่จ.สตูลถือว่าเข้าขั้นวิกฤตทั้ง 7 อ.จมบาดาลและที่หนักสุดตอนนี้อยู่ที่อ.ควนโดนและอ.ละงู โดยที่อ.ละงูที่ต.เขาขาว น้ำได้ไหลเข้าท่วมกลางดึก อบต.อส.จ.สตูลเร่งช่วยชาวบ้านกลางดึกตลอดถึงเช้าได้อพยพทั้งคนสัตว์สิ่งของออกมาไว้ที่ปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่หมู่5 บ้านดาหลำ ชาวบ้านได้ช่วยกันลากรถที่ติดน้ำท่วม และได้เคลื่อนย้ายวัวไปไว้ในที่ปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำยังคงเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ส่วนที่อ.ควนโดนระดับน้ำท่วมสูงมากเข้าขั้นวิกฤต บ้านเรือนราษฎรด้านในเช่น สะพานเคียน สะพานโยง ย่านซื่อ ปันจอร์ ดินทรุด ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร โดยระดับน้ำไหลล้นเข้าท่วมเส้นทางสายหลักสตูล-หาดใหญ่โดยเฉพาะเส้นทางตั้งแต่บ้านโคกประดู่จนถึงบ้านปันจอร์น้ำท่วมขึ้นมาเป็นผวิถนนจนถึงขอบเกาะกลางถนนจนต้องปิดทางจราจรเส้นขาออก และให้วิ่งสวนเลนขาเข้าเลนเดียวระยะทางที่น้ำท่วมบนถนนประมาณ 3 กม. โดยน้ำฝั่งตะวันตกไหลเข้าท่วมฝั่งตะวันออก ล้นเข้ามาเขตอ.เมืองบริเวณบ้านโคกประดู่ ต.ฉลุง อ.เมือง บริเวณปะชายแคมป์มีนักท่องเที่ยวตั้งแคมป์อยู่ระดับน้ำสูงขึ้นจนต้องเร่งขนย้ายข้าวของเกือบแทบไม่ทัน


นายอนุรักษ์ ไปรฮูยัน นักท่องเที่ยวและชาวบ้านในละแวก กล่าวว่า เข้ามาตั้งแคมป์ที่ปะชายแคมป์แห่งนี้ตั้งแต่เมื่อวานเพราะดูจากระดับน้ำน้ำเริ่มลดลงในตอนเย็น และน้ำมาท่วมทะลักข้ามฝั่งมาอีกด้านของถนนในช่วงตี5ของวันนี้และในช่วงเช้าก็คิดว่าน้ำคงลดปรากฏว่าระดับน้ำไหลแรงเชี่ยวและยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนต้องเร่งขนย้ายสิ่งของ บางอย่างขนไม่ทันก็ลอยไปกับน้ำ ส่วนรถนั้นได้ติดต่อให้ทีมกู้ภัยซึ่งมีความชำนาญมาช่วยลากน้ำไม่เคยท่วมมาฝั่งนี้ ปีนี้ถือว่าหนักมากคิดว่าดูจากระดับน้ำและการไหลของน้ำน่าจะมาเพิ่มขึ้นอีก น้ำครั้งนี้ขึ้นมามากและแรงกว่าทุกครั้งที่ท่วม


อย่างไรก็ตามสำหรับน้ำท่วมจ.สตูลในครั้งนี้หลายคนบอกหนักสุดในรอบ30ปีเพราะไม่เคยขึ้นบนถนนมากขนาดนี้ ล่าสุดในพื้นที่อ.ท่าแพ น้ำท่วมขึ้นบนถนนเส้นทางท่าแพ-ละงู บริเวณจุดจำหน่ายข้าวโพดหวานน้ำได้ท่วมข้ามถนนบริเวณโค้งดังกล่าวแล้ว


ทางด้านผู้สื่อข่าว จ.นครศรีธรรมราช รายงานจาก อ.ชะอวด ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลชะอวด สถานการณ์น้ำท่วมยังคงน่าเป็นห่วง ระดับจาก อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง อ.จุฬาภรณ์ อ.ร่อนพิบูลย์ ยังคงไหลหลากลงมาสมทบเติมเต็มในพื้นที่ โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยริมคลองชะอวด กว่า 1300 ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เส้นทางเข้าออกตัวอ. ที่ผ่านเทศบาล มีน้ำท่วมสูง 100 เมตรกว่า ทำให้รถเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง


โดยทางเทศบาลได้จัดรถยกสูงไว้ส่งชาวบ้านเดินทางเข้าออกมาจับจ่ายซื้ออาหารไปกักตุน ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างน่าเป็นห่วง ชาวบ้านยังคงอาศัยชั้นสองของบ้านเป็นที่พักอาศัย


ขณะที่สะพานข้ามคลองชะอวด ยังคงเป็นที่จอดรถของชาวบ้าน เพื่อป้องกันน้ำท่วม และเป็นที่จอดไว้เพื่อความปลอดภัย


ส่วนเหตุการณ์คนถูกไฟฟ้าช็อตภายในบ้าน พื้นที่หมู่ 3 ต.ท่าประจะ อ.ชะอวด ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 8 คน มีอาการสาหัส ไม่รู้สึกตัว 4 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบทำการ CPR 4 คน และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลชะอวด ก่อนส่งรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช 4 คน เบื้องต้นยังไม่รู้สึกตัวอีก 1 ราย


ส่วนผู้เสียหายนายณัฐฐากูล ส่งแสง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ม.3 ต.ท่าประจะ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช บ้านหลังเกิดเหตุ ญาติได้นำศพเก็บไว้ที่วัด หมื่นระงับรังสรรค์ เพื่อรอบำเพ็ญกุศลศพต่อไป


โดยที่บ้านที่เกิดเหตุเช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบว่าระดับน้ำท่วมสูงต้องใช้รถยกสูงเดินทางเข้าไป โดยญาติยังคงเศร้าและยังทำใจไม่ได้


22 พ.ย. 2568

69 views

EP อื่นๆ