สองผัวเมียร้อง ถูกโครงการหมู่บ้านปรับ 1.5 แสน อ้างใช้บ้านประกอบธุรกิจขายลูกชิ้น

สองผัวเมียร่ำไห้ร้องขอความเป็นธรรม ถูกโครงการหมู่บ้านปรับ 150,000 อ้างใช้บ้านประกอบธุรกิจขายลูกชิ้น ผิดวัตถุประสงค์ในการพักอาศัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2568 นายพิศาล และ นางสาวจารวี สองสามีภรรยา ซึ่งร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังจากเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 ที่บ้านได้หนังสือเอกสารจากบริษัทเจ้าของโครงการหมู่บ้าน เรื่องแจ้งปรับกรณีไม่ปฏิบัติตามระเบียบการอยู่อาศัยในโครงการ

โดยทางโครงการหมู่บ้านนำหนังสือของบริษัทฯ เรื่อง ขอให้ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงเรื่องระเบียบการอยู่อาศัยในโครงการ และบันทึกข้อตกลงเรื่องระเบียบการอยู่อาศัยในโครงการ ซึ่งแจ้งว่าบ้านตนได้ละเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบการอยู่อาศัยในโครงการ โดยอ้างว่าใช้บ้านพักอาศัยประกอบกิจการขนส่งสินค้าประเภทลูกชิ้นเพื่อนำไปขายที่ตลาดสด

พร้อมระบุว่าในทุกวันจะมีรถกระบะตู้ทึบมาจอดเพื่อส่งสินค้าเป็นประจำในช่วงเวลากลางคืนและขนส่งเสียงดังทำให้เพื่อนบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณนั้นได้รับความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบการอยู่อาศัยของโครงการและบริษัทฯ จึงขอใช้สิทธิตามข้อ 5. ของบันทึกข้อตกลงเรื่องระเบียบการอยู่อาศัยในโครงการ ปรับท่านเป็นเงินจำนวน 150,000 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท) และปรับอีกวันละ 15,000 บาท (หนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน) เมื่อพ้นกำหนด 7 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากท่านยังคงเพิกเฉยบริษัทฯจะใช้สิทธิตามกฎหมายต่อไป

ซึ่งจากการที่ครอบครัวตนได้รับหนังสือแจ้งมานั้น ทำให้ตนเองและครอบครัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากอาชีพที่ตนเองทำอยู่ คือขายลูกชิ้น ฮอทด็อก ที่มีการซีนเป็นแพ็คมาจากร้านส่ง โดยตนเปิดร้านขายอยู่ที่ตลาดแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี

โดยจะมีรถขนส่งนำสินค้าที่ตนสั่งมาส่งให้ที่บ้าน ก่อนที่ตนเองจะนำออกไปขายที่ตลาดและไม่มีการขายในหมู่บ้าน ซึ่งมีเพียงการขนถ่ายสินค้าจากรถขนส่งซึ่งเป็นรถกระบะตู้ทึบแล้วยกมาใส่รถกระบะของตนเองที่หน้าบ้าน หลังจากนั้นตอนเช้ามืด ตนจึงขับรถออกจากบ้านเพื่อนำไปขายที่ตลาด

โดยสินค้านั้นเป็นลูกชิ้น และฮอทด็อก ที่มีแพ็คบรรจุซ้อน 2 ชั้นอย่างดี และน้ำที่เห็นก็ไม่ใช่น้ำเสียแต่เป็นน้ำแข็งที่ละลาย เพราะมีบางส่วนที่ตนเองต้องแช่ไว้ในถังน้ำแข็งขนาดใหญ่เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเสียหาย แต่น้ำแข็งที่ละลายก็ไหลลงท่อบริเวณหน้าบ้านตนเองและไม่ได้มีจำนวนเยอะ ซึ่งทางสาธารณสุขก็ได้มาตรวจสอบแล้ว

ในส่วนเรื่องเสียงดังของรถขนส่งที่ทางคนขับ หรือคนยกของมีการพูดคุยเสียงดัง ตนก็ได้แจ้งให้มีการปรับปรุงเรื่องเสียงดัง โดยแจ้งกลับพนักงานขนส่งไม่ให้มีการพูดคุยกันเสียงดังและการยกของจากรถนำไปใส่ในรถอีกคันภายในบ้านก็ขอให้ทำกันเบาๆ ส่วนเรื่องการจอดรถและการขับรถเข้ามาส่งของในเวลากลางคืน ตอนนี้ตนก็ได้ปรับเปลี่ยนเวลาการส่งไม่เกิน 4 ทุ่ม โดยรถขนส่งจะเข้ามาส่งของเพียงวันละประมาณ 2-3 เที่ยวเท่านั้น และใช้เวลาในการขนของลงประมาณ 20-30 นาที จากนั้นก็ขับรถออกไปจากหมู่บ้าน

ซึ่งตนและครอบครัวตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการนี้ในราคา 7-8 ล้านบาท เพื่อพักอยู่อาศัย แต่ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อก็ได้มีการพูดคุยกับเซลล์ของโครงการแล้ว ว่าตนประกอบอาชีพค้าขายที่ตลาด ดังนั้นจะต้องมีรถขนส่งเข้ามาส่งของให้ที่บ้าน จะผิดเงื่อนไขหรือข้อห้ามของหมู่บ้านหรือไม่ในลักษณะนี้ โดยทางเซลล์ยังได้แจ้งว่าสามารถให้รถเข้ามาส่งของได้บางช่วงเวลาโครงการไม่ติดขัดอะไร เพราะลูกบ้านในโครงการยังมีรถมารับส่งของแบบออนไลน์ ดังนั้นตนและแฟนจึงได้ตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการนี้ และตนก็ไม่ได้ใช้บ้านเลขที่นี้ในการจดทะเบียนการค้าในการทำธุรกิจ แต่กลับโดนร้องเรียนและถูกปรับเงินถึง 150,000 บาท ตนเองคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องผ่านสื่อ

ที่ผ่านมาล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ตนและครอบครัว พร้อมทั้งคุณพ่อและทนายก็ได้เข้าไปพูดคุยกับทางผู้จัดการของโครงการและเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย โดยตนได้นำหลักฐานเอกสารต่างๆ เพื่อไปชี้แจงแต่ทางกรรมการและทางเจ้าหน้าที่ของโครงการกลับไม่สนใจ ได้กล่าวอ้างเพียงว่า เป็นระเบียบและตามเรื่องระเบียบการอยู่อาศัยในโครงการ โดยกล่าวว่า ตนใช้บ้านพักผิดวัตถุประสงค์ในการพักอาศัย

โดยที่ผ่านมานั้นที่มีการแจ้ง หรือประสานมาทางโครงการ ก็ไม่เคยมีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าบ้านตนได้ผิดถึงขนาดที่จะต้องมาเสียค่าปรับเป็นหลักแสน จึงถือว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ เพราะตนก็เป็นคนหนึ่งของลูกบ้าน เสียค่าสาธารณูปโภค ค่าส่วนกลางทุกอย่างเหมือนกับทุกบ้าน แต่กลับมาถูกร้องเรียนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

21 พ.ย. 2568

6.1K views

EP อื่นๆ