ศาลให้ประกัน 6 จำเลยกลุ่มวิศวกร คดีตึก สตง.ถล่ม ห้ามออกนอกประเทศ

ศาลอาญาให้ประกัน 6 จำเลยกลุ่มวิศวกร คดีตึก สตง.ถล่ม ตีราคาประกัน 1.5 ล้านบาท ติดกำไล EM ห้ามออกนอกประเทศ ชี้กลุ่มนี้โดนความผิดกรรมเดียว ที่อยู่หลักเเหล่งไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล หรือมีพฤติดารณ์หลบหนี

วันนี้ (21 พ.ย.) ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายพิมล เจริญยิ่ง จำเลยที่ 3 ,นายธีระ วรรธนะทรัพย์ จำเลยที่ 5, นายสุพล อัครอารีสุข จำเลยที่ 6, นายชัยณรงค์ เสียงไพรพันธ์ จำเลยที่ 7, นายอภิชาติ รักษา จำเลยที่ 8 นายวิศาล จุลพัลลภ จำเลยที่ 23

ในคดี หมายเลขดำอ 2201/2568 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการของอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ กับพวก 23 ราย จำเลยในความผิดฐานเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม ทำการก่อสร้าง อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา และสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 9, 10, 11, 12, 13, 14 และ 15 ในฐานความผิดร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 227, 238, 264 และ 268 และที่แก้ไขเพิ่มเติม,พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522, พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ตลอดจนกฎกระทรวงและระเบียบที่เกี่ยวข้อง จากกรณีที่ ตึก สตง.ถล่ม

โดยจำเลย 6 รายที่ยื่นปล่อยตัววันนี้ เป็นกลุ่มบริษัทไมนฮาร์ท เเละบริษัทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกลุ่มวิศวกรผู้ออกเเบบอาคาร ยังไม่มีนายเปรมชัย

โดยศาลเปิดบัลลังก์ไต่สวนจำเลย 6 ปาก วันนี้รวมถึงเรียกอัยการโจทก์ โดย น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ หรืออัยการดาว เเละคณะเข้าคัดค้านการไต่สวน

เมื่อเริ่มไต่สวนอัยการโจทก์ยื่นคัดค้านการปล่อยชั่วคราว และยื่นคำร้องต่อศาล โดยให้เหตุว่า เนื่องจากยังไม่ปรากฎหลักฐานการเยียวยาค่าเสียหายเเก่รัฐเเละประชาชน เเละเป็นคดีสะเทือนขวัญ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งกลุ่มจำเลยที่ขอปล่อยตัว เป็นกลุ่มวิศวกรทั้งหมด เป็นบุคคลในวงการวิศวรกร ซึ่งรู้จักพยานสำคัญในคดี อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานบุคคลที่เป็นพยานสำคัญได้ โจทก์ขอให้สืบพยานบุคคลดังกล่าวก่อนเพื่อให้เกิดความยุติธรรม เเละมองว่ายังไม่มีเหตุพฤติการณ์เปลี่ยนเเปลงการควบคุมตัว ขอให้ยกคำร้อง

ศาลพิเคราะห์ตามทางไต่สวนประกอบกับรายงานประเมินความเสี่ยงของศาลอาญาซึ่งระบุ ว่าความเสี่ยงจะหลบหนีหรือก่ออันตรายประการอื่นอยู่ในระดับความเสี่ยงต่ำ เห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าคดีนี้ มีการกระทำความผิดรวม 67 กรรม จำเลยที่ 3,5 -8 และจำเลยที่ 23ถูกฟ้องว่าร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้องข้อ 2.1 เพียงกรรมเดียว จำเลยที่ 3,5 -8 และจำเลยที่ 23 ประกอบอาชีพวิศวกรมีภูมิลำเนาที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

อีกทั้งยังให้การปฏิเสธและถูกคุมขังโดยตลอดมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และได้ความตามทางไต่สวนว่าจำเลยที่ 3,5 -8 และจำเลยที่ 23ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องและมาพบพนักงานสอบสวนตามมนัด พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานส่งสำนวนให้พนักงานอัยการโจทก์มีการนัดตรวจ พยานหลักฐานมาบ้างแล้ว ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 3,5 -8 และจำเลยที่ 23 เป็นผู้มีอิทธิพลที่สามารถไปขู่หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ ดังนั้นแม้ศาลนี้และศาลอุทธรณ์จะเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว แต่เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุเปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ จึงมีเหตุสมควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 3,5 -8 และจำเลยที่ 23

ในระหว่างพิจารณา ตีราคาประกันคนละ 1.5 ล้านบาท ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล

21 พ.ย. 2568

695 views

EP อื่นๆ