บันเทิง

‘โตโน่’ พร้อม "ว่ายข้ามโขง" 100% ทั้งร่างกายและจิตใจ รับร้องไห้ตื้นตันได้กำลังใจจากชาวนครพนม

โดย paweena_c

21 ต.ค. 2565

67 views

‘โตโน่ ภาคิน’ พบรองผู้ว่าฯ รายงานความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ 100% ไม่หวั่นดรามา ยอมรับร้องไห้ตื้นตันใจ ชาวนครพนมในร้านให้กำลังใจ ขณะที่ยอดบริจาคทะลุ 7 ล้าน บ่ายวันนี้เตรียมสักการะพระธาตุพนม


กิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขงของ ‘โตโน่ ภาคิน’ กับโครงการ ‘One Man And The River หนึ่งคนว่ายหลายคนให้’ ที่ ‘โตโน่’ จะทำการว่ายน้ำข้ามโขงไปกลับ 2 ประเทศระยะทาง 15 กิโลเมตร ระหว่างประเทศไทย และ สปป.ลาว ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้


เพื่อนำเงินไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ซึ่งตอนนี้ ‘โตโน่’ ก็อยู่ที่จังหวัดนครพนมเรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมสำหรับกิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขงในครั้งนี้


โดยเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ‘โตโน่’ พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าพบ ‘นายชาญชัย คงทัน’ รองผู้ว่าฯ และรักษาการผู้ว่าฯ จังหวัดนครพนม เพื่อรายงานความพร้อม กิจกรรม โครงการ One Man And The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้



หนุ่ม ‘โตโน่’ บอกกับรองผู้ว่าฯ ว่า ขณะนี้มีความพร้อม 100% ทั้งร่างกายและจิตใจ  โดยไม่สนใจกระแสดรามา ขณะที่ทีมงานทุกคนก็ พร้อมแล้ว โดยรองผู้ว่าฯ ยังได้ร่วมบริจาคเงิน จำนวน 999 บาท และมอบวัตถุมงคลให้กับ ‘โตโน่’ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้โครงการสำเร็จ


ขณะที่ในส่วนของจังหวัด ก็มีความพร้อมในการสนับสนุนเช่นกัน ซึ่งไม่ได้มองว่าเป็นโครงการที่เป็นภาระ แต่เป็นการช่วยจังหวัดนครพนม


จากนั้น ‘โตโน่’ ได้ให้สัมภาษณ์บอกว่า เมื่อวานนี้ ทีมงานได้ไปซ้อมว่ายน้ำในสถานที่จริง ในแม่น้ำโขง ส่วนในวันจริง จะมีนักว่ายน้ำรวม ‘โตโน่’ ด้วยทั้งหมด 5 คน แต่ทีมว่ายน้ำอีก 4 คน จะไม่ลงว่ายตลอดเส้นทางเหมือน ‘โตโน่’ แต่จะสลับกันว่ายเพื่อคอยดูแลแต่ละจุด โดย ‘โตโน่’ และทีมว่ายน้ำจะอยู่ตรงกลาง และมีขบวนเรือประกบตาม เป็นเรือคายัค 4 ลำ


สำหรับชุดว่ายน้ำ ‘โตโน่’ บอกว่าไม่ได้มีอะไรพิเศษ เป็นบอดี้สูท ไม่มีชูชีพเสริม แต่มีอุปกรณ์ที่เรียกว่า บุย (buoy savety) เป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่งของการว่ายน้ำแบบโอเพ่นวอเตอร์ ลักษณะเป็นเชือกผูกที่เอว แล้วมีเหมือนลูกโป่งสีส้ม หรือ สีเขียว ลอยตามน้ำ


ทีมเรือจะมองเห็นขณะว่าย ก็จะสังเกตจากบุยนี้ หรือจะพักกินผลไม้ กินน้ำระหว่างว่ายน้ำในแม่น้ำโขง ก็จะเกาะบุยนี้ไว้ เพื่อช่วยพยุงตัวไม่ต้องตีขา หรือกรณีที่เป็นตะคริวก็จะกอดบุยนี้ หรือคุยกับทีมระหว่างที่อยู่ในน้ำก็จะกอดบุยนี้ไว้ แต่ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือไม่ไหว หรืออันตราย จะโบกมือส่งสัญลักษณ์


ส่วนความปลอดภัยเรื่องขอนไม้หรือวัตถุที่พัดมากับกระแสน้ำ ‘โตโน่’ บอกว่า ก็ต้องระวัง มองว่าการว่ายน้ำก็เป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่ต้องระวัง  ถ้าเปรียบกีฬาวิ่งก็ระวังล้ม ลื่น ว่ายน้ำก็ต้องระวังเช่นกัน ซึ่งหากเกิดอันตราย จะไม่เป็นภาระของเจ้าหน้าที่ เพราะทีมเซฟตี้และทีมดูแลทั้งหมดเป็นทีมของตนเอง


ส่วนเงินบริจาคที่ได้มา ไม่ได้มอบเงินให้ รพ.โดยตรง แต่จะนำเงินบริจาค ไปซื้อเครื่องมือแพทย์ ตามความต้องการของรพ. โดยฝั่ง รพ.แขวงคำม่วน ต้องการเครื่องอุลตราซาว รุ่นใหม่ที่ยังขาดสำหรับตรวจหญิงตั้งครรภ์ ส่วน รพ.นครพนม ต้องการเตียงไอซียูเด็ก และเครื่องช่วยหายใจ และมีอุปกรณ์อีกหลายชิ้น ที่ทั้งสองรพ.ต้องการ


ซึ่งหลังจากว่ายน้ำเสร็จ ไม่ได้ปิดรับบริจาคทันที การบริจาคยังคงเดินต่อเนื่องถึงวันที่ 31ตค 65 และสำหรับยอดบริจาค เมื่อวานนี้ เวลา17.00 น. ยอดบริจาค 7,202,375บาท


และโครงการนี้หากสำเร็จแล้ว จะมีโครงการที่ 2 ต่อหรือไม่ ‘โตโน่’ บอกว่า ยังตอบไม่ได้ ขอทำให้โครงการนี้สำเร็จก่อน ได้ช่วย รพ.ทั้งสองแห่ง ได้ช่วยสะท้อนให้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนครพนมให้ทั่วโลกได้รับรู้


และในระหว่างที่ทีมข่าวสัมภาษณ์ ก็สังเกตเห็น ‘โตโน่’ ห้อยตะกรุด และลูกปะคำไม้ที่ข้อมือ ซึ่งเครื่องรางนี้ พระที่ สปป.ลาว และที่นครพนม ให้ไว้ติดตัวสร้างขวัญกำลังใจ ซึ่งในวันว่ายน้ำจริง จะใส่เหรียญกรมหลวงชุมพร ที่ใส่ติดตัวเป็นประจำลงว่ายน้ำด้วย


นอกจากนี้ ‘โตโน่’ ยังได้แจงถึงภาพร้องไห้ที่ หลังมีชาวนครพนมที่ร้านส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ ซึ่งหลังจากมีภาพนั้นออกไป ก็มีบางกระแสตั้งคำถามว่าเป็นการร้องไห้จริงรึเปล่า ?


‘โตโน่’ ก็ยืนยันว่า ร้องไห้จริง ๆ เพราะตื้นตันใจมาก พร้อมเล่าหตุการณ์ในร้านอาหารให้ฟังว่า ระหว่างที่ไปทานข้าวกับทีมงาน มีเด็กมาทานข้าวฉลองวันเกิดและเป่าเค้กที่ร้านนั้นด้วย แล้วน้องก็เอาเค้กวันเกิดมาให้ และบอกสู้ ๆ ให้กำลังใจ


จากนั้นคนอื่น ๆ ที่อยู่ในร้านก็ตะโกนบอกว่า “โตโน่สู้ ๆ ”  ตอนนั้นตนเองก็เลยรู้สึกตื้นตันใจมาก ใจมันฟู บอกไม่ถูก ซึ้งใจที่ทุกคนรัก ไม่ใช่ร้องไห้เพราะแสดงหรือแกล้งใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างมาจากความตื้นตันใจ


สำหรับกำหนดการของวันนี้ (21 ตุลาคม) ในช่วงบ่าย ‘โตโน่’ และคณะจะเดินทางไปสักการะพระธาตุพนม และช่วงเย็น ‘ณิชา’ และชาวบ้านกว่า 200 คน จะร่วมกันซ้อมรำบวงสรวง เพื่อเตรียมรำในวันเสาร์นี้


สำหรับเส้นทางว่ายน้ำโขงของ ‘โตโน่’ จะไม่ได้ว่ายรวดเดียว แต่เป็นการว่ายแล้วพัก รับบริจาคเป็นระยะ โดยจะเริ่มว่ายน้ำ เวลา 10.09 -12.00 น. จะเริ่มว่ายจาก ลานพญาศรีสัตตนาคราช เลาะริมตลิ่งฝั่งไทย แล้วขึ้นฝั่งทำกิจกรรมจุดที่ 1 วัดกลาง ขึ้นจากน้ำมารับบริจาคชาวบ้านริมตลิ่ง


จากนั้นก็ลงว่ายน้ำจากท่าวัดกลาง ว่ายไปที่วัดมหาธาตุ ขึ้นฝั่งไปทำกิจกรรมรับบริจาค จากนั้นลงว่ายน้ำไปที่ ศาลาท่าน้ำแสงสิงแก้ว และจะว่ายจากท่าน้ำแสงสิงแก้ว ตัดเส้นทางไปที่ วัดพระธาตุศรีโคดตะบอง ฝั่งสปป.ลาว เมื่อถึงฝั่งแล้วจะหยุดพัก เปลี่ยนเสื้อผ้า และทำกิจกรรม ได้แก่


การสักการะพระธาตุศรีโคดตะบอง, กิจกรรมรับบริจาค, เดินทางไป รพ. แขวงคำม่วน, พักร่างกาย ที่โรงแรมใน สปป.ลาว, โดยจะใช้เวลาอยู่ที่ฝั่งลาว ประมาณ 3 ชม. ตั้งแต่เที่ยงถึงบ่ายสาม


จากนั้นการเดินทางกลับ จะนั่งรถจากโรงแรมที่พักใน สปป.ลาว ไปที่ท่าน้ำหาดบ้านนาเมือง ฝั่งสปป.ลาว มาที่ฝั่งไทย ที่ลานพญาศรีสัตตนาคราช ก็จะมีการสัมภาษณ์พูดคุย, ประมูลอุปกรณ์ที่โตโน่ว่ายน้ำ และจะเสร็จกิจกรรมประมาณ 17.00 น.



คุณอาจสนใจ