ยิ่งสาวยิ่งเจอ! ค้น 15 จุด สางคดี บ.กำนันนก ฮั้วประมูล พบหลักฐานเพียบ

ตำรวจเปิดปฎิบัติการเข้าค้น 15 จุดขยาผลเชื่อมโยงกำนันนก ฮั้วประมูล ยึดเอกสารสำคัญหลายอย่าง และยังเจอรถฟอร์จูเนอร์สีขาว ที่กำนันนกใช้หนีในวันเกิดเหตุด้วย



โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 7 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจกองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายบริษัทและกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เชื่อมโยงกับคดีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก หลังกำนันนกถูกจับในข้อหาใช้ให้นายหน่อง ลูกน้องคนสนิทยิงพันตำรวจตรีศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวง 1 เสียชีวิต และกำนันนกยังถูกตรวจสอบเรื่องของฮั้วประมูลจำนวน 18 โครงการ



โดยเป้าหมายในการตรวจค้นครั้งนี้มีทั้งหมด 15 จุดซึ่งอยู่ในจังหวัดนครปฐม แบ่งเป็นอำเภอกำแพงแสน 1 จุด อำเภอสามพราน 1 จุด และอำเภอเมือง 13 จุด ซึ่งเป็นการหาหลักฐานเพิ่มในประเด็นการฮั้วประมูลของกำนันนก ซึ่งมี 2 บริษัท คือ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้างจำกัด และ บริษัท ป.รวีกนกก่อสร้างจำกัด



โดยเป้าหมายที่สำคัญมีหลายจุด เช่นจุดนี้คือบ้านคนสนิทของกำนันนก คือนายศักรินทร์ ท้วมสุข หรือ นายเต้ง หรือ กำนันเต้ง ที่ชาวบ้านเรียกกัน ซึ่งอยู่ที่ตำบลทัพหลวง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยซึ่งเปิดขายวัตถุมงคลจุดนี้พบเพียงป้าของนายเต้ง ซึ่งยืนยันว่านายเต้งไปเปิดร้านขายอาหารที่กัมพูชาหลายปีแล้ว และทั้งตนและหลานก็ไม่รู้จักกับกำนันนก ไม่เคยทำธุรกิจร่วมกัน และหลานของตนก็ไม่ได้เป็นกำนัน แต่ชาวบ้านที่นี่เรียกกันไปเองว่าเป็นกำนัน



จุดต่อมาตำรวจได้เข้าค้นบ้านของนายเต้ง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร้านเช่าวัตถุมงคลของนายเต้งแต่ก็ไม่พบตัวนายเต้งเช่นกัน โดยบ้านหลังนี้มีรั้วรอบขอบชิด และยังแบ่งพื้นที่เปิดเป็นร้านรับส่งพัสดุเอกชน ภายในบ้านพบรถบีเอ็มดับบลิวสีขาวป้ายแดง และ มอเตอร์ไซด์อีก 1 คันจากการตรวจค้นในบ้านพบปืนสั้น 3 กระบอกตรวจสอบแล้วมีทะเบียนและใบอนุญาตถูกต้อง ขณะที่ลูกพี่ลูกน้องของนายเต้งบอกว่านายเต้งไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้นานแล้ว นายเต้งซื้อบ้านไว้หลายหลังเพราะมีเมียหลายคน นายเต้งก็ไม่รู้จักกับกำนันนกและไม่ได้ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแต่ทำธุรกิจรถสไลด์ และให้เช่าวัตถุมงคล



ต่อมานักข่าวได้โทรศัพท์หานายเต้ง โดยนายเต้งยืนยันว่าไม่รู้จักกำนันนกและไม่เคยฮั้วประมูลอะไรทั้งนั้น ตอนนี้ตนเปิดร้านขายอาหารอยู่ที่กัมพูชา ยอมรับว่าเคยก่อคดีฆ่าคนตายเมื่อ10 ปีที่แล้ว และตอนนี้พ้นโทษมา 5 ปีแล้ว



นอกจากนี้ตำรวจยังได้เข้าตรวจค้นที่บ้านพักของ จ่าสิบตำรวจพิสิฐ ชิวปรีชา ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของสารวัตรศิว อยู่ที่อำเภอสามพราน



จากการตรวจค้นไม่พบตัวจ่าสิบตำรวจพิสิฐ แต่เจ้าหน้าที่พบปืนทั้งหมด 9 กระบอก เป็นปืนยาว 3 กระบอก และปืนสั้น 6 กระบอก โดยนายอานนท์ บุญส่ง อาของจ่าสิบตำรวจพิสิฐบอกว่าทางบ้านไม่รู้จักกำนันนก และคนแถวนี้ก็ไม่มีใครได้ยินชื่อกำนันนกมาก่อน ส่วนเหตุผลที่หลานไปงานเลี้ยงกำนันนกเชื่อว่าตามผู้บังคับบัญชาไปเท่านั้น และไม่ได้เรียกร้องขอสับเปลี่ยนหน้าที่แต่อย่างใด



จุดต่อมาคือที่บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้างจำกัด ซึ่งมีชื่อของกำนันนกเป็นกรรมการบริษัท ซึ่งอยู่ที่อำเภอเมืองโดยจุดนี้เกือบเกิดความวุ่นวาย เพราะตอนแรก รปภ.และพนักงานของบริษัท ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายใน ทั้งที่มีการอ่านหมายค้นจากศาลอาญาแล้ว จนหัวหน้าชุดทำงานบอกว่าหากไม่เปิดประตูให้ จะสั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษปีนรััวบริษัทเข้าไป ทาง รปภ.และพนังานจึงเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายใน



ระหว่างที่ตำรวจเข้าตรวจค้นด้านในบริษัท ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า น้องชายของกำนันนก ค่อยๆเดินออกมาจากโรงงาน แล้วเดินขึ้นรถตู้ออกไป มีรถตู้ออกมารอรับ



ทั้งนี้จาการตรวจค้นนอกจากเจ้าหน้าที่จะนำเอาเอกสารต่าง ๆ ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประมูลตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาทไปตรวจสอบแล้ว และที่แพลนท์ปูน เจ้าหน้าที่พบฟอร์จูเนอร์สีขาว ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นรถของกำนันนกที่ใช้ในการหลบหนีตั้งแต่คืนวันเกิดเหตุการณ์ยิงสารวัตรศิว รวมถึงรถกระบะสีบรอนซ์เทา ซึ่งเหมือนกับรถที่นายหน่องใช้หลบหนี โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝงและดีเอนเอ จากนั้นได้นำรถไปตรวจสอบเพิ่มเติมที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7



นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจจุด ที่ใช้ชั่งน้ำหนักรถบรรทุกก่อนจะออกจากพื้นที่และเก็บรถบรรทุกห่างจากบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้างจำกัด ซึ่งพบว่ามีรถบรรทุกจอดอยู่หลายคัน นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้างจำกัด มีพิรุธส่อเข้าข่ายสมคบกันในการประมูลราคา ซึ่งเชื่อว่าผู้กระทำผิดไม่ได้มีแค่คนเดียว การตรวจค้นวันนี้ โดยเฉพาะใน 4 จุดมีความเชื่อมโยงกันมาก จะรวบรวมพยานหลักฐานนำไปวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการฮั้วประมูล หรือมีใครเกี่ยวข้องบ้าง



จุดต่อมาตำรวจได้เข้าค้นที่บริษัท สิงห์ชัยเคพีเอสจำกัด ของนายแบงค์ ซึ่งเป็นคนสนิทของกำนันนกเป็นเจ้าของบริษัท ซึ่ง อยู่ที่อำเภอกำแพงแสน ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง จดทะเบียนบริษัทตั้งแต่ปี 2539 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยพบว่าบริษัทนี้เคยและเป็นบริษัทคู่เทียบในการประกวดราคาโครงการก่อสร้างต่างๆในจังหวัดนครปฐมและยื่นประมูล แข่งกับบริษัทของกำนันนก โดยนายแบงค์ยอมรับว่าเคยประมูลงานแข่งกับบริษัทของกำนันนก แต่บริษัทของตนจะแพ้ จากนั้นนายแบงค์ก็ได้ขึ้นรถตู้ไปให้ปากคำที่ตำรวจภูธรภาค 7



อีกจุดที่เข้าค้นคือที่บริษัทธงชัยเจริญก่อสร้าง 2566 จำกัด ซี่งอยู่ในอำเภอเมือง มีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาทเนื่องจาก มีข้อมูลว่า อาจเข้าข่ายร่วม ฮั้วประมูล กับบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้างจำกัด ของกำนันนก หลัง บริษัทธงชัยเจริญก่อสร้าง 2566 จำกัด เคยร่วมประมูลแข่งกับบริษัทของกำนันนกแต่แพ้การประมูล รวมทั้งยังมีข้อมูลว่าเจ้าของบริษัทคือนายธงชัย ศรีสุขจร ซึ่งเป็นบิดาของนายศุภโชค ศรีสุขจร สส.นครปฐม พรรคพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งตำรวจใช้ตรวจยึดเอกสารและสอบปากคำพนักงานในบริษัทโดยใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมงจึงเดินทางกลับ



ขณะที่ทีมกฎหมายของบริษัทยืนยันว่าไม่ได้สนิทสนมกับกำนันนกเป็นเพียงบริษัทคู่แข่งทางการประมูลเท่านั้น พันตำรวจเอกแดนไพร แก้วเวหล ในฐานะคณะทำงานของบิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าบริษัทดังกล่าวมีความผิดปกติบางอย่าง อาจเข้าข่ายฮั้วประมูล จึงนำเอกสารไปตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนจะเข้าข่ายความผิด หรือไม่ และมีกี่โครงการขอตรวจสอบก่อน นอกจากนี้ยังพบว่าคณะกรรมการของบริษัทมีความรู้จักกับ กำนันนกด้วย

https://youtu.be/K8skQ_uzxvQ