เลือกตั้งและการเมือง
'สส.แบงค์' เปิด 'ทฤษฎี 3 ล็อก' ปมจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพง - 'วิโรจน์' แฉ สก.ล็อกสเป็ค กดดันชัชชาติ
โดย nattachat_c
30 ก.ค. 2567
37 views
สส.แบงค์ ก้าวไกล แถลง กระทุ้ง กทม. ปมจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพงเกินจริง เปิด ทฤษฎี 3 ล็อก พบตั้งสเปคสูงให้ตรงกับ คุณสมบัติเอกชนรายใหญ่ แฉมีกระบวนการตั้งแต่ยุค อัศวินถึงชัชชาติ
ด้าน วิโรจน์ ฉะ สก.เพื่อไทย หลังออกมาขวางคนนอกนั่ง กมธ.แปรงบ 68 กทม. บอกพบร่องรอยกระบวนล็อกสเป็ค-ฮั้วประมูล กดดันชัชชาติ ขอจับตา กทม. แถลงความชัดเจนพรุ่งนี้ ลั่นอะไรที่ชัชชาติ กระอักกระอ่วนใจ เดี๋ยววิโรจน์จัดให้
วานนี้ (29 ก.ค. 67) นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล แถลง กระทุ้งกรุงเทพมหานครเรื่อง การจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่แพงเกินจริง หลังจากครบกำหนดการตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่ได้ฟันธงว่า มีการทุจริตในโครงการหรือไม่ ว่า
เครื่องออกกำลังกายแพง เกิดจากทฤษฎี 3 ล็อก คือ
ล็อกที่ 1 คือ ล็อกสเปค ยกตัวอย่าง มีการกำหนดคุณสมบัติเครื่องออกกำลังกายใน TOR ให้ตรงกับคุณสมบัติเครื่องออกกำลังกายของบริษัทยี่ห้อหนึ่ง เช่น กำหนดคีย์เวิร์ดว่า จะต้องเป็นแบบ High Contrast Display มีโปรแกรมออกกำลังกายประกอบด้วย Quick start Goals Profile และ X -Train และยังมีการกำหนดให้ใช้ได้ทั้งหมด 23 ภาษา ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า จะเอาภาษาอะไรต้องมากมายขนาดนี้ ไปให้ใครใช้
ล็อกที่ 2 คือ ล็อกสืบราคา ซึ่งในความผิดปกติของโครงการลู่วิ่ง 759,000 บาท จะมีการสืบราคาจาก 3 เจ้าเดิม ทุกโครงการ และมักจะกำหนดราคาให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ 3 เจ้าเดิมจะให้ราคาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งมันเป็นผลมาจากการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย มักจะไม่มีราคากลาง เนื่องจากกรมบัญชีกลางไม่ได้กำหนดเรื่องนี้ไว้ มันทำให้เกิดการทุจริตในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายหลายครั้ง
ล็อกที่ 3 คือ ล็อกผลงาน โดยมีการกำหนดผลงานขายคุรุภัณฑ์ประเภทเดียวกันซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการให้วงเงินไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซื้อขายกันไว้ให้น้อยกว่าสามสัญญา ระยะเวลานับย้อนหลัง โดยระยะเวลานับย้อนหลังไม่เกินสี่ปี ซึ่งเป็นการปรับให้พอดีกับเอกชนบางเจ้า ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในยุคของ พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง โดยพบว่า จาก 10 โครงการ มีล็อกสเปคผลงานถึง 9 โครงการ มาถึงในสมัยของนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ก็พบว่ามีการล็อกสเปค 12 โครงการ จาก 14 โครงการ
-------------
ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล แถลงเพิ่มเติมถึงการล็อกสเปคเครื่องออกกำลังกาย ว่า
ตนติดตามในสิ่งที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้พูด ก็เข้าใจถึงความกระอักอระอ่วน และยังไม่มีความชัดเจนอะไรกับข้อมูล ที่ระบุว่า 10 บริษัทที่ขอราคาไป ยังไม่ให้ข้อมูลกลับมา
จึงอยากแนะนำว่า ให้ข้าราชการสืบราคาจริงจากท้องตลาดหรือราคาซื้อขาย ว่าราคาอยู่ที่เท่าไหร่ และราคาที่ประมูลในครั้งนี้ แพงจริงหรือไม่ เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก หากข้าราชการให้ความร่วมมือ เพราะมองว่าข้าราชการอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความขาวสะอาดสามารถเข้าไปสืบราคา
นายวิโรจน์ ย้ำว่า เหตุการณ์ในวันนี้ ไม่อยากไปเพ่งเล็งเฉพาะในเรื่องของเครื่องออกกำลังกาย และอุปกรณ์ใด ๆ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง กับการจัดซื้อจัดจ้างทางครุภัณฑ์ หรือการดำเนินการก่อสร้างก็ดี ซึ่งตนอยากให้โฟกัสกับคำว่า 'งบแปร' ซึ่งมีทั้งดี และไม่ดี ที่ไม่ดีคือเป็นแหล่งในการทำคอรัปชั่นได้เหมือนกัน
พร้อมอธิบายว่า ความหมายของงบแปร ไม่ได้มีข้อบังคับในการห้ามบุคคลภายนอกที่มีความรู้ หรือมีประสบการณ์การตรวจสอบการทุจริต เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการวิสามัญด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ตรวจสอบข้อบังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้พูดคุยกับนายชัชชาติ ซึ่งนายชัชชาติก็ยินดี
โดยใน 1 ปี มีงบแปรอยู่ที่ประมาณ 4-5 พันล้าน และเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและ ที่จะนำรายงานจากคณะกรรมการสามัญต่าง ๆ ของสภากรุงเทพมหานครไปพิจารณา รวมถึงข้อร้องเรียน หรือข้อคิดเห็นจากผู้อำนวยการ 50 เขต มาพิจารณาว่าเงิน 4-5 พันล้าน จะนำไปไว้ในโครงการอะไร เพื่อสนองความต้องการของประชาชนในเขต ไม่ว่าจะทำถนน หรือปรับปรุงท่อระบบระบายน้ำ ระบบขยะ หรือจะไปซื้อคุรุภัณฑ์ อะไรที่ตอบโจทย์ที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่
ฉะนั้น ถ้างบแปรเป็นงบที่ดี สก.ก็จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับงบประมาณเลย เพราะถือเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร แต่ สก.จะเข้าไปทำหน้าที่กำกับดูแลโครงการที่ใช้งบโครงการว่ามีการดำเนินการเร่งด่วน รวดเร็ว และมีความโปร่งใส ในการจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่
แต่งบแปร ในมุมไม่ดี ก็จะเป็นปัญหา อย่างวันที่ 30 กรกฎาคม ที่จะมีการพิจารณาวาระของกรุงเทพมหานคร หากคิดในทางที่ไม่ดีจะมีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร กลุ่มนึงรวมตัวกัน และเข้าไปกดดันข้าราชการ เพราะผู้อำนวยการเขตก็จะล็อกเฉพาะผู้รับเหมาของตัวเอง อย่างการ ซื้อถังดับเพลิง อุปกรณ์กันยุง ซึ่งแต่ละปี มีเงินทอนไปสู่นักการเมืองท้องถิ่น 400-1,000 ล้านบาทต่อปี โดย สก.บางกลุ่มรวมตัวกันข่มขู่ตบทรัพย์ผู้ว่าฯ กทม.
จึงมองว่า นายชัชชาติ ไม่มี สก. ในสังกัด ก็จะถูกความกดดันนี้อยู่เรื่อยไป ซึ่งเชื่อว่า เครื่องออกกำลังกายที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้ ไม่ใช่งบประมาณจากผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งแต่แรก แต่เป็นของกลุ่ม สก.ที่รวมตัวกัน ซึ่งผู้ว่าฯ ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้
ยอมรับว่า กังวลกับงบประมาณ กทม. ที่มี สก.บางกลุ่มทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ และฮั้วกับข้าราชการกลุ่มก่อนในการล็อกสเปค เพื่อให้ผู้ค้าในเครือข่ายของตนเองและ ทองเงินให้กับกลุ่มนั้น รวมทั้ง อาจจะจัดสรรเงินทอนบางส่วนให้ข้าราชการที่ยอมเป็นลูกสมุนให้ นี่คือปัญหาของทั้งหมด
พรรคก้าวไกลยืนยันว่า เราจะเสนอบุคคลภายนอก 2 คน เข้าเป็นคณะ และเชื่อว่าหากมีการขานชื่อในที่ประชุมสภาจะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน พร้อมเปิดเผยเป็นชื่อ ตัวย่อ อ.อ่าง ทั้ง 2 คน
อีกหนึ่งประเด็นคือ คณะอนุกรรมการที่ดูงบรายเขต ล่าสุด มีการกำหนดว่าจะให้เพียง สก. 5 คน เท่านั้น ในการนั่งเป็นคณะอนุกรรมการ ก็จะเหลือองค์ประชุมแค่ 3 ใน 2 ถ้าหากมีการตกลง ปรับลดงบให้นำไปเป็นงบแปร และไปบีบผู้ว่าฯ ให้บริษัทที่อยู่ในเครือข่ายของตัวเอง เข้ามารับงานในกรุงเทพฯ ก็จะใช้เสียงแค่ 3 ใน 2 เท่านั้น มันตกลงกันง่ายกว่าจากเดิมที่มี 13 คน นี่จึงถือเป็นร่องรอย และข้อสังเกต ว่า กระบวนการแบบนี้ ไม่เอื้อต่อการตรวจสอบอย่างรอบคอบ แต่เพื่อให้เกิดโครงการฮั้วประมูล
-------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/-3CVeXrfeD0