อาชญากรรม

ฝากขัง ‘ไอ้แม็ก’ ลวงโบลท์ฆ่าชิงรถ ทิ้งร่องน้ำ เอาหัวโขกลูกกรงระบายความเครียด อ้างไม่เคยฆ่าคน

โดย petchpawee_k

21 ก.ย. 2567

189 views

ตำรวจเค้นสอบ! ‘ไอ้แม็ก’ ลวงสาวหล่อขับโบลท์ฆ่าอำพรางทิ้งศพคูน้ำชิงเก๋งส่งขายภูเก็ต อ้างไม่เคยฆ่าคน ตร.คาดประสงค์ชิงทรัพย์ เร่งขยายผลขบวนการรับซื้อรถเถื่อน - เปิดไทม์ไลน์การหลบหนี พบประวัติก่อคดีโชกโชน เคยก่อคดีข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี คดีพรากผู้เยาว์

จากกรณีที่ญาติของนางสาวฐิติรัตน์ ชาติพุทธ์ หรือกะทิ อายุ 47 ปี แจ้งความคนหาย ก่อนจะมาพบว่าเป็นศพเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา บริเวณร่องน้ำป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู หมู่ 5 ต.สัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ต่อตำรวจชุดสืบสวนภาค 7  จับกุมนายณรงค์ศักดิ์ แซ่ผู่ หรือแม็ก อายุ 35 ปี  ซึ่งก่อเหตุเรียกใช้บริการรถของนางสาวฐิติรัตน์ ให้ไปส่งที่ จ.นครปฐม แต่กลับฆ่ารัดคอแล้วเอาศพทิ้ง เพื่อชิงรถของผู้ตายไปขายต่อให้ตำรวจนายหนึ่ง โดยนัดส่งมอบรถที่ จ.ภูเก็ต  ซึ่งเจ้าหน้าที่ไปจับกุมนายแม็กได้ที่บ้านพัก ในพื้นที่ ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม


ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณริมถนนระหว่างซอยสุขุมวิท 77 และ 77/1 ด้านหน้า สน.พระโขนง สามารถบันทึกภาพวันที่ 11 ก.ย. เวลาประมาน 17.50 น. คุณกะทิ ซึ่งเป็นไดรฟ์เวอร์ขับรถรับส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชัน ขับรถมารับนายแม็กที่บริเวณดังกล่าว โดยนายแม็กสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวและรองเท้าผ้าใบ ยืนซื้อของอยู่  เมื่อรถมาถึง คุณกะทิก็รับนายแม็กขึ้นรถที่บริเวณเบาะหลัง จากนัน้รถก็ได้ขับต่อไปประมาน 100 เมตร ก่อนจะจอด แล้วขับไปอีกครั้ง โดยปลายทางที่ระบุไว้ตอนเรียกรถ คือวัดพระประโทณ อ.เมือง จ.นครปฐม

เจ้าหน้าที่ยังพบภาพจากกล้องวงจรปิด หลังจากนายแม็กฆ่าคุณกะทิแล้ว ก็ชิงรถขับมุ่งหน้าไปยัง จ.ภูเก็ต โดยพบว่าในวันที่ 14 ก.ย. พบรถขับไปที่ จ.ชุมพร และ จ.พังงา และพบรถคันดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 19 ก.ย.ที่ จ.ภูเก็ต

สำหรับไทม์ไลน์การก่อเหตุของคดีนี้ พบว่า วันที่ 11 กันยายน 2567 ประมาณ 18.05 น. นายแม็ก กดแอปพลิเคชั่นโบลล์เรียกรถของคุณกะทิ ให้ไปรับที่หน้า สน.พระโขนง ย่านสุขุมวิท 77 มีจุดหมายปลายทางไปที่วัดพระประโทณ อ.เมืองนครปฐม

เมื่อมาถึงถนนสานนครชัยศรี-ห้วยพลู ต.สัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม  นายแม็กออกอุบายว่าเมารถ จะอาเจียน เลยขอให้คนขับหยุดรถ  ตอนแรกนายแม็กนั่งที่เบาะหลังฝั่งซ้าย แต่ขยับมาที่ฝั่งขวาด้านหลังคนขับ แล้วใช้แขนรัดคอคุณกะทิจนหมดสติ  ก่อนจะใช้สายชาร์จรัดคอซ้ำจนเสียชีวิต แล้วอุ้มร่างคุณกะทิไปทิ้งไว้ที่คูน้ำ แล้วขับรถ ยี่ห้อเอ็มจี สีดำ ทะเบียน กทม. ของผู้ตาย  ไปจอดที่บ้านแฟนสาวที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยบอกกับที่บ้านแฟนสาวว่า  เป็นรถบ่อนที่มีคนเอามาจำนำ

กระทั่ง เวลา 22.46 น. ญาติของคุณกะทิไปแจ้งความ สน.ดินแดง ว่าคุณกะทิหายตัวไป  ต่อมา วันที่ 12 กันยายน นายแม็กขับรถผู้ตายออกไปแต่เช้า เพื่อเปิดเบอร์โทรศัพท์ใหม่ 1 เบอร์ ที่ห้างสรรพสินค้าย่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี  ซึ่งตอนนั้น เวลาประมาณ 11 โมงญาติของคุณกะทิตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ พบว่า อยู่แถวอู่ซ่อมรถ หมู่ 3 ตำบล สัมปทวน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม  

วันที่ 13 กันยายน นายแม็กปิดเบอร์โทรศัพท์ทั้งหมด และขับรถยนต์ผู้ตายไปส่งแฟนที่ตลาดนัดวัดไผ่หูช้างใน อ.บางเลน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะไปนครสวรรค์  แล้วกลับมาที่ตลาดนัดจอดรอให้เพื่อนมาขับไปที่ภูเก็ตต่อ

วันที่ 14 กันยายน รถของผู้ตายไปโผล่อยู่ภาคใต้ ซึ่งมีกล้องวงจรปิดหลายตัวจับภาพเอาไว้ได้ ตั้งแต่ที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ตอน 14.20 น. วันที่ 14 กันยายน  14.59 น. ที่อำเภอสวี จังหวัดชุมพร 18.19 น. อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา 19.04 น. อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา  19.17 น. อำเภอท่าฉัตรไชย จังหวัดภูเก็ต  ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่าการที่รถยนต์ผู้ตายไปโผล่อยู่ภูเก็ต เพราะมีนายตำรวจคนหนึ่งติดต่อขอซื้อ โดยตำรวจนายนี้นั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองไปรับรถด้วยตัวเอง

วันที่ 16 กันยายน ญาติคุณกะทิแจ้งความที่สน.ราษฎร์บูรณะอีกครั้ง ว่าคุณกะทิหายตัวไป แต่เรื่องก็เงียบไปจนกระทั่ง ช่วงสายของวันที่ 19 กันยายน พบศพคุณกะทิ ถูกฆ่าหมกร่องน้ำ บริเวณป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู ต.สัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบไทม์ไลน์เส้นทางรถยนต์ของผู้ตาย และกล้องวงจรปิด รวมทั้งตรวจสอบในระบบการเรียกรถของผู้ตาย พบชื่อนายแม็กเป็นคนเรียกใช้บริการ เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยหาตัวนายแม็ก กระทั่งพบว่า ไปหลบอยู่บ้านแฟนสาวใน อ.กำแพงแสน  เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวนและรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง แล้วนำรถคนตายไปขายกับเพื่อนชื่อเอ็ม โดยอ้างว่ามีคนสั่งซื้อเป็นตำรวจ  

นอกจากนี้ตำรวจได้นำตัวแฟนสาวของนายแม็ก ชื่อทราย มาสอบสวน สภ.นครชัยศรี สารภาพว่าแฟนได้เรียกรถให้มาส่งที่นครปฐมจริง   หลังจากที่ก่อเหตุแล้ว แฟนอ้างว่าลากผู้ตายทิ้งลงตรงจุดเกิดเหตุ และขับรถไปขาย  เพราะมีออเดอร์  จากนั้นเพื่อนชื่อเอ็ม ขับรถมาส่งแฟนที่บ้านแถวหนองโพธิ์  อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

ตำรวจยังตรวจสอบพบว่า มีกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอถลาง กับสภ.ถลาง ถนนเทพกระษัตรี (ขาเข้าเมือง) ม.1 ต.เทพกษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต  พบว่าคนขับรถคันดังกล่าวเป็นผู้ชาย  แล้วจึงพบรถคันนี้อีกครั้งเมื่อวันที่ 19 ก.ย.คนขับเป็นผู้หญิง

วานนี้ (20 ก.ย.) พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 แถลงการจับกุมโดย ยืนยันว่า เป็นเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากผู้ตายและผู้ต้องหาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  โดยเป็นการเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น จากนั้นนายแม็ก ผู้ต้องหาได้นำรถของผู้เสียชีวิตไปจอดที่บ้านแฟนสาว ย่านกำแพงแสน ก่อนจะนำรถไปขายเช้าวันที่ 12 ก.ย. โดยการขายครั้งแรกคือที่ จ.นครปฐม ก่อนจะพบรถเปลี่ยนมือหลายทอดไปอยู่ที่ จ.นครสวรรค์  และสุดท้ายพบรถคันดังกล่าวพร้อมคนขับที่เป็นผู้หญิงที่ จ.ภูเก็ตในวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งหญิงคนดังกล่าว เป็น ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ต นำรถมามอบให้ตำรวจ เพราะเห็นข่าว และให้การว่า ไม่รู้ว่าเป็นรถที่เจ้าของโดนฆาตกรรมมา

ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลว่ารถคันดังกล่าว มีการซื้อขายในราคาเท่าไร และมีบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ยืนยันว่าหากผู้ใดกระทำความผิดก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้น พร้อมย้ำว่าขณะนี้ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่ามีเพียงคนเดียว ส่วนการซื้อขายรถยังไม่พบตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง  แต่การเข้าจับกุมครั้งนี้เป็นการจับตามหมายเดิมในคดีลักทรัพย์ของ สภ.มีนบุรี เนื่องจากคดีฆ่าคุณกะทิ ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะขอศาลออกหมายจับ

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ยืนยันว่า ผู้ต้องหาไม่เคยมีคดีเกี่ยวกับการฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่แอบอ้างข่มขู่กับครอบครัวของภรรยา  แต่เป็นคดีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่กู้ภัย พื้นที่ สภ.ราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี และได้มีการเจรจายอมความกันแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ตำรวจ สภ.นครชัยศรี จะไปอายัดตัวผู้ต้องหาจาก สน.มีนบุรี เพื่อมาสอบปากคำ จากนั้นก็จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและดำเนินการฝากขังต่อไป

ทีมข่าวเดินทางมายัง สน.มีนบุรี  ได้พูดคุยกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเก่าของนายแม็ก ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา นายแม็ก ได้ยืมรถจักรยานยนต์จากเพื่อนที่เคยรู้จักกันสมัยถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี อ้างว่าจะนำรถจักรยานยนต์ไปเติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง แต่นายแม็ก ไม่นำรถจักรยานยนต์มาคืนและเจ้าของรถจักรยานยนต์ไม่สามารถติดต่อนายแม็กได้อีก จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ก่อนที่ในเวลาต่อมา  พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้นายแม็ก มาพบพนักงานสอบสวน แต่นายแม็ก ไม่มาตามหมายเรียก จึงได้ขออำนาจศาลอาญามีนบุรีออกหมายจับในข้อหาลักทรัพย์ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา

หลังจากที่ทางตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 ได้นำตัวนายแม็ก มาส่ง สน.มีนบุรี แล้ว ก็ดำเนินการสอบปากคำเบื้องต้น นายแม็ก ให้การปฏิเสธในข้อหาลักทรัพย์ตามหมายจับเก่า โดยอ้างว่ามีเพื่อนมายืมรถจักรยานยนต์ต่อไปอีกทอดนึงและไม่ทราบว่าเพื่อนคนดังกล่าวยืมรถจักรยานยนต์ไปไหนต่อ ซึ่งในส่วนคดีลักทรัพย์ตามหมายจับเก่านั้น ถือว่าเรียบร้อยแล้วและจะส่งฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรีในส่วนของคดีเก่าในวันนี้ (21 ก.ย.)

วานนี้ (20 ก.ย.) ตำรวจสืบมีนบุรี คุมตัวนายแม็ก เดินออกจากห้องขังไปสอบปากคำ เจ้าตัวเดินแบบค่อม ๆ ทำทีแสดงอาการว่าปวดท้อง ผู้สื่อข่าวถามว่าปวดท้องใช่ไหม นายแม็ก พยักหน้ารับ พอถามว่ากินยายังและทำแบบนี้ทำไม นายแม็ก ส่ายหัวปฏิเสธ ก่อนนำตัวเข้าห้องสอบสวน

หลังสอบปากคำเสร็จนำตัวนายแม็ก เข้าห้องขัง เจ้าตัวยังเดินในอาการเดิมอ้างว่าเจ็บท้อง “โอ๊ยปวดท้อง” พร้อมบอกว่า “ผมไม่เคยมีประวัติทำแบบนี้ ผมไม่เคยมีประวัติคดีฆ่า ผมไม่เคยมีพี่ ไม่เคยฆ่าคนมาก่อน” เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องแรงจูงใจหรือปัญหาหนี้สิน นายแม็กไม่ตอบคำถาม

แต่เมื่อไปตรวจสอบประวัติ พบว่านายณรงค์ศักดิ์ หรือนายแม็ก มีประวัติก่อคดีอาชญากรรมมาอย่างโชกโชนตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน

-วันที่ 26 ก.ย.50 คดีร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ท้องที่ สน.โชคชัย (คดีลหุโทษ ดำเนินคดีไปแล้ว)

-วันที่ 9 ธ.ค.52 คดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กไม่เกิน 15 ปี พรากผู้เยาว์ กักขังหน่วงเหนี่ยว ท้องที่ สน.โคกคราม (ดำเนินคดีไปแล้ว)

-วันที่ 13 มิ.ย.53 คดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี พรากผู้เยาว์ กักขังหน่วงเหนี่ยว ท้องที่ สน.โคกคราม (ดำเนินคดีไปแล้ว)

-วันที่ 3 ก.พ.66 คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นและลักทรัพย์เวลากลางคืน ท้องที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี (ดำเนินคดีไปแล้ว)

-วันที่ 9 ก.ย.67 คดีลักทรัพย์ ท้องที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี (ดำเนินคดีไปแล้ว)

-วันที่ 22 ส.ค.67 คดีลักทรัพย์ ท้องที่ สน.มีนบุรี (เพิ่งถูกจับกุมตามหมายจับ อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี)

-วันที่ 20 ก.ย.67 คดีชิงทรัพย์ผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ฆ่าผู้อื่น ท้องที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่ศาลจังหวัดนครปฐม (คดีล่าสุด)


ล่าสุด วันนี้ 21 ก.ย. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.นครชัยศรี ควบคุมตัวนายเเม็ก ออกไปทำแผน โดยนายแม็กยังคงมีอาการปวดท้อง และอิดออดไม่ยอมทำตามคำสั่ง จนตำรวจต้องพูดย้ำหลายรอบกว่านายแม็กจะยอมลุกมาใส่กุญแจมือ และยอมใส่เสื้อเกราะ เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายแม็กเกี่ยวกับประเด็นนายเอ็มว่า เป็นบุคคลที่มีตัวตนหรือไม่ นายแม็กไม่ยอมตอบคำถาม แต่พยักหน้า

จากนั้นตำรวจได้คุมตัวนายแม็ก ไปยังจุดพบศพ โดยนายแม็กยังทำท่ามีอาการเจ็บท้อง แต่ก็พูดคุยโต้ตอบกับตำรวจ เมื่อตำรวจให้นายแม็กชี้จุดจอดรถ และชี้จุดทิ้งศพ นายแม็กกลับไม่ยินยอมที่จะชี้จุด และบอกกับตำรวจว่า ตัวเองไม่ได้ฆ่าแต่นายเอ็มเป็นคนฆ่า ผู้สื่อข่าวจึงถามข้อมูลของนายเอ็มจากนายแม็ก ซึ่งนายแม็กเล่าว่า วันเกิดเหตุมีคนอยู่บนรถจำนวน 3 คน คือ ตัวเอง นายเอ็ม และทราย โดยได้แวะรับนายเอ็ม ที่โรงแรม จังหวัดนนทบุรี แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่านายเอ็มไปไหน วันที่ตัวเองโดนจับทั้ง 2 คนนี้ก็ไม่โดนมาจับด้วย ทั้งที่ตอนตัวเองถูกจับทรายก็นอนอยู่กับตัวเอง

ซึ่งในตอนลงมือสังหารนั้น นายเอ็มนั่งเบาะด้านหลังคนขับ ตัวเองนั่งอยู่ตรงกลาง ส่วนทรายนั่งอยู่ซ้ายมือสุด จากนั้น นายเอ็มใช้แขนรัดคอผู้ตายจากด้านหลัง ส่วนสายชาร์ตโทรศัพท์นั้น นายเอ็มหยิบออกมาจากคอนโซลกลางรถ ซึ่งตัวเองไม่รู้ว่านายเอ็มเอาไปรัดคอผู้ตายตอนไหน จากนั้นนายเอ็มได้ลากผู้ตายไปทิ้งไว้ที่ข้างทาง ซึ่งในตอนเกิดเหตุนั้น คนในรถไม่มีใครห้ามนายเอ็มเลย และตัวเองก็ไม่กล้าห้าม เนื่องจากกลัวและก็ไม่เคยมีคดีฆ่าคนตายมาก่อน จากนั้นก็ขึ้นรถและขับออกไป ส่วนทราย และนายเอ็มนั่งอยู่ด้านหลังรถ ตัวเองเห็นว่านายเอ็มหยิบมือถือของผู้ตายโยนทิ้งเข้าไปในป่า ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ไม่ทราบว่าหายไปไหน

ซึ่งก่อนเกิดเหตุตัวเองไม่มีเงินติดตัวสักบาท หลังนำรถไปขายได้จำนวน 15,000 บาท นายเอ็มเอาเงินไป 3,000 บาท เหลือให้ตัวเอง 12,000 บาท

โดยนายเอ็มเป็นคนนำรถไปขาย และกลับมาส่งตน ที่วัดไผ่หูช้าง ขอยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าผู้เสียชีวิต แต่ทำไมนายเอ็มกับทรายไม่โดนจับ ทำไมคนโดนจับต้องเป็นตัวเองเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตามนายเเม็กไม่ยอมขอโทษผู้เสียชีวิต และครอบครัวของผู้เสียชีวิต

จากนั้นตำรวจ สภ.นครชัยศรี ควบคุมตัวนายแม็กมา สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินการฝากขังต่อศาลในคดีลักทรัพย์ ซึ่งในระหว่างที่นายแม็กถูกคุมตัวอยู่ในห้องขัง ก็ได้ใช้หัวโขกกับลูกกรง จนเป็นแผลแตกตรงบริเวณกลางหน้าผาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไประงับเหตุ และทำการห้ามเลือดปฐมพยาบาลให้เรียบร้อย

ต่อมาเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายแม็ก ออกจากห้องขัง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายแม็กว่าเอาหัวโขกกับลูกกรงทำไม โดยนายแม็ก เผยว่า เครียดที่โดนจับ ไม่มีที่ระบาย ตนไม่เคยลักทรัพย์ใคร และในคดีนี้ไม่ได้ทำคนเดียว ยังมีอีก 2 คนที่ไม่โดนจับ


ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า ผู้หญิงที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 8 เชิญตัวมาสอบปากคำ หลังจากที่ตำรวจสามารถสะกดรอยตาม จนพบว่าเป็นผู้ขับรถยนต์ของผู้ตาย จาก จ.นครสวรรค์ ไปยัง จ.ภูเก็ต ซึ่งจากการสอบปากคำก็ยืนยันว่า หญิงคนดังกล่าวเป็นตำรวจสังกัดกองบัญชาการสำนักงานงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แต่เบื้องต้นไม่พบว่ามีความผิดเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนางสาวฐิติรัตน์ ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ารถเถื่อนหรือไม่ ขณะนี้ได้ส่งรายงานการสอบปากคำไปให้กองบัญชาการตำรวจภูธภาค 7 และ 6 ร่วมกันขยายผลถึงที่มาของการซื้อขายรถจากนายแม็ก

เนื่องจากการซื้อขายรถครั้งนี้เริ่มจากนายแม็กได้นำรถของผู้ตายไปขายให้กับบุคคลหนึ่งใน จ.นครปฐม ที่คาดว่าจะเป็นอดีตตำรวจ โดยมีเงื่อนไขจะต้องให้นายแม็กนำรถไปส่งมอบอีกที่หนึ่งให้กับผู้รับซื้อ ที่เป็นสามีภรรยา ที่จ.นครสวรรค์ จากนั้นสามีคู่ดังกล่าวก็จะนำรถไปให้กับพ่อของตำรวจหญิงที่รับซื้อทอดสุดท้าย ก่อนที่ตำรวจหญิงคนดังกล่าวจะบินตรงจาก จ.ภูเก็ต มารับรถที่ จ.นครสวรรค์ ที่เป็นคนซื้อรถให้ในราคา 35,000 บาท จนกระทั่งมาถูกจับกุม


อย่างไรก็ตามการดำเนินคดีในเรื่องของการรับซื้อของโจร ขณะนี้ยังไม่ปรากฏในสำนวนคดีว่า มีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง แต่ในส่วนของวินัยที่มีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดก็จะมีการเชิญเข้าไปให้ข้อมูลอย่างแน่นอน


ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายแม็ก ไปฝากขังยังศาลอาญามีนบุรี โดยในระหว่างรอส่งตัวไปฝากขังนั้นมีรายงานว่า นายณรงค์ศักดิ์ เมื่อได้เดินทางกลับจากทำแผนเมื่อช่วงเช้าของวันนี้แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวกลับเข้าไปที่ห้องขัง โดยช่วงหนึ่งนายณรงค์ศักดิ์ ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ปวดท้อง พะอืดพะอมจะอาเจียน พร้อมบอกว่า "ไม่มีใครเรียกหมอให้ผมเลย" ก่อนที่จะเอาหัวโขกกับลูกกรงของห้องขังจนหัวโน แล้วเงียบสงบไป


เมื่อถามว่าทำไมถึงเอาหัวโขกกำแพง นายแม็กเปิดเผยสั้นๆ ว่า เครียดที่ 2 คนนั้นไม่โดนจับ ยืนยันตนไม่ได้เป็นคนทำ แค่ไปขับรถเท่านั้น เหลืออีก 2 คนที่ยังไม่โดน ตนไม่เคยมีประวัติฆ่าใคร แต่เป็นตนที่ต้องมาโดนคนเดียว


https://youtu.be/c5mYhZ4Psvc

คุณอาจสนใจ

Related News