รวบโจรเหี้ยม เรียกรถผ่านแอปฯ ฆ่าคนขับ เอารถไปชิงทอง เศร้าผู้ตายเพิ่งลาออก มาดูแลแม่ป่วยหนัก

วานนี้ (8 ก.ค. 67) เวลา 11.30 น ทางศูนย์วิทยุกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่า ได้มีคนร้ายก่อเหตุบุกเดี่ยวชิงทองคำ จากร้านทองชื่อดัง ชั้น 2 ในห้างดังของเชียงใหม่ พื้นที่ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ โดยคนร้ายเลือกหยิบทองอย่างใจเย็น ได้ทองไป 80 บาท มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

หลังก่อเหตุ คนร้ายใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน จันทบุรี หลบหนีไป แต่เนื่องจากรีบหนี ทำให้รถไปครูดกับเสา เป็นรอยตรงประตูหลังด้านซ้าย แล้วขับรถหนีไปทางถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง จากนั้นเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ 

พลตำรวจตรี ธวัชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับการวิ่งราวทรัพย์ครั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดภายในร้าน และสอบถามพนักงานในร้าน พบว่า คนร้ายน่าจะมาดูลาดเลาหลายครั้งมีการเตรียมแผนมาเป็นอย่างดี เพราะใช้เวลาก่อเหตุเพียง 1 นาที 40 วินาที และน่าจะเข้ามาสำรวจดูลาดเลาหลายครั้งก่อนก่อเหตุ โดยเลือกช่วงเวลาที่ห้างสรรพสินค้าเริ่มเปิดให้บริการ เนื่องจากมีคนไม่พลุกพล่าน และมีการเตรียมแผนการหลบหนีมาเป็นอย่างดี

นางสาวชมพู่ พนักงานร้านทอง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า คนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทองครั้งนี้ เดินเข้ามาในร้านพร้อมถุง ร้านสะดวกซื้อ และบอกหัวหน้าเธอให้หยิบทองใส่ในถุง หัวหน้าก็มองหน้าแบบงงๆ และตกใจพูดแค่อะไรนะคะ

หลังจากนั้น คนร้ายก็เข้าก็เปิดประตูกั้นเข้ามาหยิบทองเองเลย แป๊บเดียวเอง ซึ่งขณะนั้น พนักงานตกใจสองคนก็วิ่งออกจากร้านอีกคนติดอยู่ด้านในออกไม่ได้เพราะเขาขวางอยู่ก็เลยหนีเข้าไปหลังร้าน โดยคนร้ายน้ำเสียงพูดเบา ๆ ไม่ค่อยได้ยินลักษณะคนร้ายเหมือนเตรียมการมาอย่างดีใส่ถุงมือใส่หมวกปีก ใส่เสื้อแขนยาว ซึ่งทำให้พนักงานไม่สามารถจดจำใบหน้าได้เลย

ต่อมา เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบรถยนต์ที่คร้ายใช้ขับหลบหนีออกจากห้าง ซึ่งป้ายทะเบียน และร่อยรอยที่เฉี่ยวชนตรงกับที่ติดตาม ถูกจอดทิ้งบริเวณเส้นทางขึ้นสู่ดอยสุเทพ รถจอดซุกไว้ฝั่งทางลงดอยสุเทพ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินป่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาตรวจสอบ และทำการเปิดรถเพื่อค้นหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่า ในรถมีหลักฐานหลายอย่างรวมทั้งมีรอยเลือดจำนวนมากเปรอะในรถ ถุงพลาสติก และเอกสาร มีเลือดที่เพิ่งเป็นรอยเลือดใหม่ ๆ เปรอะอยู่ แต่ไม่พบทองคำ คาดว่าทิ้งรถ แล้วนำทองหนีไป ซึ่ง ณ ขนะนั้น ตำรวจไม่แน่ใจว่าคนร้ายเอารถมาจอดทิ้งแล้วหนีเข้าป่าหรือเปล่า จึงได้วางกองกำลังตามจุดต่าง ๆ ของทางลงดอยสุเทพ

รายงานข่าวแจ้งว่า ตอนช่วงค่ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ที่บ้านพัก ต.เชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และควบคุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ 

จากการจับกุมครั้งนี้ สาเหตุมาจากคนร้ายเอาทองคำที่ชิงมาได้ ไปเร่ขายตามร้านทองในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ไม่มีร้านใดรับซื้อ เนื่องจากเห็นสัญลักษณ์ของร้านทองที่คนร้ายก่อเหตุติดอยู่ และแจ้งเบาะแสให้ตำรวจทราบ จนกระทั่งติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยคนร้ายชื่อว่า นายนิพิฐพนธ์ สมบูรณ์สุขยิ่ง อายุ 26 ปี

ทั้งนี้ รถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ และหลบหนีนั้น เป็นรถที่ได้มาจากการฆ่าชิงทรัพย์ โดยคนร้ายได้ทำทีเป็นผู้โดยสารเรียกแกร็บมารับ แล้วลงมือฆ่าคนขับรถแล้วเอาศพไปทิ้งไว้ที่บริเวณจุดชมวิวดอยสุเทพ จากนั้น นำไปใช้ก่อเหตุ และเอามาจอดทิ้งไว้ในป่าข้างทางขึ้นดอยสุเทพ 

-------------

เปิดไทม์ไลน์ คนร้ายโหดก่อเหตุชิงทอง กลางห้างดังเชียงใหม่

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า นายนิพิฐพนธ์ ผู้ก่อเหตุ มีการวางแผนเป็นอย่างดี โดย...

• ไปดูร้านทองเป้าหมายหลายวันต่อเนื่อง
• วางแผนเส้นทางหลบหนี
• วางแผนหาอุปกรณ์ และเครื่องมือในการก่อเหตุ โดยมีการซื้อปืนเตรียมไว้
• วางแผนเรื่องของขั้นตอนการหารถเพื่อใช้หลบหนี
• ศึกษา และสำรวจเส้นทางเดินป่า ของดอยสุเทพ เพื่ออำพราง/ซ่อนตัว
  

โดย คนร้ายเริ่มก่อเหตุเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 ก.ค. โยการขับรถเก๋งส่วนตัว ไปจอดไว้ที่เส้นทางเดินป่าใกล้อ่างเก็บน้ำกาแล แล้วเดินเท้าเข้าป่า ใช้เส้นทางที่จะลัดมาออกที่วัดผาลาด และเดินออกมายังถนนห้วยแก้ว-ดอยสุเทพ ไปยังน้ำตกผาลาด ซึ่งอยู่ริมถนน

หลังจากนั้น สุ่มเรียกรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชั่นหนึ่ง เพื่อให้ขับรถมารับ โดยไม่สนว่าจะเป็นใครขับรถ พอรถมารับ ก็เปิดประตูเข้าไปนั่งที่เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังคนขับ หลังจากนั้นก็ชักปืนที่เตรียมไว้จ่อยิงที่ท้ายทอย จนคนขับเสียชีวิตทันที

หลังจากนั้นลากศพของผู้ตายมาไว้ด้านหลังรถ และเปลี่ยนไปขับรถลงจากจุดที่เรียกรถไปไม่ไกล ซึ่งช่วงที่ก่อเหตุนั้นเป็นช่วงเช้ามืด ยังไม่ค่อยมีคนใช้ถนนผ่านไปมา

หลังจากนั้น นำรถมาจอดที่ศาลาที่พักริมทาง ช่วงก่อนที่จะขึ้นมาถึงวัดผาลาด ซึ่งด้านหลังศาลาเป็นป่ารก และลาดชัน หลังจากนั้นก็ทิ้งร่างผู้ตายลงไปลงในเหวลึกประมาณ 50 เมตร เพื่ออำพรางศพ 

ก่อนที่จะใช้รถของผู้ตายขับออกไป และเปลี่ยนชุดเป็นชุดของไรเดอร์ และปิดบังอำพรางใบหน้า ขับรถไปที่ห้างเข้าไปก่อเหตุในช่วงที่ห้างเปิดเวลาประมาณ 11.30 น. ซึ่งช่วงเปิดจะยังไม่มีคนเข้าไปใช้บริการมากนักโดยมีการพกอาวุธปืนไว้ที่เอว แต่ช่วงเช้าไปชิงทองไม่ได้ชักออกมาข่มขู่ เนื่องจากไม่มีใครขัดขืน

หลังจากนั้นก็หลบหนีออกมาที่ลานจอดรถ และขับรถผู้ตายหนีช่วงนั้นรีบร้อนทำให้รถเกิดเฉี่ยวชนกับเสาอาคารจอดรถ

หลังจากนั้นก็ได้นำรถของผู้ตายชับมาขึ้นดอยสุเทพอีกครั้ง และนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณจุดที่เคยเรียกรถให้มารับ และเดินกลับเข้ามาตามเส้นทางป่า เพื่อลงมาเอารถของตนเองที่กาแล

ก่อนที่จะขับกลับเข้ามาในเมือง เปลี่ยนชุด และตระเวนนำทองไปเดินขายตามร้านทองย่านตลาดวโรรส หรือกาดหลวง จำนวน 3 ร้าน แต่ไม่มีร้านไหนรับซื้อ เนื่องจากทองทุกเส้นมีสัญลักษณ์ของห้างทองที่ถูกชิงทอง และมีการแจ้งข่าวกันในกลุ่มร้านทอง

คนร้ายจึงได้ขับรถไปยังพื้นที่อำเภอสันกำแพง เพื่อขายทอง 1 เส้นหนัก 2 บาท และ ไปขายร้านทองที่อำเภอดอยสะเก็ดอีก 1 เส้นหนัก 2 บาท

หลังจากขายทองเสร็จ จึงกลับบ้านพักในอำเภอดอยสะเก็ด ก่อนที่ตำรวจจะแกะรอย และติดตามจับกุมได้ที่บ้านพักในที่สุด พร้อมของกลางทองที่เหลืออีกประมาณ 70 บาท

-------------

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช. ภาค 5 ได้เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ โดยผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ผู้ต้องหา ได้เล่าว่า เพื่อหาเงินไปช่วยพ่อ-แม่ปลดหนี้สิน ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ซึ่งครอบครัวเป็นหนี้ถึง 10 ล้านบาท 

ขณะที่ผู้ต้องหาไม่มีงาน รวมทั้ง ติดเกมส์ประเภทใช้ความรุนแรงโดยเฉพาะวางแผนต่อสู้ และฆ่าฟันกัน เชื่อว่าส่วนหนึ่งได้จากพฤติกรรมเลียบแบบเกมด้วย

-------------

กลังจากจับกุมคนร้ายได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาไปชี้จุดที่ลงมือก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์เจ้าของรถยนต์ รวมทั้งไปชี้จุดที่นำศพไปทิ้ง โดยเจ้าหน้าที่ต้องโดยตัวไปเอาศพนายสุเทพ อายุ 48 ปี โดยเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่มาสังเกตการณ์ ได้ตะโกนด่าทอคนร้ายด้วยความโกรธแค้น

เพื่อนของผู้ตาย ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายเป็นชาวอำเภอแม่แตง ก่อนหน้านี้ ไปทำงานที่จังหวัดระยอง และมีครอบครัว มีลูกเมียอยู่ที่จังหวัดระยอง แต่ต้องลาออกจากงานที่ระยองได้ไม่นานมานี้ เพราะต้องกลับมาดูแลแม่ที่ป่วยหนักอยู่ที่เชียงใหม่ แต่ก็ไปมาหาลูกเมียที่ระยองเป็นบางครั้ง หันมาทำอาชีพขับรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชั่น และชื่นชอบการออกกำลังแบบวิ่งเทรล และปั่นจักรยาน และมีอาชีพเสริมเป็นเทรนเนอร์สอนออกกำลังกายด้วย แต่ก็มาถูกสังหารโหดในครั้งนี้ ทิ้งแม่และลูกเมียไว้

-------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/P-rEefOke3k