อาชญากรรม

แจ้งข้อหาเนิร์สเซอรีปมน้อง ‘กุน’ อาการโคมา 'ครูแอน' รับประมาทจริง -แม่ร่ำไห้ โอกาสรอดลูกชายริบหรี่

โดย petchpawee_k

21 ม.ค. 2566

2.6K views

‘ครูแอน’ เจ้าของเนิร์สเซอรี ยอมรับประมาท เสียใจไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้ขึ้นไม่แก้ตัว เผย ให้ ‘น้องกุน’ นอนคว่ำตะแคงหัว ออกไปกินข้าว 35 นาที กลับมาเจอเด็กไม่รู้สึกตัว ปากเขียว ปั๊มหัวใจนำส่ง รพ. วงจรปิดโดนตัดเน็ตถอดปลั๊กออกนานแล้ว

ด้านตร.แจ้งข้อหาเจ้าของเนิร์สเซอรี “ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส”  ขณะที่แม่เด็ก เศร้า หมอบอก โอกาสรอด 0% ได้แต่กระซิบบอกลูก "แม่ขอโทษ ขอให้หนูสู้เท่าที่หนูไหว" 


กรณีผู้ปกครองนำ ‘น้องกุน’ ลูกชายวัย 1 ขวบ 11 เดือน ไปจ้างฝากเลี้ยงวันแรก ที่เนอสเซอรี่แห่งหนึ่ง ย่านหนองจอก กทม.จากนั้นทางเนิร์สเซอรี่โทรมาแจ้งว่าออกไปกินข้าวกลับมาเจอเด็กตัวเขียวนอนคว่ำหน้าเอาผ้าปิดจมูกไม่หายใจ อยู่ห้องไอซีซีหมอบอกโคม่าโอกาสรอด 0% พ่อกับแม่คาใจปล่อยเด็กนอนลำพังไม่ดูแล วงจรปิดพังเปิดดูไม่ได้


วานนี้ (20 ม.ค.) “ครูแอน” เจ้าของเนิร์สเซอรี เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.หนองจอก เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เนอสเซอรี่ เปิดมา 7 ปีแล้ว มีครูพี่เลี้ยงรวมตนเอง จำนวน 3 คน วันเกิดเหตุมีเด็ก 20 คน และมีครูพี่เลี้ยง 2 คน ที่ช่วยกันดูแลเนี่องจากอีกคนลา โดยครูพี่เลี้ยงจะแบ่งหน้าที่กันดูแลเด็ก เช่น กิจกรรมทั่วไป สอนอ่านเขียน


โดยเคสของน้องกุน ช่วงเช้าวันเกิดเหตุผู้ปกครองได้นำมาฝากเลี้ยง จากนั้นช่วงเที่ยงหลังทานข้าวเสร็จน้องเริ่มงอแง ขณะนั้นเวลาเที่ยงครึ่งเด็กคนอื่นหลับหมดแล้ว เหลือน้องกุนร้องอยู่ข้างนอกไม่ยอมเข้าห้องนอน จะเดินตามครูหนิง ครูพี่เลี้ยงอีกคน พอครูหนิงจะไปพักน้องกุนก็ร้องไห้ ตนจึงพาเข้ามาห้องนอนดูแลต่อจากครูหนิง ซึ่งน้องกุนก็ยังร้องไม่หยุดถือผ้าห่มแล้วเดินลาก น้องไม่ยอมเข้าห้อง ตนจึงอุ้มน้องกุน เข้าห้องนอนพร้อมกับผ้าห่มของน้อง ยิ่งจับตัวก็ยิ่งร้องเสียงดัง


ครูแอน บอกว่า พอน้องกุน ไปนั่งตรงที่นอน ตนก็นั่งกอด ไม่ได้กอดแน่น แล้วจับเอนตัวลงนอน ซึ่งน้องกุนก็จะกอดผ้าไว้ตลอด โดยให้น้องนอนลักษณะคว่ำตะแคงหัว จากนั้นตนใช้มือลูบหลังน้องจนหยุดร้องไห้ ณ ตอนนั้นตนไม่ได้มีอารมณ์โกรธอะไรกับเด็ก แค่ต้องการเอาน้องนอนและนั่งลูบหลังเท่านั้นเอง พอเห็นน้องนอนหลับ ตนก็ลุกออกไปทำงานต่อตอน 13.15 น. และออกไปทานข้าวด้านหลังเนิร์สเซอรี


13.50 น. กลับเข้ามาในในห้อง เปิดไฟเด็กทุกคนก็จะตื่น จะเหลือแต่เด็กที่นอนขี้เซาจจะไม่ยอมตื่นต้องเดินปลุก พอปลุกมาถึงน้องกุน เห็นน้องไม่รู้สึกตัว ตัวไม่เขียวอุ่น ๆ ตนเรียก 2-3 ครั้งน้องก็ไม่ขยับตัว จึงจับพลิกตัวเห็นปากน้องสีคล้ำอกม่วงๆ ก็รีบปั๊มหัวใจ และอุ้มน้องวิ่งไปหาครูหนิง ด้านหลังเนิร์สเซอรี แล้ว รีบพาส่งโรงพยาบาลให้ไวที่สุด

ส่วนกล้องวงจรปิดที่ใช้ไม่ได้เพราะไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่ได้ใช้งานจึงถอดปลั๊กออกนานแล้ว นานแค่ไหนก็จำไม่ได้ เพราะช่วงโควิดระบาด โดนปิดเนิร์สเซอรีหลายรอบ อะไรต่างๆ ที่โดนตัดก็ยังไม่เข้าที่ พอได้รับการอนุญาตเปิดก็ยังไม่เข้าที่ เพราะความพร้อมไม่เต็มที่ เราโดนปิดมานาน


 “ถ้าถือว่าประมาทยอมรับค่ะ ประมาทที่ลุกมาจากเขาแล้วไม่ได้กลับไปดูอีกครั้ง โดยประสบการณ์เด็กถ้าร้องไห้แล้วนอนหลับแบบนี้ ยังไงต้องนอนหลับแน่ๆ พอเขาตื่นนอนมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็จะอารมณ์ดี ไปเยี่ยมน้องบอกกับคุณแม่ทุกวันที่หน้าห้องฉุกเฉินว่าคุณครูเสียใจ ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทุกอย่างไม่แก้ตัว ยอมรับว่าประมาทเองจริงๆ”


ขณะที่ “ครูหนิง” ครูพี่เลี้ยงอีกคน น้ำตาคลอเผยกับทีมข่าวว่า ครูแอนอุ้มน้องกุน วิ่งมาหาตนที่ด้านหลังเนิร์สเซอรี บอกว่า น้องนอนไม่ตื่น ตนจึงบอกให้รีบพาไปโรงพยาบาล ตัวน้องนิ่มๆ เป็นปกติอุ่นๆ แต่ปากเขียว ตอนนั้นตกใจ มีสติจะต้องนำน้องส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด จะต้องรักษาชีวิตคนให้เร็วที่ที่สุด คิดอยู่แค่นั้น อยู่ดีๆ ทำไมน้องเป็นแบบนั้น เราเลี้ยงเด็กมาเท่าไหร่แล้วไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ครั้งแรกในชีวิต


 “บอกตรงๆ เสียใจ ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้น เขาเสียใจเราก็เสียใจ เราเลี้ยงลูกเขาแล้วมันเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น เสียใจมาก อยากจะขอโทษเขาว่าเสียใจด้วย เสียใจจริง ๆ จากใจจริง ๆ จากนี้จะดูแลให้ดียิ่งขึ้นในสิ่งที่เราพลาดไป ยอมรับว่าเราประมาท เราอยู่ของเราแบบนี้ไม่เคยเกิดเหตุอะไรก็อาจจะย่ามใจ”


ทีมข่าวลงพื้นที่ไปสถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าว ในซอย เค.ซี. ถนนมิตรไมตรี หนองจอก พบว่าเมื่อวานนี้ (20 ม.ค) หลังเกิดเหตุได้ปิดทำการ ไม่มีใครอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก โดยสถานรับเลี้ยงใช้พื้นที่ร่วมกับสโมสรของหมู่บ้าน เป็นอาคาร 2 ชั้น มีการติดป้ายกฎระเบียบต่าง ๆ ภายในสถานที่รับเลี้ยงเด็กมีอุปกรณ์ของเล่นสำหรับเด็กเล็ก


 สอบถามคนในหมู่บ้านไม่มีใครรู้ว่าเกิดเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าว เพิ่งรู้จากที่เห็นนักข่าวมากัน คนในหมู่บ้านรายหนึ่ง เล่าว่า ที่นี่เปิดเลี้ยงเด็กปกติ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ก็เปิดปกติ และจะปิดประมาณ 15.00 น. ของทุกวัน แต่วานนี้ (20 ม.ค.)ไม่เห็นเปิดตั้งแต่เช้า ก็เพิ่งมาทราบว่ามีกรณีน้องกุน เกิดขึ้น


ขณะที่ วานนี้ (20 ม.ค.) นางสาวพัชรา  และนายธีรศักดิ์  พ่อแม่ของน้องกุน เดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองจอก เพิ่มเติม หลังตำรวจแจ้งข้อกล่าวหากับ “ครูแอน” เจ้าของเนิร์สเซอรี “ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส” โดยคุณแม่ยังเสียใจและรับไม่ได้กับเหตุที่เกิดขึ้น ให้ปากคำกับตำรวจและร้องไห้ตลอดเวลา


ส่วนลูกชายยังรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี เมื่อวานนี้หมอเรียกไปคุยบอกให้ผู้ปกครองทำใจ น้องอาจจะไม่ได้แล้วเพราะไม่ตอบสนอง แต่คุณแม่ขอให้หมอช่วยประคองด้วยการใส่เครื่องช่วยหายใจอย่างถึงที่สุด ยังทำใจไม่ได้มันเร็วไปถ้าจะยุติการรักษา ขอใช้ช่วงเวลานี้อยู่กับลูกแม้จะรู้ว่าลูกชายมีโอกาสรอด 0% ได้แต่กระซิบบอกลูก "แม่ขอโทษ ขอให้หนูสู้เท่าที่หนูไหว"


 นางสาวพัชรา นำผ้าห่มสีชมพูที่น้องนอนกอดในวันเกิดเหตุ (ผืนที่น้องติดตั้งแต่เกิด) มาให้ตำรวจดูเป็นหลักฐาน พร้อมร้องไห้เผยว่า “ไม่คิดว่าการที่ตนไปส่งลูกไปเนิร์สเซอรีวันแรกจะต้องเจอเหตุการณ์อย่างนี้ น้องกำลังน่ารัก ลูกคนนี้กว่าหนูจะมีได้ต้องใช้เวลา 2 ปี ทำไม่ต้องมาเกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับหนูแย่มากๆ สื่งที่ตนเองติดใจมาก ถ้าบอกไม่มีกล้องวงจรปิดตั้งแต่แรก ตนเองไม่มีทางเอาลูกไปฝากเลี้ยงแน่ ที่เอาไปเนอสเซอรี่นี้เพราะใกล้บ้าน”


หลังเกิดเหตุ ตนบอกกับ “ครูแอน” เจ้าของเนิร์สเซอรี่ว่าจะขอดูกล้อง เขาบอกได้ค่ะ ต่อมาบอกกับตนว่ากล้องพังไม่ได้จ่ายค่าอินเตอร์เน็ตและถอดสายออก มองว่ามันไม่แฟร์สำหรับคนเป็นพ่อแม่ ก่อนหน้านี้ที่จะเอาลูกไปฝากเลี้ยง ตนได้ไปสอบถาม 2-3 รอบ นำไปทดลองฝากเลี้ยง ซึ่งทางเนิร์สเซอรี บอกระเบียบต่าง ๆ และยันยันมีกล้องวงจรปิด จึงตัดสินใจนำลูกมาฝากเลี้ยงที่นี่ “เคยเห็นแต่ในข่าวไม่คิดว่าต้องมาเจอกับตัวเอง”


นางสาวพัชรา กล่าวว่า “ครูแอน” อ้างว่าผ้าปิดจมูกและหน้าทำให้น้องหยุดหายใจ ถ้ามีกล้องวงจรปิดให้ตนเห็นก็จะให้เป็นไปตามกระบวนการ แต่ตนติดใจที่เขาบอกผ้าปิดจมูกแต่ไม่มีกล้องวงจรปิดให้ตนดู จะเชื่อได้ไงว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับลูกของตนเองกันแน่ ขอแค่หลักฐานกล้องวงจรปิด ช่วงเวลานั้นปล่อยปะละเลยมั้ย


ทางเนิร์สเซอรี บอกกับตนว่า ให้น้องนอนคว่ำหน้า บางครั้งก็บอกว่าเอาผ้าคลุมโปง บางครั้งก็บอกเอาผ้าปิดหน้าจมูก พูดไม่ตรงสักครั้ง ตนต้องการความชัดเจน ถ้ารู้ไม่มีกล้องวงจรปิดหรือกล้องเสียจะไม่เอาลูกไปฝากเลี้ยงแน่นอน ในวันเกิดเรื่องหลังนำน้องส่งโรงพยาบาลแล้ว ครูแอนก็หายไปทั้งวัน จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อชี้แจงใดๆ ตนต้องการให้รับผิดชอบ ชีวิตคนมันแลกไม่ได้ เรามีลูกแค่คนเดียว กว่าจะมีได้ไม่ใช่เรื่องง่าย “อยากให้เป็นเคสกรณีศึกษาสำหรับพ่อแม่คนอื่น เนิร์สเซอรี อย่าปิดบังความจริง”


 ขณะที่นางสาวพัชรา ผู้เป็นแม่ ยังได้โพสต์ภาพลูกชาย พร้อมความระบุ "ถ้าพรที่แม่จะขอได้ขอให้ปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับหนูนะลูกน้องกุน"


ขณะที่นายธีรศักดิ์  พ่อของ ‘น้องกุน’ ระหว่างให้ปากคำก็ได้แต่นั่งเศร้า กอดผ้าห่มสีชมพูผืนโปรดของน้อง เปิดกระเป๋าใส่เสื้อผ้าของกุน ในกระเป๋าใบนี้มีกางเกงของน้องกุน ที่ใส่ในวันเกิดเหตุ และยังมีกระเป๋าใบเล็กๆ ที่น้องใช้ไปเนอสเซอรี่ ด้านในยังมีผ้าขนหนูที่น้องเอาไว้ใช้เช็ดหน้า พอพ่อเปิดดูสิ่งของเหล่านี้ก็นั่งกอดแนบไว้ที่อกและร้องไห้ออกมา

พ่อของน้องกุน เผยทั้งน้ำตาว่า ผ้าห่มผืนสีชมพูเป็นผืนโปรดของน้อง จะไปที่ไหนก็ต้องเอาไปด้วย น้องติดผ้าผืนนี้มาก พ่อเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผ้าจะมาปิดหน้าและทำให้น้องหยุดหายใจ เพราะน้องห่มผืนนี้ตลอดตั้งแต่เกิด อ้างว่าผ้าปิดหน้า ผ้ามันหนามั้ยล่ะ จะเอาเรื่องถึงที่สุด


“ไม่อยากเรียกร้องอะไร ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผมไม่อยากให้ลูกผมเป็นอย่างนี้ ไม่อยากพูดอะไรมาก ผมรักลูกผมมาก ผมเห็นลูกหน้าเขียวทำอะไรไม่ถูกเลย ทำใจไม่ได้ ที่เคยเห็นข่าวมันเกิดขึ้นจริงกับครอบครัวตนเอง มันแย่ไปหมด เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ถ้าไม่ปล่อยปะละเลยลูกผมก็ไม่เป็นอย่างนี้”


พ.ต.อ.ประเสริฐ สอนแจ่ม ผู้กำกับการ สน.หนองจอก เปิดเผยว่า ขณะนี้แจ้งข้อกล่าวหาเอาผิดกับ “ครูแอน” ซึ่งเป็นเจ้าของเนอสเซอรี่ ข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส จากการสอบปากคำครูแอน ให้การว่าวันเกิดเหตุช่วงเที่ยงเด็กทานอาหารเสร็จ ก็เข้านอนประมาณเที่ยงครึ่ง ส่วนใหญ่นอนหมดแล้ว เหลือแต่น้องกุนร้องไม่ยอมนอนหลับ ครูแอนอยู่คนเดียวก็พยามเอาเด็กจำนวน 20 คน เข้านอน โดยครูแอนใช้มืออุ้มกอดล็อคตัวน้องกุน จากด้านหลัง พาไปนอน


ซึ่งน้องกุน จะมีผ้าห่มผืนโปรดติดตัวด้วยตลอด ตอนนั้นพาน้องกุน เข้านอน ซึ่งน้องนอนคว่ำ บริเวณหัวยังตะแคงอยู่ ลักษณะกอดผ้าห่มปิดตั้งแต่คอจนถึงจมูก ตอนนั้นน้องยังร้องอยู่สักพัก แต่พอลูบหลังก็เงียบไป ครูแอนเลยปล่อยให้น้องนอน แล้วออกไปกินข้าวในเนิร์สเซอรี ประมาณบ่าย 2 โมง จะเรียกเด็กตื่น ทุกคนตื่นหมด แต่น้องกุน ยังนอนคว่ำอยู่ตัวไม่กระคุกกระดิก ปากเขียวไม่หายใจ จากนั้นครูแอน อุ้มน้องกุนไปหาครูพี่เลี้ยงอีกคนที่อยู่ด้านหลังเนอสเซอรี่ บอกว่าน้องปากเขียวจะทำยังไงดี ครูพี่เลี้ยงจึงบอกให้รีบพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด โทรแจ้งผู้ปกครอง


ขณะที่ชุดสืบสวน สน.หนองจอก ได้ไปเก็บพยานหลักฐาน นำกล้องวงจรปิด 2 กล้อง มาตรวสอบ แต่กล้องทั้งสองไม่มีการ์ดและไม่ได้เสียบปลั๊ก ครูแอนอ้างว่ากล้องไม่ได้ใช้มานานพอสมควรแล้วไม่ได้จ่ายเงินค่าเชื่อม Wi-Fi แต่กลับแจ้งผู้ปกครองว่ามีกล้องวงจรปิด ผู้ปกครองจึงไว้ใจ ไม่พูดความจริง


ทั้งนี้ หากพบความผิดอื่นเพิ่มเติม ก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาต่อไป รวมถึงการออกใบอนุญาตสถานประกอบการรับเลี้ยงเด็ก เบื้องต้นใบอนุญาตที่พบขอตั้งแต่ปี 63 อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าในปี 64 จนถึงปัจจุบันได้มีการดำเนินการต่อใบอนุญาตหรือไม่ หากไม่มีก็จะต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/UIPoNo_ZdSY

คุณอาจสนใจ

Related News