พ่อแม่ใจแทบสลาย รถตู้ถูกกระบะชน ทำลูกชาย 2 คนกระเด็นออกรถตู้ อาการโคม่า คู่กรณีไร้รับผิดชอบ

พ่อแม่ร้องตามหากระบะขับแซงซ้ายพุ่งชนรถตู้โดยสาร ทำให้ลูกชาย 2 คน กระเด็นออกจากรถตู้อาการโคม่า ผ่านมา 4 เดือนไร้รับผิดชอบ

ภาพกล้องหน้ารถบันทึกนาทีคนขับกระบะขับแซงซ้ายแล้วพุ่งไปชนรถตู้โดยสารเข้าอย่างจัง ทำให้เด็กชาย 2 คน กระเด็นออกมาจากรถตู้แล้วตกลงมานอนแน่นิ่งข้างถนน เหตุการณนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2565 เวลา 20.00 น. หลังเกิดเหตุผู้เป็นแม่ใจแทบสลาย เพราะลูกชายทั้ง 2 คนอาการสาหัส ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ระบุว่า อาการโคม่า ส่วนรถคันก่อเหตุไม่รับผิดชอบ มีเพียงคนขับรถตู้ที่จ่ายเงินให้ 3 หมื่นบาท เป็นค่าสินไหมทดแทนจากประกันรถสาธารณะ

ล่าสุดวันนี้ (11 เม.ย. 2566) น.ส.เพลินพิศ ชนพิมาย อายุ 38 ปี ได้ร้องความเป็นธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2565 เธอและลูกชาย 3 คน รวมแม่อีก 1 คน เป็น 5 คน ได้นั่งรถตู้จากจังหวัดฉะเชิงเทรา มาที่จังหวัดระยอง เมื่อถึงบริเวณแยกเนินสำลี เวลาประมาณ 20.00 น. เมื่อรถขับลงเนินมา มีรถกระบะที่แซงซ้ายขึ้นมาชนท้ายรถตู้ ทำให้ลูกชายคนกลาง อายุ 10 ขวบ และลูกชายคนเล็ก อายุ 8 ขวบ กระเด็นออกจากตัวรถ รถไปจอดตรงบริเวณวัดโขดหิน-เขาไผ่ เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด จึงรีบวิ่งตามหาลูกทั้ง 2 และทางกู้ภัยได้ไปส่งที่โรงพยาบาล กรุงเทพ-ระยอง และต่อมาย้ายมารักษาตัวต่อ ที่โรงพยาบาลระยอง

ลูกชายคนกลาง อายุ 10 มีอาการตับฉีก เข้าทำการรักษาตัวผ่าตัดจนดีขึ้น และออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนลูกชายคนเล็ก อายุ 8 ขวบ มีอาการเลือดออกในสมอง สมองบวม ตาข้างขวาลืมไม่ได้ ได้ทำการผ่าตัดด่วนที่โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง ต่อมาย้ายมารักษาตัวต่อที่ โรงพยาบาลระยอง เนื่องจากเธอสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว

ผ่านมา 4 เดือนแล้ว ลูกชายคนเล็กอาการไม่ดีขึ้น หายใจเองไม่ได้ แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ร่างกายไม่ตอบสนองใดๆ แพทย์บอกว่า อาการยัง 50:50 หากน้องกลับมา น้องก็ไม่เหมือนเดิม ยังคงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ อย่างใกล้ชิด

ต่อมาทราบภายหลังจากพนักงานสอบสวนว่า คู่กรณีที่เป็นรถกระบะ แคป ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว คันต้นเหตุไม่มีใบขับขี่ ไม่มี พ.ร.บ. และรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งตั้งแต่น้องเข้ารักษาตัวมา มีการมาเยี่ยม เพียง 1 ครั้งเท่านั้น และอิดออดการช่วยเหลือเยียวยา ให้มาไกล่เกลี่ยที่สถานีตำรวจภูธรมาบตาพุดก็ไม่มา ทางเธอนั้น ก็หาเช้ากินค่ำ รับจ้างเป็นรายวัน ไม่มีเงินที่จะมาใช้จ่าย มารักษาลูก

ขณะที่นายอำพล วงศ์งาม อายุ 52 ปี พ่อของเด็กที่บาดเจ็บ กล่าวว่า หวังปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น เขาอยากได้ชีวิตลูกกลับคืนมา อยากเห็นความน่ารักสดใสของลูก ซึ่งตอนนี้ลูกชายคนเล็กก็เหมือนตายทั้งเป็น เราเป็นพ่อเป็นแม่ก็ใจแทบสลาย วันนี้ได้เดินทางไปที่วัดโขดทิมธาราม อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อขอพรองค์หลวงพ่อขาวให้อาการลูกดีขึ้น อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นแล้ว จากความประมาทหรือความคึกคะนองของคู่กรณี ก็ควรจะต้องมารับผิดชอบ มาชดใช้ให้ลูกของเขาบ้าง

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวได้ติดต่อ ทนายพิรุณ สมบรม เข้ามาช่วยเรื่องคดีนี้ เบื้องต้นได้นำเรื่องราวดังกล่าวไปแจ้งยังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดระยอง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือในเรื่องคดีก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/q9xqGlZ3uvI