สังคม

ลูกชายขวบกว่าสำลักน้ำทะเล จนท.เต็นท์ปฐมพยาบาลบอกไม่เป็นไรมาก ให้พาไป รพ.เอง ไปถึงอาการโคม่า เข้าไอซียู

โดย panisa_p

25 มี.ค. 2567

671 views

วันที่ 25 มีนาคม 2567 ที่หน้าโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ตำบลท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร น.ส.ชัญญานุช อายุ 19 ปี นายปริพัฒน์ อายุ 19 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ได้ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว โดย น.ส.ชัญญานุช กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 ตนกับสามีและลูกชาย อายุ 1 ขวบ 5 เดือน พร้อมกับญาติรวม 6 คน ได้ไปเที่ยวงานโลกทะเล ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณชายหาดทุ่งวัวแล่น ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นงานวันแรก มีพิธีเปิดใหญ่โต


โดยช่วงระหว่างเวลา 5-6 โมงเย็น ขณะที่ตนกับสามีและญาตินั่งเล่นอยู่ริมชายหาด ลูกชายตนวิ่งเล่นตามประสาเด็กบนชายหาดแล้วเกิดเสียหลักล้มหน้าขมำลงไปในแอ่งน้ำทะเล ที่มีการขุดเอาดินนำไปทำคันเนินในงาน จนลูกชายตนสำลักน้ำอย่างรุนแรงและหวีดร้องตลอด ตนและสามีจึงรีบอุ้มลูกชายไปที่เต็นท์กองอำนวยการ ซึ่งเป็นเต็นท์ปฐมพยาบาล ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 30 เมตร พบว่าเจ้าหน้าที่พยาบาลนั่งอยู่ 2 คน ใส่เสื้อกั๊กมีโลโก้ของหน่วยงานรัฐ และมีรถพยาบาลฉุกเฉิน 1669 ของโรงพยาบาลจอดอยู่ใกล้กัน 1 คัน


น.ส.ชัญญานุช กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่พยาบาล 2 คน ได้ดูอาการของลูกชายตน ที่ยังรู้สึกตัวและส่งเสียงร้องดังลั่นตลอดเวลา แล้วบอกว่าลูกชายตนไม่เป็นอะไรมาก แล้วบอกให้ตนพาไปส่งโรงพยาบาลเอง เพื่อไปดูดเสมหะในลำคอ ซึ่งตนก็งงมากทั้งๆ ที่มีรถฉุกเฉินโรงพยาบาลจอดอยู่ข้างๆ ซึ่งตนก็รีบอุ้มพาร่างลูกชายวิ่งไปขึ้นรถยนต์กระบะที่จอดอยู่ริมทางเพื่อไปโรงพยาบาล ซึ่งมีระยะทางจากจุดเกิดเหตุประมาณ 15 กิโลเมตร


แต่เนื่องจากเป็นงานวันแรกและผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรกำลังกล่าวเปิดงานและจัดให้มีการกินฟรี ทำให้บนถนนริมชายหาดเต็มไปด้วยคนและรถสัญจรจำนวนมาก กว่าสามีตนจะขับรถออกจากงานแล้ววิ่งไปบนถนน ทำให้ต้องใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง เมื่อไปถึงโรงพยาบาล หมอได้ตรวจอาการแล้วรีบพาเข้าห้องไอซียูทันที เพราะลูกชายตนมีอาการหนักมากแล้ว


หมอมาบอกว่าลูกชายตนอาการโคม่า 50-50 เนื่องจากไม่มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แถมพามาส่งโรงพยาบาลช้า และยังมีน้ำอยู่ในปอด ตอนนี้ผ่านมา 4 วันแล้ว ลูกตนก็ยังโคม่าอยู่ในห้องไอซียู ตนอยากถามไปยังผู้เกี่ยวข้องด้วยว่า ลูกตนไม่ลงไปว่ายน้ำหรือจมน้ำ แต่วิ่งเล่นบนชายหาดแล้วเสียหลักล้มหน้าคว่ำลงในแอ่งน้ำ และเกิดสำลักน้ำทะเลอย่างรุนแรง แล้วทำไมเจ้าหน้าที่พยาบาลบอกไม่เป็นอะไรมาก และที่ตนติดใจมากๆ คือ ทำไมไม่ให้รถฉุกเฉินพยาบาลที่จอดอยู่ใกล้ๆ เต็นท์พาลูกชายตนไปส่ง


ด้านนายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี และในฐานนะหัวหน้าหน่วยกู้ภัยทางทะเลที่ดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวกล่าวว่า การดูแลผู้ป่วยในงานทางจังหวัดชุมพร สาธารณะสุขจังหวัด ได้จัดตารางเวรไว้อย่างชัดเจน ว่าแต่ละวันจะมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลใดมาเข้าเวรที่เต็นท์พยาบาล ซึ่งช่วงวันเกิดเหตุไม่มีใครรู้ ทั้งๆที่ตนและทีมงานก็กระจายกำลังออกดูแลความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา แต่กลับมารู้ในอีกวันต่อมา การที่มีเด็กจมน้ำ ตกน้ำ หรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุอะไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เวรตามที่ได้รับมอบหมายจะต้องแจ้งเข้าระบบตามขั้นตอน แต่เนื่องในวันเกิดเหตุนั้นเจ้าหน้าที่ในศูนย์พยาบาลจุดเกิดเหตุ ไม่ได้แจ้งให้ใครรู้และไม่ได้สั่งการตามขั้นตอน จึงทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมา ซึ่งจะต้องสอบถามผู้เกี่ยวข้องและหน่วยงานเกี่ยวข้องว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร

คุณอาจสนใจ

Related News