สาวออฟฟิศโอด ปิดเทอมทีไรหัวใจว้าวุ่น แม่ๆ พาลูกมาเลี้ยงที่ทำงาน ชาวพันทิปเสนอควรจัดโซนเนิร์สเซอรี

ปิดเทอมทีไรหัวใจว้าวุ่น! สาวโอดออฟฟิศกลายเป็นสถานรับเลี้ยงเด็ก แม่ๆ พาลูกมาเลี้ยงที่ทำงาน ชาวเน็ตเสนอควรจัดโซนเนิร์สเซอรี

มีผู้สมาชิกผู้ใช้พันทิปรายหนึ่ง ตั้งกระทู้โพสต์ถามชาวออฟฟิศหลังเจอปัญหา “ปิดเทอมทีไร หัวใจว้าวุ่น ไหนออฟฟิศใครกลายเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กกันแล้วบ้าง”

โดยผู้เขียนได้เล่าประสบการณ์ที่พบเจอมาว่า “ถึงหน้าปิดเทอมทีไร บรรดาแม่ๆ สาวออฟฟิศ ก็มีความจำเป็นต้องพาลูกมาเลี้ยงที่ออฟฟิศกัน อันนี้เข้าใจ ไม่ติดอะไรนะ หัวอกแม่เวิร์คกิ้งวูแมน ด้วยกันเข้าใจดีถึงความจำเป็น

แต่....มันก็จะมีบ้างแหล่ะเนอะ เหตุการณ์ที่ไม่ปลื้มเอาซะเลยน่ะ ที่ทำให้ต้องท่องนะโม นะมัง กะลังหม้อ ให้ผ่านพ้นช่วงปิดเทอมไปไวๆ มีอะไรบ้างมาแชร์กันค่ะ

ขอแชร์ส่วนของเราก่อน เด็กออฟฟิศเราเรียบร้อยไม่ค่อยเสียงดัง (มีคนเดียว) แต่..พูดทั้งวันงุ๊งงิ๊งๆ งอแงเวลาแม่ทำงาน เดินตามติดเป็นเงา เราก็จะรำคาญคนแม่แทน เวลาหล่อนดุลูกตอนลูกงอแง ทะเลาะกับลูกน่ะ 55

เวลานอน แม่เปิดเพลงกล่อมจ้า เพลงดนตรี ดุ๊งดิ๊งๆน่ะ(นึกออกมะ) ทำเอาง่วงตามเลย งานยิ่งไม่ค่อยมีทำอยู่

ให้ลูกอึในห้อง อึใส่แพมเพิร์ส แล้วค่อยพาไปล้าง รู้สึกไม่ดีอ่ะ หยะแหยง มีใครให้ลูกอึในแพมเพิร์สบ้าง?? คือลูกบอกปวดอึ แม่บอกอึเลยลูก เสร็จแล้วจะพาไปล้างก้น  บางทีก็คุยกะลูกว่าอึเสร็จยัง อ้าวอึเสร็จแล้วไม่บอก (คือปล่อยลูกนั่งเล่นอยู่ตั้งนาน ทั้งๆ ที่อึเต็มแพมเพิร์สอะ)”

หลังกระทู้ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวพันทิปรายอื่นๆ ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บ้างก็แชร์ประสบการณ์ที่เคยพบเจอเหมือนเจ้าของกระทู้ บางส่วนก็รับได้หากเด็กไม่ส่งเสียงดังรบกวน แต่บางส่วนก็ไม่เห็นด้วยที่นำลูกมาเลี้ยงที่ทำงาน

โดยความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า “ไม่สนับสนุนให้เอาเด็กมาเลี้ยงที่ทำงานค่ะ เพราะเด็กไม่ได้น่ารักในความรู้สึกทุกคน แต่สนับสนุนให้มีนโยบายช่วยเหลือคนมีลูกอ่อน อย่างเช่น เนอร์สรี่แยกโซนสำหรับพ่อแม่ลูกอ่อน และมีครูพี่เลี้ยงคอยดูแล แต่ไม่ให้เอาเข้ามาในพื้นที่ทำงาน สำหรับแผนกเรา”

ขณะที่ชาวพันทิปอีกรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า “ในอนาคต รัฐบาลน่าจะส่งเสริมให้ที่ทำงานมีเนอร์สเซอรี่ หรือไม่ก็ ในโซนเดียวกันที่มีหลายออฟฟิศ ต้องมีสัก 1 จุดให้ฝากเด็กได้ เพราะเป็นประเด็นนึงที่ทำให้คนไม่อยากมีลูก แล้วตอนนี้อัตราเกิดต่ำสุดๆ”