อาชญากรรม

เปิดแชทสุดหดหู่ นักเรียน ม.2 ระบายกับเพื่อน ฝังใจถูกบูลลี่-รุมอนาจาร แต่ไม่มีใครช่วย ก่อนตัดสินใจลาโลก

โดย petchpawee_k

14 ม.ค. 2566

1.7K views

จากกรณี น้องมิว นักเรียน ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ก่อเหตุเศร้าสลด ในสระน้ำสาธารณะ หลังน้องมิว โพสต์ข้อความตัดพ้อ เนื่องจากถูกบูลลี่เรื่องพ่อแม่แยกทางกัน


วานนี้ (วันที่ 13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศ บ้านหนองเก้าข่า อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของน้องมิว อายุ 14 ปี นักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.ลำปลายมาศ โดยบรรยากาศในงานศพของน้องมิว เต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะตากับยายที่เลี้ยงน้องมิว และน้องสาวของน้องมิว วัย 12 ปีอีก 1 คน ที่ยังรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ถึงขั้นหยุดการให้ข้อมูลการเสียชีวิตของน้องมิว


ด้านนางสาวมยุรี อสม.หมู่ที่ 3 ต.เมืองแฝก เล่าว่า น้องมิว เป็นเด็กร่าเริง เล่นกีฬากับเพื่อนตามปกติ แต่มีบางมุมที่เด็กนักเรียนเล่าต่อกันมาว่าน้องมีปัญหา โดยเพื่อนน้องมาเล่าให้ฟังว่าน้องเคยไปจ้างคนมาเป็นแม่ในงานกิจกรรมวันแม่ ตอนที่น้องอยู่โรงเรียนอื่นก่อนหน้านี้ สาเหตุมาจากพ่อแม่ของน้องแยกทางกัน จึงกลายมาเป็นปมด้อยของน้อง รวมถึงน้องเคยโดนอนาจารตอนมาเรียนอยู่ที่ในตัวเมืองบุรีรัมย์มาด้วย น่าจะเป็นความรู้สึกสะสมหลายตอน จนทำให้คิดสั้นดังกล่าว


ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยสอบถามข้อมูลกับทางครอบครัวเด็กนักเรียนที่เสียชีวิต เพื่อหาทางช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นจะประสานกับ ร.ร. เพื่อดูแลเรื่องเงินประกันว่าจะเข้าข่ายได้รับเงินประกันหรือไม่ เพราะน้องเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนโรงเรียนมัธยมที่นี่ยังไม่ถึงเดือน รวมถึงช่วยเหลือเรื่องเงินผู้สงเคราะห์ผู้สูงอายุให้กับยายที่ดูแลน้อง และเยียวยาเรื่องสภาพจิตใจของคนในครอบครัว เพราะยังทำใจไม่ได้ที่สูญเสียน้องไปกะทันหัน


อย่างไรก็ตามจากการสอบถามคนในครอบครัว ถึงสาเหตุที่น้องคิดสั้น และข้อความที่โพส์ตในวันเกิดเหตุนั้น ทางครอบครัวยืนยันว่าเรื่องที่ถูกเพื่อนล้อหรือบูลลี่นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่น้องเรียนอนุบาล ส่วนที่น้องโพสต์ว่าถูกอนาจารนั้นครอบครัวยืนยันว่าไม่เคยมีใครทราบเรื่องเลย


ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียน ปรากฎว่าโรงเรียนปิดเงียบ เพราะเป็นช่วงที่นักเรียนไปศึกษาดูงานต่างจังหวัด รวมถึง ผอ.โรงเรียนที่ เดินทางร่วมการศึกษาดูงานด้วย


ทีมข่าวจึงได้สอบถาม 1 ใน เพื่อนห้องเดียวกันกับน้องมิว บอกว่า มิวเพิ่งย้ายมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ไม่ถึงเดือน แต่ก็เป็นคนนิสัยดี ร่าเริง พูดเก่งเข้ากับคนอื่นได้ดี เท่าที่สังเกตุก็ไม่เคยเห็นแสดงอาการซึมเศร้าให้เพื่อนที่โรงเรียนเห็น แต่จะชอบไปโพส์ตระบายในเฟซบุ๊ก


 โดยล่าสุดวันเกิดเหตุมิว ซึ่งเป็นวันสอบกลางภาควันสุดท้าย แต่มิวไม่ได้มาสอบเพื่อนในห้องก็คิดว่าไม่สบายจึงไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งตกเย็นมีเพื่อนส่งข้อความมาบอกว่ามิวกระโดดน้ำเสียชีวิตแล้วก็ตกใจ พอเข้าไปดูในเฟสบุ๊กของมิว ก็พบมีการโพส์ตข้อความลักษณะตัดพ้อว่าถูกบูลลี่เรื่องพ่อแม่แยกทางกันและถูกอนาจาร


ซึ่งยืนยันว่าตั้งแต่มิวย้ายมาเรียนที่นี่ ไม่เคยมีใครล้อหรือบูลลี่เลย จึงคิดว่าอาจจะเป็นความคิดฝังใจตอนเด็กที่อาจจะเคยโดยเพื่อนสมัยเด็กล้อแล้วเก็บมาคิดระบายความรู้สึกหรือไม่ ส่วนเรื่องที่บอกว่าถูกอนาจารแต่ไม่มีใครช่วยนั้นตนเองก็ไม่ทราบ เพราะเพื่อนก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง


ด้าน ผ.อ. โรงเรียน บอกว่า น้องเพิ่งจะย้ายเข้ามาเรียน เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. จนถึงวันที่น้องเสียชีวิตก็ยังไม่ถึงเดือน จึงคิดว่าที่น้องโพส์ตตัดพ้อระบายในเฟซบุ๊กว่าถูกเพื่อนบูลลี่หรือลวนลามนั้น ไม่น่าจะเกิดที่โรงเรียนนี้ อาจจะเกิดที่โรงเรียนเดิมหรือที่อื่นก่อนหน้านี้หรือไม่ก็ไม่ทราบได้  แต่ที่ผ่านมาทางโรงเรียนก็ได้กำชับเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ให้มีการล้อเลียนหรือบูลลี่เพื่อน ซึ่งนักเรียนในโรงเรียนส่วนใหญ่ก็จะอาศัยอยู่กับปู่ย่า ตายาย เพราะพ่อแม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยมีปัญหาในลักษณะดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุก็จะได้กำชับดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น


ด้านนายกฤษ ละมูลมอญ ผอ.เขตสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังทราบข่าว ได้ประสานไปยัง ผอ.โรงเรียน ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้รับข้อมูลขาก ผอ.โรงเรียนว่า น้องมิว เพิ่งย้ายจากโรงเรียนที่จังหวัดขอนแก่น เข้ามาเรียนต่อที่นี่เมื่อประมาณเดือนกว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบมูลเหตุที่ชัดเจน หลังจากนี้จะได้ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบหาข้อเท็จจริง หากเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นจริงตามช้อมุลที่ได้รับ ก็จะมีการวางแผนและแก้ไขปัญหาต่อไป โดยเฉพาะน้องสาวของน้องมิว ที่ตามข่าวระบุว่าโดนล้อเช่นเดียวกันกับพี่สาว


ทั้งนี้ ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากเพื่อนของน้องมิว เป็นข้อความแชทที่เพื่อนคุยกับน้องมิวผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (11 ม.ค.) ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่น้องมิวจะจบชีวิตเองเพียง 1 วัน ทราบว่า ช่วงชั้นประถมน้องถูกเพื่อนล้อเรื่องพ่อแม่แยกทาง และเคยถูกเพื่อนผู้ชายรุมทำอนาจาร และถูกเพื่อนในห้องทำร้ายทุกวัน และเพื่อนยังนำเรื่องที่รุมอนาจารมาล้อและข่มขู่ จนทำให้ฝังใจมาตลอด และเป็นความทรงทำที่แย่ โดยน้องยังบอกอีกว่า ในวันนั้นไม่มีเพื่อนคนไหนเข้ามาช่วยเลย ตนดิ้นจนสุดหมดแรง ทำได้แค่นอนร้องไห้ให้เพื่อนที่รุมแกล้งหัวเราะ ซึ่งน้องมิวได้ระบายกับเพื่อนว่า ตนเคยคิดจะแจ้งตำรวจแต่กลัวเพื่อนเสียอนาคต

นอกจากน้องมิวจะระบายเรื่องที่ถูกเพื่อนแกล้งแล้ว น้องมิวยังพูดถึงเรื่องครอบครัว โดยเป็นการพูดคุยในช่วงเดือนพ.ย. กับ ส.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า พ่อของตนได้บอกว่าจะซื้อไอโฟนให้แต่ก็เลื่อนไปเรื่อยๆ ทั้งที่คุยกันทุกวัน ซึ่งพ่อของน้องมิวทำงานอยู่ที่เกาหลี และบอกว่าจะกลับมาหาช่วงสงกรานต์ แต่ก็ไม่กลับมา เวลาที่พ่อโทรมาหาก็เลยเงียบใส่พ่อ ซึ่งพ่อเคยบอกน้องมิวว่าไม่ชอบคนผิดสัญญาแต่พ่อก็ผิดสัญญาเอง


 และน้องมิวยังบอกกับเพื่อนอีกว่า ตนจะลองไปอยู่กับปู่ที่จังหวัดสุรินท์ เพราะปู่ดีมากๆ ไม่เคยทำให้ตนแตกสลายเลย มีแต่คนใจดี ถ้าตนไปอยู่ด้วยคืออาจจะมีโอกาสหายจากโรคนี้ได้


ขณะที่ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนสนิทน้องมิว ได้ข้อมูลว่า ช่วงม.1 น้องถูกตบหน้า ซึ่งตอนนั้นเรียนโรงเรียนแถวบ้าน ส่วนเรื่องน้อยใจเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงประถม โดยล้อคำว่า "กุ้งแห้ง" ซึ่งปมที่ฝั่งใจ คือการถูกทำอนาจารช่วงประถม โดยเป็นการถูกรุมเปิดกระโปรง แล้วเพื่อนก็รุมหัวเราะ ส่วนเรื่องครอบครัวเพื่อนให้ข้อมูลว่า น้องมิวเคยบอกว่ามีเรื่องเครียดเกี่ยวกับครอบครัว เพราะว่าพ่อแม่แยกทางกัน และน้อยใจพ่อ และยังเคยถูกยายตบหน้าอีกด้วย


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/LVZp1rUN3L0

คุณอาจสนใจ

Related News