อาชญากรรม

ญาติจุดธูปเชิญวิญญาณเหยื่อ ‘เมาท์เทน บีผับ’ แม่เศร้าลูกเสียชีวิตก่อนวันเกิด 1 วัน เชื่อหมดอายุขัย

โดย nicharee_m

6 ส.ค. 2565

403 views

จากกรณีเหตุการณ์เพลิงไหม้ผับ เมาท์เทนบี ริมถนนสายสุขุมวิท บางนา-ตราด ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในช่วงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะที่มีนักท่องเที่ยวราตรีกำลังใช้บริการ 100 กว่าชีวิต โดยต้นเพลิงเริ่มไหม้บริเวณหลังคา ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั้งตัวอาคาร เนื่องจากหลังคามีการฉีดพ่นโฟม สำหรับซับเสียง ซึ่งเป็นวัตถุติดไฟได้ง่าย ประกอบกับช่องระบายอากาศและทางออกด้านหน้าเปิดอยู่เพียงประตูเดียว ด้วยมีการคัดกรองนักเที่ยวตามมาตรการโควิด-19 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถออกมาได้ทัน อีกทั้งยังมีกลุ่มควันไฟอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 37 ราย

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (6 สิงหาคม) ทางด้านเจ้าหน้าที่จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดชลบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ "ผับเมาท์เทนบี" อีกครั้งเพื่อเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ก่อนจะรวมรวบหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเหตุโศกนาฏกรรม ในครั้งนี้

ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้าทางเข้าตัวผับ เมาท์เทนบี มีญาติและกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิต ที่ตกเป็นเหยื่อเพลิงไหม้ เดินทางมาจุดธูป รวมทั้งนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีจุดธูปอัญเชิญดวงวิญญาณ ผู้เสียชีวิตเพื่อกลับไปประกอบพิธีทางพิธีทางศาสนา ในการนี้มีญาติของ จ.อ.วรากุล จำรัส อายุ 32 ปี นำรูปภาพมาตั้งด้านหน้า ของผับแห่งนี้ด้วย

แม่ของ น.ส.วาทินี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ไฟไหม้ผับชลบุรี เดินทางวางดอกไม้พร้อมจุดธูปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณตามความเชื่อ

น.ส.วาสนา กล่าวว่า ลูกสาวสอบติดมหาวิทยาลัยบูรพา และเพิ่งเดินทางจาก จ.ขอนแก่น มาพักหอพักที่ อ.สัตหีบ ได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น วันเกิดเหตุช่วงกลางวันลูกบอกว่า ติวหนังสือกับเพื่อน และไม่ได้คุยกันอีกเลย จนกระทั่งช่วงเช้า มีเพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่า ดูข่าวหรือยัง ตอนนั้นก็ตกใจข่าวอะไร และช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อรู้ว่าคนที่เสียชีวิตมีลูกสาวตนด้วย โดยเรื่องรับศพพ่อจะเป็นผู้ดูแลเพราะตนยังทำใจไม่ได้

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา จากการสอบถาม นางอารีย์ (ขอสงวนนามสกุล) แม่ของนายณฐกร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พนักงานคุมเครื่องเสียง เปิดเผยว่า ตนคิดว่าใช่ลูกชาย โดยบอกว่าลักษณะเป็นอย่างไร มีรอยสักยันต์อะไรหรือไม่ ซึ่งตนบอกไปว่าไม่มี พร้อมบอกชื่อนามสกุล อายุ และส่วนสูง หลังจากทราบเรื่องก็เข่าอ่อน ช็อกตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา

นางอารีย์ กล่าวต่อว่า จึงโทรศัพท์ให้หลานออกไปรับ ก็คิดว่าเหตุที่เกิดขึ้นทำไมต้องเกิดขึ้นกับลูกเราทั้งที่ไปทำงาน ได้แต่พยายามจะปลง คนเราถึงเวลาก็ต้องไป และวันนี้เป็นวันเกิดเขาด้วย เขาก็คงจะหมดอายุของเขาแล้ว เราปลงแล้วแต่ก็นอนไม่หลับทั้งคืน ทั้งนี้ ลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัว ไม่มีลางบอกเหตุอะไร

นางอารีย์ กล่าวอีกว่า คืนที่เกิดเหตุตนหลับสนิทและฝันว่าตนไปไหนไม่รู้กลับบ้านไม่ถูกและไปเจอเขา เลยจับมือเขาไปพร้อมเรียกว่านาย และตนบอกไปว่าจะพากลับบ้าน พยายามหาทางกลับแต่ก็หาไม่เจอ ไปเจอวัด เจออะไรไปเรื่อย ก่อนจะรู้สึกตัวในเวลา 06.30 น.


https://youtu.be/E_3OE9zzF_g

คุณอาจสนใจ

Related News