สังคม

ครบรอบ 1 ปี เมาท์เทนบี เหยื่อเปิดใจไร้เงาเจ้าของมาดูแล ด้านสาวเวียดนาม ต้องรักษาตัว 1 ปี ติดหนี้ รพ.เกือบ 4 ล้าน

โดย weerawit_c

6 ส.ค. 2566

529 views

จากเหตุการณ์เพลิงไหม้เมาท์เทนบี สถานบันเทิงในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 26 ราย บาดเจ็บบาดเจ็บราว 50 ราย เป็นโศกนาฎกรรมที่สร้างความหดหู่และโศกเศร้า โดยเฉพาะญาติผู้สูญเสีย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 5 ส.ค. 2565 ขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน ได้เกิดประกายไฟบนฝ้าเพดาน จากนั้น ไม่เกิน 5 นาที เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากตัวหลังคามีการบุโฟมลมดูดซับเสียงที่เป็นวัตถุติดไฟได้ง่าย ทำให้นักท่องเที่ยวตกใจวิ่งกรูไปยังประตูทางออกเบียดเสียดเหยียบกันล้ม บางคนถูกไฟคลอกจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ


ล่าสุดครบรอบ 1 ปี บรรดาญาติๆ ของผู้ที่เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ได้ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตที่สำนักปฏิบัติธรรมซอยเย็นฤดี ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยนิมนต์พระมาสวดตามประเพณีพุทธศาสนา ท่ามกลางความเศร้าของบรรดาญาติๆ


โดยนางเบญจมาพร คล้ายแสง มารดา นายวิริยะ แต่งสง่า กัปตันร้านที่เสียชีวิต ที่ได้นำมาทำบุญอุทิศส่วนกุศล ได้เล่าว่า ได้ร่วมกับทางญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บร่วมกันทำบุญครบรอบ 1 ปี ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเหตุได้รับเงินจากทางเจ้าของ 3 ครั้ง ครั้งละ 50,000 บาท จากนั้นก็ไม่เคยมาดูแลหรือมาพูดคุยเลย ซึ่งอยากฝากให้ทางเจ้าของได้มาดูแลเพราะยังมีหลานอีก 3 คน ที่ต้องดูแลหลังจากขาดเสาหลักไป ส่วนภรรยาก็ป่วยมีโรคประจำตัว พ่อแม่ต้องคอยดูแลหลานๆ แทน


นายภารุพงษ์ ร่วมสุข เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ที่ได้เข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิง ที่ได้รับบาดเจ็บไฟไหม้คลอกทั้งตัว ต้องนอน โรงพยาบาลนานกว่า 3 เดือน ปัจจุบันบาดแผลก็ยังไม่หายมีบาดแผลพุพองทั่วตัว บริเวณที่แผลที่ยังไม่แห้งสนิท ซึ่งนาย ภารุพงษ์ ต้องพักรักษาตัวที่บ้าน อยู่แต่ในห้อง เนื่องจากกลัวแผลติดเชื้อ กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์วันนั้น 1 ปี ตนต้องนอน โรงพยาบาล นานกว่าจะรู้สึกตัวก็ใช้เวลาหลายอาทิตย์ โดยไฟไหม้คลอกทั้งตัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากมาพักรักษาตัวอยู่บ้านก็ไม่กล้าออกไปไหน งานก็ไม่ได้ทำแต่ทางเจ้านาย และเพื่อนร่วมงานก็ยังมาช่วยตลอดทั้งเรื่องล้างแผลให้ และช่วยเหลือเงินบางส่วน แต่ทางเจ้าของร้านตั้งแต่เกิดเหตุตนก็ไม่เห็นหน้าแต่อย่างใดไม่เคยมาดูแล ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์นี้มาตนก็อยากลืมๆ ไม่อยากจำเรื่องนี้เลย


นางกัญญารัตน์ งามดี มารดา นายภารุพงษ์ ร่วมสุข กล่าวว่า 1 ปีที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น รู้สึกแย่มาก จากที่เราทำงานหากินก็ต้องมาดูแลลูก รายได้ก็เหลือเพียงคนเดียวที่ทำงานได้ เครียดก็ไม่กล้าพูดคุยกับลูกเพราะเขาป่วย คิดมาก พอพูดก็จะบอกว่าเป็นตัวถ่วง ทางด้านเจ้าของไม่เคยจะมาดูแล ไม่เคยมาเยี่ยมทั้งๆ ที่บ้านไม่ไกลกันเลย


ตั้งแต่เกิดเรื่องลูกตนก็เก็บตัวเงียบไม่ออกไปไหนนอกจากไปโรงพยาบาล บางทีก็บ่นว่าตอนรักษาตัวทำไมไม่ชักออกซิเจนออกเลยจะได้ไม่ต้องรับรู้ทรมาน ซึ่งตอนนี้คดีก็อยู่ที่ศาลจังหวัดพัทยาตามขั้นตอนสืบพยาน นอกจากนี้ยังมีการฟ้องร้องศาลปกครองเอาผิดกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในการเปิดสถานบริการเกินเวลาและไม่มีใบอนุญาต


สำหรับพื้นที่ของเมาท์เทนบี นั้นปัจจุบันปล่อยทิ้งไว้แต่มีการื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจนหมด มีเพียงที่โล่งๆ หญ้าขึ้นแต่ยังมีร่องรอยกระจก สิ่งก่อสร้างที่ยังเหลืออยู่ตามพื้น


ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ยังมีเหยื่อ 1 ในนั้น มี นางสาว ดิง กิม ลี อายุ 25 ปี หรือคิม ( DINH KIM LE ) สาวงามชาวเวียดนาม 1 ในผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จากเหตุการณ์ไฟไหม้ดังกล่าว


นางสาวคิม ถูกไฟคลอกทั้งตัวประมาณ 70-80 % ต้องพักรักษาตัวค่ารักษาตัวทั้งหมดเกือบ 4 ล้านบาท โดย รพ.กรุงเทพ-พัทยา จำนวน 6 แสนกว่าบาท ก่อนถูกส่งตัวไปรักษา ที่ รพ.สมเด็จพระราชเทวี ณ ศรีราชา จำนวนกว่า 3 ล้านบาทซึ่งต้องเซ็นรับสภาพหนี้ผ่อนชำระกับทางโรงพยาบาล


นางสาวคิม ซึ่งต้องนอนรักษาตัวที่บ้านโดยมีพี่ และครอบครัวคอยดูแลไม่สามารถทำอะไรได้ นอน รพ.363 วัน อีก 3 วันจะครบปี พึ่งออกจาก รพ.ได้ 2 วัน 3 เดือน ช่วงแรกหมอต้องให้มอร์ฟีน หลังจากที่หยุดให้มอร์ฟินมีอาการเจ็บปวดจนทนไม่ได้ โดยทางร้านช่วยค่าดูแลประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งจากที่สามารถทำงานได้มีรายได้ช่วยเหลือครอบครัว แต่ตอนนี้เหมือนตกนรกทั้งเป็นอยากฆ่าตัวตายไม่รู้กี่ครั้ง ตอนอยู่ รพ.ก็เคยคิดจะกระโดด รพ.ตอนนี้ก็เหมือนคนพิการไปแล้ว


ส่วนทางด้าน พี่ชายของนางสาวคิม ได้เปิดเอกสาร ระบุว่า ตอนนี้เป็นหนี้ รพ.เกือบ 4 ล้านบาท โดยทางเจ้าของผับโอนมาแค่ช่วงแรกๆ ครั้งละ 1 หมื่นบาท รวมๆ ก็แสนกว่าบาท ไม่พอค่าใช้จ่าย ซึ่งตอนนี้น้องสาวก็เดินไม่ได้ ส่วนเรื่องคดีนั้นอยู่ในขั้นตอนศาล ซึ่งตอนนี้คนที่เวียดนามก็ติดตามข่าวของน้องสาวของตนตลอด ขณะที่ตนก็ออกจากงานมาดูแลน้องสาวอย่างเดียวต้องกู้ยืมเงินมาใช้จ่าย อยากให้ทางเจ้าของสถานบันเทิงช่วยเหลือ



https://youtu.be/cpuJ25dktJY

คุณอาจสนใจ

Related News