อาชญากรรม

นาทีจับแก๊งยิง 'เด็กอุเทนฯ-ครูเจี๊ยบ' ค้นที่กบดาน อึ้ง! แขวนรูปคนตาย สร้างความฮึกเหิม

โดย panwilai_c

22 พ.ย. 2566

425 views

ตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการ "ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด" หลังใช้เวลาแกะรอยมานานถึง 10 วัน ตรวจกล้องวงจรปิดกว่า 1,000 ตัว ขอศาลออกหมายจับ 5 หมาย หมายค้น 6 หมาย เข้าค้น 4 จุด ในกรุงเทพและปริมณฑล ไปดูปฏิบัติการของตำรวจที่เปิดเกมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา



นี่เป็นวินาทีที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล บุกจับนายพฤฒิพล ราชญาณ หรือ เอย อายุ 22 ปี ที่หน้าตึก 5 เคหะเอื้ออาทรบางบัวทอง ตำบลบางบัวทอง อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้



ในคดีร่วมกันยิงนักศึกษาอุเทนฯ ที่บริเวณหน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา นายพฤฒิพล ได้เป็นผู้ช่วยวางแผน และช่วยเหลือกลุ่มคนร้ายในการก่อเหตุยิงนายธนสรณ์ และครูเจี๊ยบ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนด้วย เป็นเหรัญญิก มีหน้าที่ "รวบรวมเงิน"



และจากการตรวจมือถือ พบข้อความในกลุ่มไลน์คาดว่าเป็นรุ่นพี่เขียนว่า "พี่ขอแสดงความยินดีกับน้อง ช.ก.90 ที่พาน้อง ช.ก.91 ไปเกิดได้อย่างสมศักดิ์ศรีช่างกลปทุมวัน"



จุดที่ 2 ที่เข้าค้นเป็นบ้านหลังหนึ่ง ตำบลทวีวัฒนา อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี จับ นาย วรงชัย กัณฑ์ศรี อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาร่วมกัน สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด หรือซ่องโจร



มีรายงานว่า นาย วรงชัย ร่วมวางแผน และคอยคุ้มกันกลุ่มผู้ก่อเหตุยิง น้องหยอดและครูเจี๊ยบ เสียชีวิต



ส่วนผู้ต้องหาที่ 3-8 คือ นายวุฒิพงษ์ ผลคำ อายุ 25 ปี / นายสัญปกรณ์ พรรณานนทศักดิ์ อายุ 24 ปี / นายสหัสวรรษ ภักดีนอก อายุ 23 ปี / นายจิรายุส สุวรรณศุภ อายุ 23 ปี / นายธนากร พันทองคำ อายุ 22 ปี / และ นายอภิเดช นาคประกอบ อายุ 21 ปี ถูกจับที่บ้านพักในซอยวงศ์สว่าง 19 แยก 2 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพ ในข้อหา ร่วมกันสบคบกันตั้งแต่ 5 คน กระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด "ซ่องโจร"



และจากการตรวจค้น ยังสามารถตรวจยึดของกลางได้ 12 รายการ เช่น เสื้อ กางเกง หัวเข็มขัด รถยนต์ และระเบิดปิงปอง อีก 2 ลูก



ทีมข่าวอาชญากรรมได้ลงพื้นที่ 1 ในจุดที่ตำรวจเปิดปฏิบัติการตรวจค้น เป็นอะพาร์ตเมนต์สูง 5 ชั้น ในซอยพระราม 6 ซอย15 ลักษณะเป็นอะพาร์ตเม้นต์ ตั้งอยู่ติดกับทางรถไฟ



จากการตรวจค้นภายในห้องไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่จากการสอบถามคนดูแลอะพาร์ตเมนต์ให้ข้อมูลว่า มีนักศึกษาไม่ทราบสถาบันมาเช่าไว้นานกว่า 1 ปีแล้ว แต่ไม่มีคนมาอยู่ประจำ แต่จะมีนักศึกษาแวะเวียนมาในบางครั้ง และส่วนใหญ่จะไม่สุงสิงกับคนภายนอก



ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมทางรถไฟให้ข้อมูลว่า เคยเห็นลักษณะเยาวชนคล้ายนักเรียนอาชีวะเดินออกมาจากภายในซอยเป็นกลุ่ม 5-6คน แต่หลังเกิดเหตุยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอดเสียชีวิต ก็ไม่ค่อยเห็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นดังกล่าวอีก



ขณะที่ชาวบ้านอีกคน ให้ข้อมูลว่า เคยเห็นเด็กนักเรียนเหล่านี้ขี่มอเตอร์ไซต์เข้ามาพักที่อะพาร์ตเมนต์ และใช้บริการซักผ้าอยู่เป็นประจำ แต่หายไปราว 10 กว่าวันแล้ว



จากการเข้าตรวจค้น 6 จุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจสามารถขยายผลติดตามรถที่ใช้ก่อเหตุได้อีก 1 คัน ถูกนำไปซ่อนไว้ที่นนทบุรี



พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับพลตำรวจตรีวิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบรถยนต์อเนกประสงค์ สีทองสลับฟ้าที่ถูกนำมาซุกซ่อนในป่าไผ่ ริมถนนโยธาธิการวัดต้นเชือก คลองหนึ่ง อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี หลังพบว่าน่าจะเป็นรถที่ใช้ขนส่งทีมสังหาร



ทีมข่าวอาชญากรรมพบว่า จุดนี้ไม่มีบ้านเรือนประชาชน และไม่มีกล้องวงจรปิด ถือว่าเป็นจุดอับสายตา และจากการตรวจค้นในรถพบซองปืน ยาปฏิชีวนะ ป้ายทะเบียนรถ กุญแจรถจักรยานยนต์ และบุหรี่ อยู่ในรถคันดังกล่าว จึงเก็บไปตรวจสอบเพื่อหาลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอ



พลตำรวจตรี ธีรเดช เปิดเผยว่า รถที่เจอในวันนี้เป็นรถที่กลุ่มอาชญากรใช้ขนรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ขี่สำรวจเส้นทาง และเป็นรถยนต์ที่ใช้รับส่งผู้ร่วมขบวนการและอาวุธ ส่วนจักรยานยนต์ที่ผู้ก่อเหตุใช้ พบว่าถูกนำไปเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบหาสถานที่เปลี่ยนสีรถ



สำหรับแนวทางการสืบสวน พบว่าคดีนี้มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมที่แข็งแรง การทำงานที่ซับซ้อน โดยมีสมาชิกที่มีอุดมการเดียวกันถึง 84 คน และมีการแต่งตั้งหัวหน้าองค์กร ที่ตำรวจมีข้อมูลสำคัญที่จะเชื่อมโยงไปถึงผู้ลงมือก่อเหตุแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ นอกจากนี้พบว่ายังมีองค์กรในลักษณะคล้ายกับองค์กรนี้อีกหลายกลุ่ม



ทีมข่าวสอบถามนาย อมรเทพ โกศลเวช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทวีวัฒนา เปิดเผยว่า ราว 10 โมงครึ่งของวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบรถคันนี้ถูกจอดทิ้งไว้ มองจากข้างนอกเข้าไปในรถเห็นแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์หนึ่งแผ่น แต่พอสอบถามชาวบ้านกลับไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของรถ จึงไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรไทรน้อย



พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ก่อเหตุในครั้งนี้ในรายละเอียดและแผนประทุษกรรม ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดเล็ก กลุ่มคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคนที่พ้นสภาพจากการเป็นนักศึกษาไปแล้ว สร้างโลกเสมือนขึ้นมา ด้วยการสร้างกลุ่มขึ้นมากลุ่มหนึ่ง ไปเช่าที่พักอาศัยอยู่รวมกัน แล้วพยายามหาแนวร่วมเป็นนักศึกษาปัจจุบัน เพื่อเอาสัญลักษณ์สถาบันมาใช้ และใช้วิธีสร้างคุณค่า สร้างแรงจูงใจ ให้ได้รับการยอมรับ หากสามารถไปทำร้ายคนอื่นได้



แต่ที่น่าตกใจ คือ กลุ่มเหล่านี้เรียนรู้ ถอดรูปแบบแผนประทุษกรรมจากการก่อเหตุครั้งก่อนๆ ว่าทำอย่างไรจะหนีรอด ทำอย่างไรจะถูกจับกุม และมีการพัฒนาแผนประทุษกรรมมาเรื่อยๆ



ทีมข่าวอาชญากรรมได้ข้อมูลว่า การวางแผนแต่ละครั้งมีผู้เกี่ยวข้องกว่า 10 คน มีรุ่นพี่ผู้ผ่านประสบการณ์เป็นพี่เลี้ยง ช่วยกันระดมเงินตั้งกองทุนเพื่อไว้หาอุปกรณ์ก่อเหตุ ทั้ง ปืน รถ และที่พัก หากโดนจับจะมีกองทุนไว้ประกันตัว จ้างทนายมาต่อสู้คดี และทุกครั้งที่มีการเบิกความในชั้นศาล คนกลุ่มนี้ก็จะเข้ามานั่งฟังในห้องพิจารณาคดี เพื่อดูวิธีการสืบค้นติดตามของตำรวจ แล้วนำมาปรับปรุงพัฒนารูปแบบการก่อเหตุไม่ให้โดนจับได้อีก


https://youtu.be/kRL_nMKi_E4

คุณอาจสนใจ

Related News