อาชญากรรม
ขยายผลเส้นทางปืน คดีกราดยิงพารากอน ตร.เผยจ่อออกหมายจับเพิ่ม 2-3 คน
โดย panwilai_c
6 ต.ค. 2566
335 views
ตำรวจยันออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดียิงที่สยามพารากอนอีก 2-3 คนในวันนี้ ขณะที่ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยันพบข้อมูลมีแบลงค์กันในไทยหลายพันกระบอก
พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผุ้บังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. ยืนยันว่าวันนี้จะมีการขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดี ที่มีผู้ก่อเหตุยิงที่สยามพารากอนอีก 2-3 คน แต่ยังไม่ใช่ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุ
ส่วนกรณีที่มีภาพคลิปของผู้ก่อเหตุได้ซ้อมยิงปืนอย่างคล่องแคล่ว ซึ่งจากภาพสนามที่ผู้ก่อเหตุซ้อมยิงปืนคือที่สนามยิงปืนของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน โดยผู้เข้าไปใช้บริการจะต้องเป็นสมาชิก แต่หากเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องมีผู้ปกครองดูแล โดยจากข้อมูลพบว่าก่อนจะเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้มาซ้อมยิงปืนมากกว่า 20 ครั้ง
พลตำรวจตรี นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 บอกว่า การสอบสวนยังขยายผลต่อเนื่อง ส่วนที่สังคมสงสัยว่า พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก หรือไม่ ต้องเอาหลักฐานมาประกอบ
หากพบความผิดก็จะต้องดำเนินคดี เช่น ปล่อยปละละเลยหรือละเว้นไม่ดูแล ซึ่งเบื้องต้นได้สอบปากคำพ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุไปแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้อเพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน และขอย้ำว่าตำรวจทำทุกอย่างตามพยานหลักฐาน ไม่ได้ทำตามกระแสสังคม
มีรายงานว่าบุคคลที่จะถูกออกหมายจับวันนี้ทั้ง 3 คนอยู่ในพื้นที่กรุงเทพ ซึ่งพบความเชื่อมโยงในการซื้อขายปืนและกระสุนกับนายปิยะบุตรโดยตรง ซึ่งหากศาลอนุมัติหมายจับก็จะสามารถควบคุมตัวได้ทันที และจากนั้นก็จะนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.ยานนาวา
พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการที่ นายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่สยามพารากอนในวันเกิดเหตุด้วยตนเอง และได้สั่งการกับ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทันที เพื่อให้เรียกประชุมคณะทำงาน เพื่อเร่งศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับแบลงค์กัน
แต่เนื่องจากแบลงค์กันไม่ได้เป็นอาวุธในทางกฎหมาย ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย สามารถนำเข้าโดยผ่านขั้นตอนทางศุลกากร
โดยข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าในประเทศไทยมีแบลงค์กันอยู่เป็นจำนวนมากถึงหลายพันกระบอก จึงต้องมีการหารือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อควบคุมเรื่องการขนส่ง ซึ่งมีการพัฒนาไปมาก แต่ระบบตรวจสอบการขนส่งพัสดุนั้นยังไม่มี จึงเป็นช่องทางให้มีการขนส่งสิ่งผิดกฎหมายกันโดยง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการประชุม และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งเปิดแผนปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรมอาวุธปืน ซึ่งมีเป้าหมายกว่า 2,300 แห่ง ทั่วประเทศ มีทั้งแหล่งรับซื้ออาวุธปืน , โรงงานแหล่งผลิต และแหล่งดัดแปลงแบลงค์กัน
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/DWN3wFHc0po