อาชญากรรม

ทนายเดชา เผยดาราบางคนมีโอกาสสูงถูกดำเนินคดี ชี้ตำรวจดูหลักฐานไม่ใช่แค่คำพูด

10 ต.ค. 2567

659 views

เวลา 10.00 น. วันที่ 10 ต.ค. 67 ที่ บช.ก. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ พร้อมด้วยคุณต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ พาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากการลงทุนกับ บริษัท The icon group กว่า 10 ราย มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ซึ่งวันนี้มาร้องทุกข์ดำเนินคดี มุ่งเน้นไปที่ความผิดที่เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่มากที่สุด ซึ่งจะนำไปสู่คดีการฟอกเงิน และหากพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะขอให้ดำเนินการยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

ด้าน นายแทนคุณ ระบุว่า พฤติการณ์ของบริษัทนี้ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนและโฆษณาเกินจริง เกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์ เมื่อมีผู้หลงเชื่อจะชักชวนให้ร่วมลงทุน เปิดคอร์สราคา 97 บาท ก่อนขยับเป็นขั้นบันได ไปจนถึง 250,000 บาท เพื่อเป็นดีลเลอร์ และสามารถสร้างทีม รับผลประโยชน์เพิ่ม และหลังจากน้้นจะมีการโน้มน้าว เชิญชวนให้ยิงแอดโฆษณาหารายได้ เฉลี่ยแล้ว 1 คน จะเสียหายอย่างน้อย 5 แสนกว่าบาท

ข้อมูลล่าสุด มีผู้เสียหายที่มาร้องทนายเดชา มากกว่า 500 คน และวันนี้เป็นตัวแทนมา 10 คน ส่วนผู้เสียหายรายอื่น สามารถเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่บ้านตนเองได้เลย

จากการสอบถามผู้เสียหาย พบว่าดาราที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้มี 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือผู้ได้รับมอบอำนาจในการบริหารโดยตรง มี 5-6 คน กลุ่มสอง กลุ่มของพรีเซนเตอร์ที่บริษัทจ้างมา เพิ่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีจำนวนหลายคน และกลุ่มสุดท้าย กลุ่มที่มีความสัมพันธ์ และถูกเชิญเข้าไปร่วมอีเวนท์ของบริษัท ผู้เสียหายยืนยันว่าดารากลุ่มแรกเข้ามาบริหารจริง

ด้าน คุณต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง เผยว่า 1 ในผู้เสียหายที่มาเล่าให้ตนฟัง บอกว่าเคยฆ่าตัวตายจากการลงทุนดังกล่าวไป แต่โชคดีรอดมาได้ โดยเริ่มแรก ผู้เสียหายรายนี้ตกงาน จึงสนใจร่วมลงทุน รูดบัตรเครดิตไปกว่า 400,000 บาท แต่สินค้าที่ได้รับมากลับขายไม่ได้ จนเกิดความเครียด ประกอบกับมีอาการป่วยโรคประจำตัว ขณะนั้นก็ยังท้องอยู่ 4 เดือน จึงตัดสินใจกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่พลเมืองดีช่วยไว้ได้ทัน ขณะนี้ผ่านมาแล้วกว่า 10 เดือน ผู้เสียหายรายนี้ยังคงต้องใช้หนี้บัตรเครดิตที่รูดมาร่วมลงทุนบริษัทนี้

ด้าน ทนายเดชา เปิดเผยว่า จากการที่คุณแซม ยุรนันท์ แถลงข่าวว่าตนเองไม่มีส่วนในการตัดสินใจของบริษัท ตนเองได้พูดคุยกับพนักงานสอบสวนแล้วว่า การจะดำเนินคดีกับใครไม่ได้ดูแค่เพียงคำพูด แต่ต้องดูพฤติกรรมและหลักฐานที่รวบรวมมา ซึ่งดิจิทัลฟุตปริ้นจะเป็นตัวพิสูจน์ หากดูจากพฤติการณ์ มีโอกาสสูงที่ดาราจะถูกดำเนินคดี แต่ยังไม่ขอระบุว่าเป็นใคร

ส่วนใครจะฟ้องกลับ ทนายเดชา ระบุว่า ยินดีให้ฟ้อง ถ้าบริสุทธิ์จริงก็ตั้งโต๊ะแถลง ตอบคำถามลูกค้าให้กระจ่าง ทั้งนี้ฝากไปถึงแม่ข่าย ขอให้เข้ามาเป็นพยานและแจ้งความ หากไม่มาก็จะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดและถือเป็นผู้ต้องหา

ด้านนางสาวเอ (นามสมมุติ เปิดเผยว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว ตนตัดสินใจร่วมลงทุนเพราะอยากจะสำเร็จเนื่องจากมีการชักชวนและกล่าวอ้างถึงผู้ที่ประสบความสำเร็จ โดยมีวลีหลักของตัวเจ้าของหรือบอสใหญ่ว่า ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย

ตนจึงตัดสินใจเข้าร่วม และมีการชักชวนให้คนสนิทหรือคนในครอบครัว มาร่วมลงทุนด้วย แต่สินค้ากลับขายไม่ออก เนื่องจากสินค้าไม่ได้คุณภาพทำให้คนไม่กลับมาซื้อซ้ำ ต้นทุนเสียหายหลักล้าน เมื่อถามหาวิธีขายของกลับไม่ได้คำตอบ ทำให้ตนต้องเสียความสัมพันธ์กับคนสนิทและครอบครัว และธุรกิจดังกล่าวไม่ได้เน้นขายของแต่เน้นหาคนให้ร่วมลงทุน

คุณอาจสนใจ

Related News