สาวสุดทน ถูกสามีทำร้ายร่างกายนานกว่า 4 ปี ขอหย่ากลับถูกญาติฝ่ายชายรุมตบจนตาแตก

ดร.ธนกฤต จิตต์อารีรัตน์ ผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยุติธรรมจังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ย่านอำเภอไทรน้อย เพื่อช่วยเหลือหญิงสาวรายหนึ่ง หลังได้รับการร้องเรียนว่า ถูกสามีมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงทุบตี บีบคอ และทำร้ายร่างกายมานาน กว่า 4 ปี ซึ่งฝ่ายผู้เสียหายทนไม่ไหวต้องการขอหย่า

นางสาวศศิกานต์ อายุ 22 ปี ระบุว่า ตนเองคบหากับอดีตสามี มากว่า 4 ปี และปัจจุบันมีลูกสาวกับสามี อายุ 2 ขวบ 3 เดือน ที่ผ่านมาตนเองจะถูกอดีตสามีคนนี้ทำร้ายอยู่เป็นประจำ โดยสาเหตุมาจากการที่สามีเป็นคนอารมณ์ร้อน และควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาโมโห ซึ่งเรื่องของการทะเลาะกันส่วนมากจะเป็นเรื่องของการหึงหวงหาว่าตนเองมีคนอื่น ทั้งที่ในข้อเท็จจริงตนเองไม่เคยมีใคร เพราะอยู่บ้านเลี้ยงลูกเพียงลำพังมาโดยตลอด

ทุกครั้งที่มีการทำร้ายร่างกาย ตนเองจะถูกบีบคออยู่เป็นประจำ รวมถึงอดีตสามี จะเรียกให้ญาติพี่น้องมาร่วมด่าประนามตนเองด้วย ตนเองจึงทนไม่ไหวตัดสินใจแยกทางกับอดีตสามี โดยการกลับมาอยู่กับบ้านญาติได้เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ก่อนจะมีการประสานกันให้เข้ามาทำเรื่องหย่า ที่อำเภอบางบัวทอง เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา

ซึ่งเมื่อถึงวันนัดหมาย ตนเองก็เดินทางไปที่อำเภอพร้อมกับครอบครัวอีก 2 คน เมื่อเจอกับอดีตสามี ที่เดินทางมาพร้อมกับญาติ รวม 4 คน แต่เมื่อเห็นว่าตนเองไม่ได้นำลูกสาวไปด้วย เพราะเกรงว่าฝ่ายชายจะแย่งลูกสาวตนเองไป ทางฝั่งอดีตสามีก็เริ่มไม่พอใจและมีการบ่ายเบี่ยงว่าจะไม่ดำเนินการทำเรื่องหย่า จนเริ่มมีปากเสียงทะเลาะกันที่หน้าอำเภอ จนทำให้ฝ่ายชายมีการเดินเข้ามาทำร้ายร่างกายป้าของตนเอง ตนเองจึงเข้าไปห้าม จนทำให้เกิดการลงมือกันเกิดขึ้น ซึ่งขณะเกิดเหตุ ทางญาติพี่น้องของฝ่ายชาย ได้เข้ามาร่วมทำร้ายร่างกายตนเองและครอบครัว ส่วนอดีตสามีได้ล็อกตัวญาติของตนไว้คนหนึ่ง และตัวเองก็ถูกกลุ่มญาติพี่น้องของอดีตสามีรุมทำร้าย จิกเข้าบริเวณเบ้าตาด้านซ้าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บเปลือกตาฉีกขาดและต่อมน้ำตาแตก ซึ่งในวันเกิดเหตุ ยุติลงโดยการที่มีเจ้าที่ของอำเภอเข้ามาช่วยห้ามแยกย้ายทั้งสองฝั่ง

ตอนนี้ยอมรับว่าหวาดกลัวว่าฝ่ายชายจะเดินทางมาทำร้ายร่างกาย หรือมาเอาตัวลูกสาวไป จึงได้ติดต่อ กัน จอมพลัง ขอความช่วยเหลือ เพื่อให้เข้ามาช่วยตนเอง ซึ่งตนเองอยากให้ตำรวจช่วยดำเนินคดีจับกุมอดีตสามีในข้อหาทำร้ายร่างกายให้ถึงที่สุด เพราะก่อนหน้านี้หลังเกิดเหตุได้มีการเข้าไปแจ้งความ แต่ตำรวจท้องที่กลับแจ้งว่าให้ไกล่เกลี่ยกันกับทางฝ่ายสามี ตนเองไม่อยากไกล่เกลี่ยจึงอยากขอให้มีการดำเนินการทางคดีไปให้ถึงที่สุด รวมถึงเรื่องของการหย่าร้าง ก็อยากให้มีคนกลางเข้ามาช่วยเป็นตัวกลางในการดำเนินการให้ทางฝั่งอดีตสามียินยอมเซ็นใบหย่า สาเหตุที่ตนเองหวาดกลัว เนื่องจากว่าช่วงที่แยกทางกับสามี สามีเคยบุกมาที่หน้าบ้านและด่าทอคนในครอบครัว และมีการพยายามจะเอาลูกสาวไป

ดร.ธนกฤต ระบุว่า ในวันนี้ตนเองได้รับการประสานมาจากทางกัน จอมพลัง ว่ามีกรณีเคสแบบนี้เกิดขึ้นและด้วยความที่กัน จอมพลัง ติดภารกิจต้องเดินทางไปต่างประเทศ ตนเองเห็นว่าเรื่องแบบนี้ไม่สามารถรอได้ จึงได้จัดทีมลูกค้าทำงานจากศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์รัฐบาล ประสานมายังตำรวจในพื้นที่ และที่ยุติธรรมจังหวัดนนทบุรี เข้ามาช่วย

โดยเมื่อลงพื้นที่มาพูดคุยกับทางผู้เสียหาย ทำให้พอทราบเรื่องราวทั้งหมด โดยตนเองขอยืนยันว่า แม้ว่าจะเป็นสามีภรรยากัน ก็ไม่สามารถก่อเหตุทำร้ายร่างกายหรือข่มขืนได้ โดยต่อจากนี้ตนเองจะประสานขอให้ทางยุติธรรมจังหวัด เข้ามาดำเนินการจัดชุดคุ้มครองพยาน และประสานเป็นตัวกลางในการทำเรื่องหย่า หากฝ่ายชายไม่ยินยอม ก็ให้จัดหาทนายความมาดำเนินการฟ้องหย่า และให้ดำเนินการทำเรื่องเยียวยาขอรับเงินช่วยเหลือจากทางกระทรวงยุติธรรม

ขณะที่เรื่องของความปลอดภัย จะประสานขอให้ทางตำรวจในพื้นที่ไทรน้อย เข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัยในบ้านของทางครอบครัวของฝ่ายหญิง เนื่องจากเกรงว่าฝ่ายชายอาจจะเดินทางมาก่อเหตุทำร้ายร่างกายหรือก่อกวน

ด้าน พันตำรวจเอกพฤฒ จำรูญศาสน์ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง ระบุว่าเบื้องต้นในคดีนี้ตำรวจให้ความเป็นธรรมตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ทราบว่าฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อนำมาใช้ประกอบการดำเนินคดี ทำร้ายร่างกาย ยืนยันว่าคดีคดีการทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ไม่สามารถยอมความได้ ซึ่งเรื่องเพิ่งเกิดมาเพียง 5 วัน คาดว่าสามารถดำเนินการหากล้องวงจรปิดได้ ส่วนเรื่องผลการตรวจร่างกายต้องรอให้ทางโรงพยาบาลส่งกลับมาที่พนักงานสอบสวนก่อน ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 30 วัน ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเรียกสอบปากคำผู้เสียหายอีกครั้ง โดยในวันนี้จะมีการเรียกสอบอดีตสามีรายนี้