อาชญากรรม

ตร.ไล่วงจรปิด เร่งล่าตัว 3 คนร้ายยิงนักศึกษาเทคนิคดุสิต วัย 16 ปีดับ ตั้ง 3 ประเด็นสังหาร

โดย petchpawee_k

21 พ.ย. 2566

1.6K views

วงจรปิด! จับภาพนาทีนักศึกษาเทคนิคดุสิตถูกคนร้าย 3 คน ขี่ จยย.ไล่ติดตามใช้ปืนจ่อยิงเสียชีวิตก่อนถึงวิทยาลัย 300 เมตร หลบหนีไป เพื่อนผู้ตาย เผย คนร้ายถาม “เรียนที่ไหน” ก่อนใช้ปืนยิงหน้าอกเพื่อน 1 นัด ด้านแม่พ่อผู้ตายดูศพลูกร้องไห้ตะโกนเรียกลูกตลอดเวลา



วานนี้ (20 พ.ย.) เวลาประมาณ 07.56 น.ตำรวจ  สน.ดุสิต รับแจ้งว่าเกิดเหตุนักเรียน ไม่ทราบสถาบันยิงกันเสียชีวิตบริเวณทางเท้าตรงข้ามโรงเรียนอนุบาลกรแก้ว ถนนระนอง 2 เขตดุสิต กรุงเทพฯ เสียชีวิต 1 ราย ห่างจากวิทยาลัยเทคนิคดุสิต 300 เมตร แพทย์เวรและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ


สำหรับผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นายพงศ์ธีระ (สงวนนามสกุล) หรือน้องภูมิ อายุ 16 ปี นักศึกษาเทคนิคดุสิต ปวช.ปี 2 ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวาทะลุอวัยวะสำคัญ แผลจากการถูกยิงกว้าง 5 เซนติเมตร นอนจมกองเลือดอยู่บนฟุตบาท ส่วนที่นิ้วมือใส่แหวนรุ่นช่างก่อสร้างของสถาบัน


เจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบ ประสาน พญ.เก็บพิสูจน์ตรวจพยานหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้พยานวัตถุในที่เกิดเหตุที่ตรวจพบ ปืนประดิษฐ์ (แบบปากกา) ขนาดความยาวประมาณ 25 ซม./พร้อมมีดพกไปแหลมเปื้อนเลือด 1 ด้าม จึงเก็บเป็นหลักฐาน


ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจุดเกิดเหตุอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนอนุบาลกรแก้ว และอยู่ห่างจากวิทยาลัยเทคนิคดุสิตที่ตั้งภายในซอย 300 เมตร เห็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ สีขาว 2 คัน มีผู้ขับขี่ 1 คน และคนซ้อน ก่อนจะปาดรถเข้าริมทาง จากนั้นลงจากรถเข้าหาผู้เสียหายก่อนจะเกิดเหตุชุลมุนทำร้ายร่างกายและมีการวิ่งหนี จากนั้นมีคนล้มลง ก่อนที่ผู้ขับขี่จะขี่รถหนีไป เจ้าหน้าที่กู้ชีพพยายามปั๊มห้วใจแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา


โดยพบว่า ผู้ก่อเหตุมาทั้งหมด 3 คน ด้วยรถจักรยานยนต์ 2คัน แบ่งเป็น คันแรกรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ้น AEROX 115สีขาวแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนคันนี้คนขี่รถ สวมหมวกกันน็อคครึ่งใบสีเทาเงิน คาดขาวไม่ทราบยี่ห้อ /เสื้อแจ็กเก็ตสีเข้มไม่ทราบยี่ห้อ/กางเกงยีนส์ขายาวไม่ทราบยี่ห้อ /รองเท้าผ้าใบสีดำ-ขาว ยี่ห้อแวนซ์ ส่วนคนซ้อนท้าย สวมหมวกกันน็อคครึ่งใบสีน้ำเงินคาดขาว ไม่ทราบยี่ห้อ /เสื้อแจ็กเก็ตสีดำคาดขาว ยี่ห้อ kappa /กางเกงขายาวสีเข้ม /รองเท้าผ้าใบสีดำพื้นขาว เชือกสีขาว

และรถจักรยานยนต์ อีก 1 คัน ขี่มาคนเดียว เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า N-MAX สีเทาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมหมวกกันน็อคเต็มใบสีดำไม่ทราบยี่ห้อ /สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีเข้ม มีฮู๊ดไม่ทราบยี่ห้อ/กางเกงขายาวสีน้ำตาลไม่ทราบยี่ห้อ /รองเท้าผ้าใบยี่ห้อแวนซ์ สีดำขาว ซึ่งรถคันนี้พบว่าหลังก่อเหตุกระจกมองข้างด้านขวาของรถตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ (เพื่อนผู้ตาย) เผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นแกรนฟีลาโน่ สีขาว ทะเบียน  9กล 9685 กทม. โดยพยานเป็นผู้ขับขี่ และมีผู้เสียชีวิตซ้อนท้าย โดยขับมาตามถนนระนอง 2 ซอยระนอง 2 เพื่อจะมารับเพื่อนชื่อนายธันวา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ มีกลุ่มคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น ประมาณ 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2 คันติดตามมา


จากนั้นเมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ หนึ่งในคนร้ายถามว่าพวกตนเอง “เรียนที่ไหน” ก่อนที่หนึ่งในผู้ก่อเหตุจะใช้อาวุธปืนยิงใส่เพื่อน จำนวน 1 นัด จนเพื่อนล้มลงและเสียชีวิต กระสุนปืนถูกบริเวณหน้าอกผู้เสียชีวิต จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้หลบหนีไปทางถนนพระราม 5 หลบหนีมุ่งหน้าออกไปทางถนนพระราม 5 และไม่ทราบทิศทางหลบหนี ไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นสถาบันไหนที่เข้ามาก่อเหตุ /จากนั้นตำรวจไปนำตัวเพื่อนผู้เสียชีวิตไปสอบปากคำที่ สน.ดุสิต


หลังเกิดเหตุพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ทั้งคู่อยู่ในภาวะโศกเศร้าเสียใจร้องไห้อย่างมาก กับการสูญเสียลูกชายอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะแม่ของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในภาวะช็อกจนทีมแพทย์ต้องปฐมพยาบาล แม่ร่ำไห้พูดว่า “ขอให้น้องภูมิไปสู่สุคติ ชาติหน้าขอให้เกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก”


จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ประคองแม่ผู้เสียชีวิตไปนั่งบนเปลนอน ทันทีที่คุณตาของผู้เสียชีวิตเดินทางมาถึงได้เดินไปสวมกอดลูกสาว (แม่ผู้ตาย) แม่ร้องไห้แล้วพูดว่า “ลูกไม่อยู่แล้ว ลูกตายแล้ว”/โดยคุณตา บอกว่า เสียใจที่หลานชายเสียชีวิต หลานไม่ใช่คนเกเร ต้องมาจบชีวิตด้วยการถูกยิงตาย


นายชาญณรงค์  อายุ 42 ปี พ่อผู้เสียชีวิต เผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาลูกตนเองก็ยกมือไหว้ออกมาโรงเรียนตามปกติโดยจะใช้วิธีการขึ้นรถเมล์มาเพียงลำพังจากบ้านที่ดินแดง แต่จะใส่ชุดปกติธรรมดามาโรงเรียนและเมื่อมาถึงก่อนจะเข้าโรงเรียนจะมีการเปลี่ยนชุดเปลี่ยนชุดนักเรียนเนื่องจากลูกเกรงว่าจะถูกทำร้ายระหว่างมาโรงเรียน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงและโหดร้ายขนาดนี้ขึ้นกับลูก


ส่วนลูกตั้งใจที่จะมาเรียนที่นี่ตนเองเคยจะให้ลาออกเพราะห่วงลูกเนื่องจากโรงเรียนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้งมาก่อนหน้านี้ แต่ลูกได้ไปขอร้องแม่เพื่อจะขอเรียนต่อตนเองจึงตามใจเพราะเป็นความต้องการของลูก ซึ่งรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ลูกต้องมาจากไปแบบนี้ และตนเองมีลูกเพียงคนเดียวด้วย


จากนั้นตำรวจได้เชิญตัวพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต รวมถึงครูและผู้บริหารของวิทยาลัยเทคนิคดุสิต เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ดุสิต ซึ่งคุณแม่ยังอยู่ในอาการเสียใจ นั่งพูดคุยกับผู้บริหารของวิทยาลัยฯ ร้องไห้ตลอดเวลา /และได้นำตัวเพื่อนผู้เสียชีวิต 1 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ มาร่วมสอบปากคำ ระหว่างนั้นนักข่าวพยายามสอบถามเพื่อนผู้เสียชีวิต แต่ไม่ตอบคำถามสื่อแต่อย่างใด


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวเพื่อนน้องภูมิ (ผู้ตาย) เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีพ่อและแม่ของน้องภูมิ ร่วมฟังอยู่ด้วย มีจังหวะหนึ่งเพื่อนของน้องภูมิ เข้าไปนั่งเคียงข้างพ่อและแม่น้องภูมิ พร้อมกับมีการจับมือพูดคุยกัน บางช่วงแม่ถึงกับร้องไห้ออกมาระหว่างพูดคุยกับเพื่อนน้องภูมิ

จากนั้นเวลา 14.30 น.กลุ่มเพื่อนร่วมสถาบันของน้องภูมิ จำนวน 3 คน เดินทางมาที่ สน.ดุสิต โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ แก่สื่อมวลชน เนื่องจากกังวลในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งทันทีที่เข้าไปในห้องสวบสวน ทั้ง 3 คน ได้คุกเข่าก้มไหว้กอดแม่และพ่อของน้องภูมิทั้งน้ำตา


ด้านคุณตาของผู้เสียชีวิต อายุ 82 ปี เดินทางมาที่ สน.ดุสิต เผยว่า หลานชายเป็นคนตั้งใจเรียนอาจจะติดกลุ่มเพื่อนบ้าง เหตุครั้งนี้มองว่าโหดร้ายมากหลานชายไม่เคยเกเร ยอมรับว่าเสียใจไม่น่าจะมาก่อเหตุรุนแรงโหดร้ายขนาดนี้ ตอนที่ตนไปเห็สศพก็อดร้องไห้ไม่ได้ เพราะสงสารหลาน ส่วนลูกสาว(แม่ผู้ตาย) ก็ร้องไห้จนสติแตก ทั้งนี้ช่วงเกิดเหตุตนไปทำบุญที่วัด พอทราบข่าวก็รีบเดินทางมาจุดเกิดเหตุทันที คนทำความชั่วอยากให้ตำรวจจัดการโดยเร็ว

-----------------------------------------

ตร.ไล่วงจรปิด-ตำหนิรูปพรรณ ล่าคนร้ายยิงนักศึกษาเทคนิคดุสิต เสียชีวิต ยังไม่สรุปได้แน่ชัดเป็นฝีมืออริต่างสถาบันหรือไม่ เชื่อมีการวางแผน ส่วนคนร้ายถูกมีดแทงบาดเจ็บ 1 ราย ขณะต่อสู้กับผู้ตาย ตั้งประเด็นสืบสวน 3 ประเด็น


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตํารวจนครบาล เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีกับทีมพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนที่ สน.ดุสิต เปิดเผยว่า คดีนี้เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นแนวทางการสืบสวนเอาไว้ 3 ประเด็น คือเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวของผู้เสียชีวิต/เรื่องความขัดแย้งของเพื่อนผู้เสียชีวิต/และเรื่องต่างสถาบัน

ซึ่งหลังจากการประชุม ก็ได้ดำเนินการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจนแล้ว ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนทำงานอย่างละเอียดก่อน ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือต่างสถาบันหรือไม่ เชื่อว่ามีการวางแผน แต่ไม่ได้วางแผนอย่างซับซ้อน


โดยจากภาพวงจรปิดพบว่า คนร้ายมาด้วยรถจักรยานยนต์ 2 คันมากัน 3 คน เป็นรถจักรยานยนต์ที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นนักเรียนหรือเยาวชน เพราะสวมหมวกกันน็อคทั้ง 3 คน ส่วนอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นปืนที่ใช้ยิงผู้เสียชีวิตหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบทางนิติเวชโดยละเอียด


ส่วนอาวุธที่พบในที่เกิดเหตุ แน่ชัดแล้วว่าเป็นอาวุธมีดของผู้เสียชีวิตที่พกเอาไว้ป้องกันตัว ซึ่งจากภาพวงจรปิด พบว่าผู้เสียชีวิตได้ใช้อาวุธมีดดังกล่าวป้องกันตัวด้วยการแทงไปที่ผู้ก่อเหตุหลายครั้ง จึงวิเคราะห์ว่าคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บและต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรือคลินิกในเขตกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล ซึ่งขณะนี้ได้ให้ชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าสืบสวนตามโรงพยาบาล


ฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและสื่อมวลชนแจ้งไปเบาะแสผู้กระทำความผิดทั้ง 3 คน และรถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุต่อไป หากเห็นว่ามีชาย 3 คน มารักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากถูกแทงด้วยอาวุธมีด สามารถแจ้งเบาะแสมาที่สืบนครบาลหรือตำรวจ สน.ดุสิต ได้ จะดำเนินการปกป้องข้อมูลความลับให้

พ.ต.อ.ไตรเทพ แพทย์รัตน์ ผู้กำกับการ สน.ดุสิต เปิดเผยว่า ขณะนี้วัตถุพยานต่างๆ เกี่ยวกับอาวุธและสิ่งของที่สามารถพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอ ถูกนำส่ง พฐ.แล้ว และได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ทั้งเพื่อนผู้เสียชีวิตและผู้ปกครอง โดยในแนวทางการสืบสวนยังไม่ทิ้งประเด็นใดๆ และยังให้น้ำหนักเป็นไปได้ทุกทาง ส่วนตัวผู้ก่อเหตุฝ่ายสืบสวนได้ไล่ทิศทางการหลบหนีดูเรื่องตำหนิรูปพรรณ การแต่งกาย ยานพาหนะ เชื่อว่าน่าจะนำไปสู่การรู้ตัวและจับกุมได้


ส่วนผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บด้วยหรือไม่นั้น ตามคำให้การทราบว่าน่าจะมีการได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่ทราบว่าจะได้รับยาดเจ็บในลักษณะไหน จากอะไรหรือรุนแรงขนาดไหน ซึ่งฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบเส้นทางหลบหนี


ส่วนตามโรงพยาบาลปรากฎข้อมูลของผู้ก่อเหตุไปรับการรักษาล้างหรือไม่นั้น ขณะนี้ก็ยังไม่ปรากฎข้อมูลเช่นกัน แต่ได้ดำเนินการตรวจสอบทุกที่แล้ว อยู่ระหว่างรอข้อมูลจากฝ่ายสืบสวน ส่วนปืนปากกาที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของฝ่ายใด รอประกอบคำให้การกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน ทั้งนี้จากการสอบปากคำบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ถือว่ามีประโยชน์พอสมควร แต่ก็ต้องดูภาพวงจรปิดประกอบด้วย และยังไม่ได้รับการชี้ชัดว่ามีเรื่องสถาบันหรือไม่ เพราะยังให้น้ำหนักทุกทาง


ส่วนจากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่า รถจักรยานยนต์ผู้ก่อเหตุขี่เข้ามาในถนนระนอง 2 เพียงเที่ยวเดียว ในระยะเวลาสั้นๆ ในชั้นนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีการนัดหมายหรือมีการเตรียมการมาหรือไม่ รอการสอบสวนของทุกฝ่ายก่อน และจากรูปพรรณสันฐาน คาดว่าจะสามารถออกหมายจับได้ แต่อยู่ระหว่างการรวบรวมพบานหลักฐานให้เพียงพอก่อนขอศาลออกหมายจับ


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/APfHqLdn3as


คุณอาจสนใจ

Related News