อาชญากรรม

ล่าโจรฝีมือฉกาจ ควงมีด-ค้อนทุบปล้นทอง กลางห้างดังราชบุรี ใช้เวลาแค่ 30 วินาที

โดย thichaphat_d

17 ธ.ค. 2566

141 views

เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (16 ธ.ค.) ตำรวจ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี รับแจ้งมีเหตุ คนร้ายชิงทอง ภายในห้างโลตัสสาขาโพธาราม ที่เกิดเหตุเป็นร้านทองเยาวราช มังกรคู่ อยู่ปากทางเข้าห้างโลตัส ที่บริเวณเคาน์เตอร์พบกระจกตู้โชว์ถูกทุบแตก มีค้อนและปลอกมีดพกที่ทำจากกระดาษลังตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ขณะเกิดเหตุมีภาพกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้โดยคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อแจ็กเก็ตและกางเกงขายาวสีดำ ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว สวมถุงมือยางสีฟ้า สวมหมวกแก๊ปสีส้ม และหน้ากากอนามัยปิดบังอำพรางใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาจอดรถในห้าง

จากนั้นคนร้ายได้เดินเข้ามาทางประตูห้าง พร้อมทั้งควักมีดสปาต้าออกมาชี้หน้าพนักงานของทางร้าน ก่อนควักค้อนขึ้นมาทุบและกวาดเอาทองคำรูปพรรณไปได้รวม 18.50 บาท โดยใช้เวลาเพียงแค่ 30 กว่าวินาทีเท่านั้น ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปได้

จากการสอบถาม น.ส.ชยาภา เปลาเล อายุ 37 ปี พนักงานหน้าร้านทองดังกล่าว เล่าให้ฟังด้วยอาการตกใจว่า ตอนเกิดเหตุตนนั่งรอรับลูกค้าอยู่ จู่ๆ คนร้ายก็เดินปรี่เข้ามาแล้วชักมีดยาวคล้ายสปาต้า และค้อนออกมา ตนเห็นจึงรีบวิ่งหนีเข้าไปในห้างและได้ยินเสียงกระจกแตก ตอนนั้นตนไปเรียกคนในห้างว่าคนร้ายปล้นร้านทอง ส่วนคนร้ายนั้นมีพลเมืองดีได้ถ่ายภาพไว้ได้ เป็นชายสวมหมวกแก๊ปสีส้ม เสื้อคลุมสีดำ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว หลังก่อเหตุได้เดินออกไปขึ้นรถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 ดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ส่วนทองที่คนร้ายได้ไปเป็นแหวนและกำไลข้อมือ น้ำหนักรวม 18.50 บาท มูลค่ากว่า 6 แสนบาท

ทั้งนี้ ตามปกติตนจะทำงานอยู่ร้านทองประจำที่สาขา อ.บ้านโป่ง แต่เนื่องจากวันนี้พนักงานที่สาขาโพธารามขอลาหยุด ทำให้ตนต้องมาช่วยทำหน้าที่แทนเป็นการชั่วคราว ยอมรับว่ารู้สึกตกใจ ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าที่รอดมาได้ เป็นเพราะก่อนหน้านี้ได้ไปเข้าร่วมพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ครบรอบวันคล้ายวันเกิด

ต่อมา เวลา22.00 น. พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรีกว่า 30 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำไฟฉายและรถส่องสว่างมารวมกันที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างโลตัส เพื่อค้นหาถุงมือยางสีฟ้า ซึ่งจากการแกะรอยของคนร้ายทราบว่าหลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไปเส้นทางการหนี ออกจากห้างเลี้ยวซ้าย และไปเลี้ยวซ้ายตรงวงเวียนม้า จากนั้นได้ขับรถมุ่งหน้าข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง ลงสะพานเลี้ยวขวาไปทางวัดขนอน

ซึ่งกล้องวงจรปิดของอู่ซ่อมรถใกล้เคียงวัดเกาะได้จับภาพได้ แต่ถุงมือไม่มีแล้ว จึงเชื่อว่าคนร้ายได้ถอดถุงมือและทิ้งระหว่างทาง ส่วนกล้องที่เลยขึ้นมาใกล้เคียงวัดขนอน ไม่พบคนร้ายขับผ่าน จึงมั่นใจว่าคนร้ายเลี้ยวซ้ายตรงข้ามวัดเกาะ เพื่อหลบสายตาชาวบ้านและหลบกล้อง

ทางกู้ภัยจึงระดมการค้นหา จนเมื่อเวลา 23.45 น.พบถุงมือยางสีฟ้าลักษณะตรงกัน โดยเจอที่ริมคลองชล ม.4 ต.สร้อยฟ้า จึงนำมาเป็นหลักฐานและจะได้ส่งถุงมือไปตรวจดีเอ็นเอ สำหรับถุงมือยางสีฟ้า ทีมกู้ภัยสว่างได้เปิดเผยว่าถุงยางสีฟ้านี้ส่วนใหญ่คนที่ใช้จะเป็นพวกร้านสักยันต์ เพราะว่ามีความหนา ไม่มีแป้ง เวลาเลิกใช้จะไม่มีแป้งติดมือ ส่วนทางกู้ภัยจะใช้สีขาวซึ่งมีแป้ง ทำงานง่าย แต่ก็ไม่แน่เสมอไปคนร้ายอาจไม่ได้เป็นช่างสัก อาจไปหาซื้อตามร้านมาใช้งานเพราะใช้สีฟ้าเวลาถอดทิ้งจะไม่มีคราบแป้งติดตามมือ



https://youtu.be/Fzmayay970E

คุณอาจสนใจ