จับคาเซฟเฮ้าส์ โจ๋อุเทนถวาย เจ้าของปืน สังหารเด็กเทคโนปทุมวัน

เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2567 พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 สั่งการให้ พ.ต.ท.จุณณวัฒน์  พรพนม สว.กก.สส.บก.น.5  นำกำลังจับกุมนายสหรัฐ ไชยแสง อายุ 22 ปี  ในความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโดยไม่มีเหตุอันควร” ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ จ.176/2567 ลงวันที่ 28 มีนาคม โดยจับกุมได้ที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ร่ำรวย ปิโตรเลียม ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี ปทุมธานี

สืบเนื่องจากกลางดึกของคืนวันที่ 24 มกราคม 2566 ได้มีเหตุนักศึกษาช่างกลปทุมวันถูกยิงเสียชีวิตใน สน.ทุ่งมหาเมฆ จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ และศาลอนุมัติหมายจับ จำนวน 5 หมาย โดยขณะนั้นเหลือผู้ต้องหาที่ยังมิถูกจับกุมอีกจำนวน 3 ราย ซึ่งมีนายสหรัฐ ไชยแสง รวมอยู่ด้วย

กระทั่งเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.5  จึงทำการสืบสวนเพิ่มเติมถึงแหล่งกบดาน จากนั้นได้ทำการร้องขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดธัญบุรี นำหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 243/2566 ลงวันที่ 8 เม.ย.66 เข้าตรวจค้นเซฟเฮ้าส์ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผลการตรวจค้นพบว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยกำลังรวมตัวกันอยู่ 14 คนภายในเซฟเฮาส์ดังกล่าว

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับกว่า 3 ราย ซึ่งเคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนเถื่อนกว่า 3 กระบอก โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 14 รายยังไม่ยอมให้การใดๆ และยังไม่ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าปืนทั้ง 3 กระบอก

ซึ่งปืนกระบอกดังกล่าว ตรงกับปืนที่ก่อเหตุในพื้นที่ สน.บางกอกน้อย เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2566 เวลา 22.35 น. โดยมีพฤติการณ์คือ นายศตวรรษ (ขอสงวนนามกุล) นศ.วิศวกรรมไฟฟ้า ปี 1 ขึ้นปี 2 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ผู้ตายขี่รถ จยย.ออกจากที่พักคอนโดแห่งหนึ่งในซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบขี่รถ จยย.ยามาฮ่า รุ่น N-Max สีขาว ทะเบียนจำได้ 9178 (ตัวใหม่) ขี่ประกบไล่กระหน่ำยิงหลายนัด ทำให้รถ จยย.ล้มคว่ำไถลไปกับถนน ก่อนคนร้ายจะวกรถ จยย. กลับมาจ่อยิงซ้ำกระหน่ำอีกหลายนัด ก่อนขี่หลบหนีไปตามถนนจรัญสนิทวงศ์ ขาเข้ามุ่งหน้าสี่แยกไฟฉาย

ต่อมา นายสหรัฐ ให้การรับสารภาพต่อศาลว่า เป็นเจ้าของปืนกระบอกดังกล่าว ต่อมาพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อย จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญาตลิ่งชัน และศาลอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งต่อมาชุดสืบสวนทราบว่าคนร้ายได้มาปรากฏตัวที่สถานที่ดังกล่าวจึงนำกำลังจับกุม

จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่า อาวุธปืนเป็นของตน แต่ในคืนเกิดเหตุไม่ได้เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิง จึงนำตัวส่ง พงส.สน.บางกอกน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป