อาชญากรรม

ผู้รอดชีวิตเหตุกราดยิงพารากอน ซ่อนตัวในห้องน้ำ เห็นคนตายต่อหน้า ได้ยินเสียงลมหายใจ แต่ช่วยไม่ได้

5 ต.ค. 2566

193 views

ผู้รอดชีวิตเหตุเด็กชายวัย 14 ก่อเหตุยิงกลางห้างพารากอน เล่านาทีระทึก เห็นคนตายต่อหน้า ได้ยินเสียงลมหายใจขณะหลบในห้องน้ำแต่ไม่สามารถช่วยได้ - ด้านแฟนได้เล่าให้ฟัง จังหวะยิง ก่อนหาจังหวะซ่อน ปรากฏเจอกระสุนซ่อนไว้เพียบ สอดคล้องข้อมูลตำรวจ

กรณีเด็กชายอายุ 14 ปี ก่อเหตุยิงในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 5 ราย


วานนี้ (4 ต.ค.66) ทีมข่าวได้คุยกับ คุณมิ้ง ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนมีงานรีวิวร้านอาหารในห้าง เมื่อเสร็จงานแล้วกำลังจะไปแวะดูสินค้าที่ร้านแบรนด์เนมแห่งหนึ่งข้างห้องน้ำบริเวณชั้น M แต่เปลี่ยนใจไปแวะเข้าห้องน้ำก่อน ซึ่งแฟนไปด้วยจึงแยกกันเข้าห้องน้ำและขณะนั้นคนเยอะมาก จนต้องมีการต่อแถวจนล้นออกมานอกห้องน้ำ


ระหว่างที่ตนยืนต่อคิวด้านนอก ได้ยินเสียงคล้ายเสียงระเบิดดังปั้งแรกในห้องน้ำชาย ซึ่งส่วนตัวตอนนั้นคิดว่าเป็นเครื่องเป่าแห้งในห้องน้ำระเบิด จึงยังไม่คิดอะไร จากนั้นพอเสียงดังปั้งที่ 2 ก็ยังไม่ได้อะไร แต่ก็มีคนเริ่มตกใจกันแล้ว กระทั่งปั้งที่ 3 เห็นคนโวยวายในห้องน้ำก่อนจะวิ่งกรูกันออกมา ซึ่งตอนนั้นคิดว่าน่าจะมีคนทะเลาะวิวาทกัน แล้วพกปืนไปยิงกันในห้องน้ำ แต่ปรากฏว่ามีคนๆหนึ่งที่เสียชีวิต ทราบภายหลังเป็นชาวเมียนมาร์ยืนอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ มีท่าทางตกใจ เขาพูดว่าวิ่งหนีอะไรกัน แล้วก็มองหน้ามาที่ตน ต่างคนต่างมองหน้ากันว่าจะต้องวิ่งหรือไม่ 


จากนั้นเสียงปืนนัดที่ 4 สิ้นเสียงนักนี้ชาวเมียนมาร์คนนี้ล้มลงไปต่อหน้าต่อตา และตนก็คิดได้เลยว่าน่าจะไม่ใช่การทะเลาะวิวาทกันแล้ว เพราะชาวเมียนมาร์คนนี้ไม่น่าเกี่ยวข้องด้วย จึงคิดว่าน่าจะเป็นการยิงแบบไม่เลือก ยิงแบบมั่วซั่ว


จากนั้นตนคิดได้เพียงแต่ว่าต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำหญิง ส่วนแฟนของตนอยู่ในห้องน้ำชาย ซึ่งตนก็รู้สึกเป็นห่วงและใจไม่ดี เพราะไม่รู้ว่ายิงใครไป  อีกอย่างย้อนกลับไปตอนที่เสียงปืนดังขึ้นดับที่ 3 แล้วมีคน เริ่มวิ่งออกมาไม่มีแฟนของตนวิ่งออกมาด้วย   แต่ว่าต้องตั้งสติวิ่งไปหลบในห้องน้ำหญิงแล้วล็อกประตู จากนั้นพยายามโทรหาแฟน แต่ปรากฏว่าแฟนโทรสวนกลับมาพอดีจึงได้คุยกันและแฟนบอกว่าให้อยู่นิ่งๆ เงียบๆ ใจเย็นๆ เพราะว่าตอนนี้มีคนยิงกันในห้องน้ำชาย มีคนตายด้วย จากนั้นจึงวางสายกันไป


เจ้าตัว เล่าต่อว่า หลังจากที่คนร้ายออกมาจากห้องน้ำ และเสียงปืนไปไกลสักระยะหนึ่ง ก็มีผู้ชายคนวิ่งมาหลบในห้องน้ำด้วย ปรากฎว่าที่หลบกันอยู่ในห้องน้ำหญิงมี 1 ห้อง มี 4 คน ซึ่งมีตนและแฟนด้วย ซึ่งทั้งหมดนั่งรอคนมาพาอพยพประมาณ 10 นาที แม้ว่าหลายคนจะมองว่าเร็ว แต่บอกเลยว่า 10 นาทีของตนที่ซ่อนตัวอยู่นานมากๆ ไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจ บางครั้งการหายใจต้องเอามือปิดปากให้เงียบที่สุด


คุณมิ้ง  ยังบอกว่า ทุกอย่างแย่มาก แย่ไปหมด โดยเฉพาะเสียงลมหายใจเฮือกๆของคนที่ถูกยิง รวมทั้งเสียงโทรศัพท์มือถือของที่ญาติพยายามโทรติดต่อและยังไม่รู้ว่าถูกยิง ระหว่างนั้นในใจคิดอย่างเดียวว่าจะออกไปยังไง ออกไปในสภาพไหน ในสภาพที่เรามีชีวิตอยู่หรือไม่ หรือว่าเป็นปกติ ก่อนจะมองหน้ากับแฟนแล้วคิดว่าหรือนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้มองหน้ากัน


ทั้งนี้ คุณมิ้งได้ส่งคลิปนาทีซ่อนตัวอยู่ภายในห้องน้ำ 1 ห้อง 4 คน ที่อัดกันอยู่ในห้องน้ำด้วยท่าทางตกใจกลัว และพยายามอยู่ให้เงียบที่สุด ซึ่งจังหวะนี้จะได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังด้านนอกอีกด้วย ซึ่งคาดว่า ญาติของผู้เสียชีวิตพยายามโทรศัพท์หา

คุณมิ้งกล่าวต่อว่า ระหว่างที่แฟนของตนวิ่งมาหลบด้วย ได้วิ่งผ่านร่างของผู้เสียชีวิตชาวเมียนมาร์และชาวเมียนมาร์ ซึ่งขณะนั้นยังไม่ทราบว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่


คุณมิ้ง ย้ำอีกว่า สิ่งที่แย่ที่สุดตอนนั้นคือการที่ต้องมานั่งฟังเสียงลมหายใจ ซึ่งไม่แน่ใจว่าตอนนั้น เป็นเสียงลมหายใจของใครที่โดนยิงต่อหน้าต่อตาตัวเอง แต่ส่วนตัวคิดว่าเป็นเสียงลมหายใจของผู้เสียชีวิตชาวเมียนมาร์ที่ร่างนอนอยู่บริเวณแถวๆหน้าห้องน้ำชาย ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตชาวจีนอยู่ตรงทางเข้าห้องน้ำหญิง ซึ่งตนมองว่าน่าจะวิ่งเข้าห้องน้ำไม่ทัน


คุณมิ้ง ยังได้ส่งคลิปนาทีซ่อนตัวอยู่ภายในห้องน้ำ ซึ่ง เป็นจังหวะที่เปิดออกมาแล้วเห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ และเห็นร่างของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ถูกยิง นอนอยู่กับในห้องน้ำหญิงอีกด้วย


คุณมิ้ง ยังเล่าย้อนหลังจากที่ถูกอพยพออกมาแล้วว่า จังหวะที่คนร้ายยิงผู้เสียชีวิตชาวเมียนมาร์แล้ว นั่นหมายความว่าองศาของคนร้าย น่าจะหันตัวมาจากทางออกของห้องน้ำชายแล้ว และมีคนอยู่บริเวณนั้น รวมทั้งตัวเอง ซึ่งหมายความว่าจะเลือกยิงใครก็ได้  ทั้งนี้ บางข่าวบอกว่าคนร้ายเลือกยิง แต่ตนขอยืนยันว่าคนร้ายยิงทุกคนแบบไม่เลือก  ขนาดเท่ากันต้นมองว่าหลังจากที่คนร้ายยิงผู้เสียชีวิตชาวเมียนมาร์แล้ว จังหวัดต่อไปคือต้องก้าวออกจากห้องน้ำชายแน่ๆ  และหากเจอตัวเองคิดว่าเขายิงแน่นอน จริงรีบผลักให้คนกรูเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตู


คุณมิ้ง เล่าต่อว่า เมื่ออพยพออกมาได้ ตนจึงถามแฟนว่าเหตุการณ์ห้องน้ำชายเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งแฟนเล่าให้ฟังว่า แฟนเห็นคนร้ายในภาพข่าว แต่ก็ยังไม่แน่ใจเพราะมองว่าคนละชุดกัน ซึ่งชุดที่เห็นในห้องน้ำเป็นชุดสีออกน้ำตาลๆ และมีฮูดดี้ ซึ่งคนร้ายได้เดินเข้าห้องน้ำที่มีชักโครกแล้วปิดประตู ส่วนแฟนยืนปัสสาวะอยู่ ได้ยินเสียงปั้งจากในห้องน้ำ ซึ่งคาดคะเนกันมองว่าน่าจะเป็นการลองปืนในห้องน้ำ ซึ่งทุกคนในห้องน้ำก็เริ่มตกใจ


จากนั้นนัดที่ 2 เห็นมีควันออกมาห้องน้ำ และปั้งที่ 3 เปิดประตูห้องน้ำแล้งยิงเลย คนก็เริ่มวิ่งกรูหนีกันออกมา ส่วนปั้งที่ 4 น่าจะไปโดน ผู้เสียชีวิตชาวเมียนมาร์บริเวณด้านหน้าห้องน้ำชาย  และหากถามว่าตัวเองรอดมาได้อย่างไร แฟนตนบอกว่ายืนปัสสาวะจุดริมสุดของห้องน้ำและเป็นมุมอับที่คนร้ายไม่เห็น


ระหว่างนั้นคนร้ายยืนหันหลัง แฟนของตน จึงอาศัยจังหวะนี้วิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำที่มีชักโครกที่คนร้ายออกมา ปรากฏว่าเห็นอาวุธ กระสุนของคนร้ายที่อยู่ในกระเป๋าซ่อนอยู่ในห้องน้ำห้องนี้ ซึ่งกระสุนเต็มเลยและแฟนตนก็กลัวและตกใจมาก จึงออกมาหลบห้องน้ำหญิง เพราะถ้าไม่ออกมาคิดได้อย่างเดียวว่าตายแน่ อีกอย่างคิดว่าคนร้ายต้องกลับมาเอาของอย่างแน่นอน


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่ากรณีที่แฟนของคุณมิ้งพบกระสุนที่ซุกซ่อนในกระเป๋าของคนร้าย ภายในห้องน้ำชั้น M สอดคล้องกับข้อมูลของตำรวจชุดสืบสวนที่ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้าย ได้นำอาวุธปืน กระสุน แม็กกาซีน ใส่กระเป๋าเป้ของตัวเอง แล้วสะพายลงมาจากรถไฟฟ้า ก่อนที่จะมุ่งหน้า เข้าไปในห้องน้ำชั้น M แล้วมีการเตรียมพร้อม สวมถุงมือ ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อปิดบังใบหน้า พร้อมกับเปลี่ยนชุด เป็นชุดใหม่ ถอดเสื้อฮูดดี้ออก เมื่อจัดการเองเสร็จแล้ว ผู้ก่อเหตุได้นำอาวุธปืนออกมาจากกระเป๋า แล้วทิ้งกระเป๋าของตัวเองไว้ในห้องน้ำ จากนั้น เดินเข้าไปยังห้างพารากอน แล้วก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

--------------------------------------------------------

ขณะที่บรรยากาศวานนี้ (4 ต.ค.66) ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน พบว่าที่ห้างยังคงเปิดให้บริการตามปกติ มีเพียงบางร้านที่ปิดให้บริการ โดยเฉพาะร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับผลกระทบจากเหตุยิง จนกระจกร้านแตกพังเสียหาย


ขณะเดียวกันยังพบว่ามีตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บหลักฐานพยานเพิ่มเติมในพื้นที่ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น M ของห้างสรรพสินค้าอีกด้วย 


ส่วนบรรยากาศภายในห้างวานนี้ (4 ต.ค.) พบว่ายังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเดินภายในห้างตามปกติแต่จากการสังเกตพบว่านักท่องเที่ยวน้อยกว่าปกติและมีบางร้านที่ยังคงปิดให้บริการโดยเฉพาะร้านค้าชั้น M  


ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยพบว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน มีการตรวจสัมภาระผู้ที่เข้ามาใช้บริการอย่างเข้มงวด โดยผู้ที่มาใช้บริการจะต้องเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ และถูกตรวจสอบสัมภาระก่อนเข้ามาด้านใน 


นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า ช่วงเช้าวานนี้ (4 ต.ค.66) มีนักท่องเที่ยวชาวจีน มาวางดอกไม้ที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าสยามพารากอน เพื่อแสดงความไว้อาลัยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย 


ต่อมาในเวลา 17.30 น. บรรยากาศที่ด้านหน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน มีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมด้วยกลุ่มเป็นหนึ่ง ร่วมกันจุดเทียน และยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว และมีการตั้งจิตภาวนาให้ผู้บาดเจ็บหายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว


ทั้งนี้ ยังพบว่ามีการเขียนป้ายข้อความแสดงถึงความอาลัยอีกด้วย เช่น R.I.P. // R.I.P. #paragon // rest in peace ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อครอบครัวของผู้เสียหายและผู้เสียชีวิต ฯลฯ


นอกจากนี้ยังมีป้ายข้อความภาษาสันสฤต จากคนเมียนมาร์ที่นำมาวางอีกด้วย ซึ่งเป็นคาถา “โอม มณี ปัทเม ฮัม” (Om Mani Padme Hum) เป็นมนต์ 6 พยางค์ในภาษาสันสกฤตซึ่งเกี่ยวข้องเป็นพิเศษกับพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา แปลว่า ขอบูชาแต่แก้วมณีในดอกบัว”


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/oK91kxrzKjY

คุณอาจสนใจ

Related News