แม่ร้องสื่อ ช่วยตามคดี 13 โจ๋ ยกพวกรุมตี ก่อนรัวปืน 3 นัด ดับชีวิตลูกชายหน้าบ้าน

จากกรณีที่เมื่อช่วง 1 นาฬิกาของเช้าวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุ กลุ่มวัยรุ่นยกพวกมากกว่า 13 คน เข้ามารุมทำร้ายก่อนยิงใส่ นายวันฉัตร จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

เช้าวันนี้ ทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่พูดคุยกับ นางธิติมา แม่ของนายวันฉัตร ผู้เสียชีวิต โดยนางธิติมา เล่าให้ฟังว่า ประเด็นความบาดหมางระหว่างตัวลูกชายคนโต กับคนที่ชื่ออ๊อดที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มผู้ก่อเหตุมีมาอย่างยาวนาน

เคยมีปัญหากระทบกระทั่งรุนแรงถึงขั้นลูกพี่ลูกน้องโดนกลุ่มนายอ๊อดตีจนแขนหัก ซึ่งเป็นความไม่พอใจกันมาโดยตลอด ก่อนที่ในวันเกิดเหตุ ลูกชายทั้งสองได้มีเรื่องกับคนในกลุ่มของนายอ๊อด ก่อนที่ในเวลาต่อมา จะมีการไปตามนายอ๊อดมาก่อเหตุ

ส่วนตัวอยากให้ทางตำรวจดำเนินการกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทุกคน เพราะเท่าที่ทราบในทางคดีมีการดำเนินการจับกุมมาได้แค่คนเดียว แต่ในคลิปวงจรปิดจะเห็นว่ามีคนร่วมก่อเหตุในครั้งนี้เป็น 10 คน จึงอยากให้ตำรวจดำเนินการจับทุกคนมาดำเนินคดี และอยากสอบถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุ ว่าทำไมถึงต้องก่อเหตุรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตกันขนาดนี้ ทั้งทั้งที่ลูกชายคนเล็กก็ไม่ได้มีปัญหากับทางกลุ่มผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด

และตนเองอยากให้กลุ่มผู้ก่อเหตุ ออกมาแสดงความรับผิดชอบ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอให้มอบตัว และรับโทษทางคดีทุกคน

ขณะที่นายเทพดุสิต โชว์พุทธา หรือโฟล์ค พี่ชายของผู้ตาย ระบุว่า ตนเองมองเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่าเป็นการฆ่าฝาก เพราะเชื่อว่าจุดประสงค์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการมาทำร้ายร่างกายตนเองแต่ขณะเกิดเหตุ ตนเองออกไปหาแฟนสาวจึงไม่อยู่ ทำให้เมื่อมาเจอน้องชายเลยก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เพราะส่วนตัวตนเองกับทางหัวหน้ากลุ่มผู้ก่อเหตุที่ชื่อนายอ๊อด มีปัญหาผิดใจกันมานานหลายปีเ พราะนายอ๊อดเคยมาทำร้ายร่างกายลูกพี่ลูกน้องจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีเรื่องมีราวกันมาโดยตลอด

ส่วนชนวนเหตุของวันเกิดเหตุ มีการเข้าไปตักเตือนคนในกลุ่มของนายอ๊อดในเรื่องการที่นายนิดคนในกลุ่มนายอ๊อด มาต้มใบกระท่อมอยู่บริเวณข้างๆ จุดที่ตนเองและน้องชายนั่งดื่มสุรากันทำให้รบกวน แต่คนในกลุ่มกลับไม่พอใจ และวิ่งไปตามพวก ซึ่งตนเองได้เดินตามไปก็จะมีเรื่องกระทบกระทั่งกันในซอย จนทำให้น้องชายถูกนายนิด ใช้ที่ตักขยะตี ตนเองจึงพาน้องชายกลับมาที่บ้าน และมานั่งดื่มกินกันต่อ ก่อนจะออกไปรับแฟนสาว ก่อนเกิดเหตุขึ้น

ในส่วนของทางคดี ตนเองยังไม่ทราบรายละเอียดว่า ตำรวจดำเนินการไปถึงขั้นตอนใด แต่อยากให้ทุกคนที่ร่วมก่อเหตุดังกล่าวเข้ามามอบตัว และรับโทษตามกฏหมาย

แต่ในส่วนของกลุ่มผู้ก่อเหตุ เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลอยู่ในชุมชนซึ่งมีทั้งอาวุธปืนและมีดมาก่อเหตุต่างๆ ในชุมชน ถึงอยากให้ได้รับโทษทางคดี

ขณะที่ในส่วนของนายนายธนะวัฒน์ สันทัด หรือ เบล อายุ 37 ปี เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุได้เล่านาทีระทึกให้ทีมข่าวฟังว่า หลังจากที่มีการเดินติดตามหน่อยนิดเข้าไปในซอยเพื่อเจรจาเคลียร์ปัญหาก็ได้พบกับนายแป๊บ หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ ซึ่งขณะนั้นยืนยันว่า ไม่ได้มีปากเสียงกับนายแป๊ก หรือคนอื่นๆ มีเพียงนายนิด ที่กลุ่มตนเองต้องการเจรจาด้วย แต่ไม่สามารถเจรจาได้แ ละเพื่อนของตนเองที่เป็นผู้เสียชีวิต ถูกน้อยนิดทำร้ายด้วยที่ตักขยะ

พี่โฟล์คจึงพาทุกคนกลับมาที่บ้าน ก่อนที่พี่โฟล์คจะแยกตัวออกไปหาแฟนสาว ในเวลาต่อมาไม่นาน ประมาณ 5 นาที กลุ่มผู้ก่อเหตุนำโดยนายแป๊กและนายนิด ได้ยกพวกมาที่จุดเกิดเหตุเมื่อมาถึงก็เรียกเฟียส (ผู้เสียชีวิต) ออกมา และเริ่มทำร้ายร่างกาย

ก่อนที่นายเดี่ยวจะวิ่งมาก่อเหตุ ยิงเพื่อนของตนเอง ที่ล้มลงขณะการถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ตนเองยืนยันว่าเพื่อนของตนเองไม่ใช่คนที่มีปัญหากับใครโดยปกติ หากไม่รู้จักก็จะไม่ค่อยพูดจา รวมถึงไม่เคยมีเรื่องกับคนในชุมชนเพราะส่วนมากก็อยู่กับตนเองและกลุ่มเพื่อนๆ

ยอมรับว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็พร้อมที่จะพูดความจริงกับทางสื่อมวลชนและทางตำรวจ เพราะต้องการให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษทางกฏหมาย

ด้านพันตำรวจเอก ดนุภัทร ขวัญพสุมนต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ ระบุถึงความคืบหน้าของคดีว่า หลังเกิดเหตุได้จับกุมกลุ่มผู้ที่ก่อเหตได้แล้วหนึ่งคนคือ นายมานัส หรือ เดี่ยวผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิง นายวันฉัตร เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมก่อเหตุรุนแรงเคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่า และประกันตัวออกมาเพียงไม่กี่เดือน จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้นอีก

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ส่วนผู้ที่ร่วมก่อเหตุตำรวจทราบชื่อแล้วประมาณ 7-8 คน อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายเรียกเพื่อสอบปากคำซึ่งหากพบว่ามีผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น

แต่หากออกหมายเรียกแล้วไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็จะมีการพิจารณาออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป พร้อมกับยืนยันว่าที่มีกระแสเรื่องการขัดแย้งบ่อนการพนันนั้นจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีบอลการพนันในพื้นที่ แต่อาจจะมีการลักลอบเล่นกันเองภายในชุมชน ซึ่งตำรวจก็มีการกวดขันจับกุมมาโดยตลอด

โดยในช่วงสายวันนี้ ได้มีการเรียกทีมสืบสวนเข้ามาประชุมเร่งด่วนเพื่อติดตาม ความคืบหน้าทางคดีและติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีทั้งหมด ขณะที่ในส่วนของการสอบปากคำมีรายงานว่าตัวผู้ต้องหาให้การถึงว่ามีปัญหาส่วนบุคคลกับทางผู้เสียชีวิต และไม่มีการซัดทอดถึงบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องในคดี ส่วนเรื่องการทำแผนขอปฏิเสธการทำแผนรวมทั้งงานสอบสวน มีการคุมตัวไปส่งฝากขังในช่วงเช้าวันนี้

--------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/aYzuw4TofR0