ผบ.ตร. รู้ตัวผู้ก่อเหตุปล้นยาบ้า-ปืนของเจ้าหน้าที่ปกครองแล้ว ยืนยันไม่มีการจัดฉาก

ความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้ายกว่า 10 คน พร้อมอาวุธปืน บุกปล้นของกลางยาบ้าและอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ระหว่างเดินทางนำตัวผู้ต้องหาไปขยายผล ที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เมื่อคืนวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา


ล่าสุดพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วบางส่วน แต่ยังไม่ได้ออกหมายจับ อยู่ระหว่างให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า


แต่เบื้องต้นทราบว่า เป็นการปฏิบัติงานของปลัดอำเภอที่ใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เข้าจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด โดยไม่ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมจับกุม แต่เมื่อถูกคนร้ายปล้นยาเสพติดและอาวุธปืนไปแล้ว จึงมีการแจ้งตำรวจในภายหลัง


ส่วนที่มีรายงานข่าวอ้างว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุอ้างตัวเป็นตำรวจเข้าไปปล้นนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว แต่ก็จะเร่งติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี และสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป หากมีตำรวจคนใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ยืนยันจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด


ส่วนประเด็นที่ผู้ก่อเหตุสามารถเข้าประชิดตัวเจ้าหน้าที่ และก่อเหตุไปได้โดยง่าย ขอให้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาที่ฝ่ายปกครองจับกุมก่อน โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก็ให้การเป็นประโยชน์ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ พร้อมยืนยันไม่ใช่การจัดฉากของตำรวจ


ขณะที่ปลัดมหาดไทย เผยสั่งตรวจสอบเหตุ “ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองสงขลา” ถูกแก๊งยาเสพติด ซ้อนแผนขณะล่อจับเอเย่นต์ค้ายาเสพติด เบื้องต้นได้รับรายงานจาก “ผู้ว่าฯสงขลา” แล้ว ชี้เป็นเหตุสุดวิสัย สั่งเร่งขยายผลจับกุมผู้ก่อเหตุ พร้อมกำชับนำมาเป็นบทเรียน แก้ไขจุดอ่อนให้รัดกุมมากขึ้น ลั่นทุกจังหวัด ยังเดินหน้าปราบยาเสพติดเข้มข้น


โดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา ถูกคนร้าย บุกชิงยาเสพติดและอาวุธปืน ขณะเข้าล่อซื้อยาเสพติดจากเอเยนต์ค้าในพื้นที่ อ.รัตนภูมิ ว่า หลังเกิดเหตุ ตนได้สั่งให้ตรวจสอบ และได้รับรายงานจาก นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ที่ทำหนังสือชี้แจงแล้ว ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นไปตามข่าวที่ออก


ทั้งนี้ชุดปฏิบัติการชุดนี้ ที่ผ่านมามีผลงานดีมาโดยตลอด ครั้งแรกประสบความสำเร็จในการล่อซื้อยาบ้าจำนวน 2 หมื่นเม็ด พร้อมตัวผู้ต้องหา จากนั้นได้ขยายผล ติดต่อซื้อจากผู้ค้ารายใหม่ เป็นยาไอซ์ และนัดส่งมอบ พร้อมจับกุม ปรากฏว่า ถูกซ้อนแผนดังกล่าว แต่ตัวผู้ต้องหาที่จำหน่ายยาบ้ายังอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่อยู่ เชื่อว่าจะมีเบาะแส ร่องรอยให้ขยายผลไปได้


“นี่เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า เป็นเหตุสุดวิสัย ถามว่าทีมนี้ประสบการณ์น้อยไหม ยืนยันว่าเป็นทีมคุณภาพ มีผลงานปราบปรามยาเสพติดมาก แต่ปัจจัยเสี่ยงของพวกเรา คือ กำลังพลน้อย และข้อจำกัดเรื่องอาวุธ เครื่องมือสื่อสาร ทำให้คนร้ายฮึกเหิม เพราะรู้สภาพทีมของเรา มีกำลังไม่เยอะ ดังนั้นย้ำว่า เมื่อเราทำงานสำเร็จ นำมาเป็นบทเรียน และเมื่อทำงานผิดพลาด หรือล้มเหลว มีเหตุขัดข้อง ก็ต้องนำมาถอดบทเรียน แก้ไขจุดอ่อน ปรับปรุงในการทำงานให้รัดกุมมากขึ้น”


ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสืบหาข้อเท็จจริงของคดี เบื้องหน้า เบื้องหลัง ให้รอบคอบสมบูรณ์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่อไป


อย่างไรก็ตาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงตนเอง ได้ให้กำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่ เราต้องดูแลคนทำงาน


ขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ กับทุกจังหวัด ในการเพิ่มความระมัดระวังในการทำงาน แต่ยืนยันว่า พวกเราชาวมหาดไทยทุกจังหวัด ยังคงมุ่งมั่นกับการสนองตอบต่อนโยบายรัฐบาล เพื่อเดินหน้าปราบปรามยาเสพติด อย่างเต็มกำลัง


ขณะที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตกรณีกลุ่มคนร้ายบุกปล้นยาเสพติดของกลาง ที่จังหวัดสงขลา ว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังประกาศสงครามกับยาเสพติด หรือยาเสพติดประกาศสงครามกับรัฐบาล และเหตุใดจึงไม่มีประสานไปยังกำลังพลส่วนอื่นทั้งทหาร และตำรวจในพื้นที่ เพื่อร่วมกันวางแผนให้รอบคอบรัดกุมก่อนปฏิบัติการ หากมองว่ากำลังพล อส.ในพื้นที่มีไม่เพียงพอ หรือเป็นการสั่งสัญญาณ หรือเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มค้ายาเสพติดหรือไม่


นายณัฐชา กล่าวด้วยว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ภาครัฐก็จะอ้างกำลังพลและงบประมาณมีไม่พอ แล้วแบบนี้ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไร เพราะแม้แต่ของกลางที่จับมาได้แล้วยังถูกบุกชิงไปได้ ขณะเดียวกันส่วนกลางก็ควรมีการตั้งกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏทำให้ประชาชนเชื่อมั่น ไม่เช่นนั้นเท่ากับว่ายาเสพติดกำลังประกาศสงครามกับรัฐบาล