ตร.คุมแก๊งปล้นยา-ชิงปืนทำแผน อ้างถูกปลัด-อส.เรียกเงินสด 1 ล้าน

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 ต.ค. 65 พ.ต.อ.ศิริโกศล ปราบกรี ผกก.สภ.รัตภูมิ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชูดสืบสวน สภ.รัตภูมิ ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา เจ้าหน้า นปพ. ตำรวจภูธร จ.สงขลา และกลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตภูมิ รวมกว่า 30 นายควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายอัฟฟาน แก้วเรืองศรี หรือ บี, นายธีระวุฒิ หัวแหวน หรือ เลี่ยม, นายกัมปนาท หมัดอาด้ำ หรือ บังดล, นายเสริมศักดิ์ ศรีสุวรรณ และนายประวิทย์ ฤทธิ์เทวา หรือ นุ๊ก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุรวมทั้งหมด 6 จุด

โดยจุดที่ 1 เป็นจุดที่รวมตัวกินก๋วยเตี๋ยวกันที่บ้านเขาลูกลม ม.7 ต.เขาพระ จุดที่ 2 จุดที่เก็บขยะขึ้นหลังรถเก๋ง ที่บ้าน จุดที่ 3 แยกท่าชะมวง ม.3 ต.ท่าชะมวง จุดที่ 4 ปั๊มน้ำมันใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่มีการเรียนกรับเงินจำนวน 1 ล้านบาท พร้อมกับยาเสพติดทั้งยาบ้าและไอซ์ หลังจากได้โทรศัพท์ จึงได้เดินทางไปที่ จ.สตูล เพื่อพูดคุยกับทีมงานที่ก่อเหตุทั้งหมด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนที่จะวางแผนการปล้น และทำแผนไปจนถึงจุดที่ 5 ที่ลงมือก่อเหตุในพื้นที่ซอยศาลาเขียว หมู่ 11 ต.กำแพงเพชร และจุดที่ 6 ที่พารถยนต์ของปลัดหัวหน้าชุดไปฝากไว้ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.กำแพงเพชร ซึ่งการทำแผนทุกจุดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และผู้ต้องหาทั้ง 5 คน รับสารภาพ และให้ความร่วมมือบอกในรายละเอียดเกี่ยวกับการก่อเหตุในครั้งนี้ทุกอย่าง

จากการสอบถาม นายเสริมศักดิ์ ให้การอ้างว่า เหตุการณ์นี้พวกตนวางแผนชิงตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมยาบ้า เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการเจรจาต่อรองกับปลัด และ อส.ชุดนี้ โดยมีการเรียกเงินสด 1 ล้านบาท พร้อมกับยาบ้า 100 มัด และยาไอซ์ 10 กิโลกรัม และต่อรองเหลือแค่เงินสด 3 แสนบาท แต่พวกตนไม่มีเงินมาจ่าย จึงร่วมกันวางแผนชิงตัว ซึ่งตอนที่มีการเจรจากันนั้น พวกตนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ คิดว่า เป็นโจร และมารู้ขณะลงมือก่อเหตุว่า ที่แท้เป็นปลัด และ อส. และพวกตนก็ไม่ได้ต้องการที่จะชิงยาบ้าแต่อย่างใด ทั้งนี้ พวกตนอยากบอกให้สังคมรับรู้ถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐชุดนี้ที่เรียกรับผลประโยชน์ เพราะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐเสื่อมเสีย

ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ได้สรุปความคืบหน้าคดีนี้ ล่าสุดออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 9 คน จับกุมได้แล้ว 5 คน และยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมอีก 4 คน ประกอบด้วย นายประทีป หลงบุญขวัญ, นายวรพจน์ นวลละออง หรือ บ่าว, นายเดโช บูรเพ็ชร หรือ หนุ่ม และนายโชคนิมิต จิตรการุน หรือ จ๊อด ส่วนของกลางเจ้าหน้าที่ยึดกลับมาได้เกือบทั้งหมดแล้ว ประกอบด้วย รถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 3 คัน อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 3 กระบอก เป็นปืน M4 จำนวน 1 กระบอก และ ปืนพกสั้น 9 มม. จำนวน 2 กระบอก รวมทั้งยาบ้า 20,000 เม็ด เหลือเพียงอาวุธปืนพกสั้น 9 มม. ของเจ้าหน้าที่ 5 กระบอก เป็นปืนส่วนตัว 1 กระบอก และ ปืนหลวง 4 กระบอก