คนร้ายอุกอาจ บุกปล้นไอซ์-อาวุธเจ้าหน้าที่ ขณะกำลังทำการล่อซื้อ

วันนี้ (19 ต.ค. 65) ได้เกิดเหตุอุกฉกรรจ์ขึ้น เมื่อแก๊งค้ายาเสพติดจำนวน 20 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกชิงยาเสพติด และอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายปกครอง จ.สงขลา ขณะเข้าล่อซื้อยาเสพติดจากเอเย่นต์ค้ายาในพื้นที่ อ.รัตภูมิจ.สงขลา ได้อาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ไป 5 กระบอก พร้อมรถเก๋ง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และยาบ้า 10 มัด แต่ไม่ได้ตัวผู้ต้องหาไป


โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.45 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณทางเข้านิคมร่วมพัฒนา หรือ ศาลาเขียว พื้นที่ หมู่ 11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา


สำหรับเหตุการณ์นี้เริ่มจากเมื่อเวลา 21.30 น. คืนวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ทางจ่าเอก ไพรัช แก้วมณี เจ้าพนักงานปกครอง รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายปกครอง จ.สงขลา พร้อม อส.อีก 5 นาย ประกอบด้วย อส.เลิศฤทธิ์ ไชยพฤกษ์กุล , อส.พิษณุ รัตนอุไร , อส.อดิศักดิ์ หวังนิ , อส.เฉลิมศักดิ์ ทองแวัง และ อส.สุทธิพงษ์ สุวรรณชาตรี


ได้ทำการล่อซื้อยาบ้าจาก นายธนกร อายุ 35 ปี ชาว จ.เชียงราย ได้ของกลางยาบ้าจำนวน 10 มัด ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านควนสะตอ หมู่ที่ 3 ต.ท่าชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และได้ให้ นายธนกร ทำการล่อซื้อยาเสพติด ซึ่งเป็นไอซ์อีกจำนวน 8 กิโลกรัม จาก นายดำ ซึ่งไม่ทราบชื่อสกุลจริง อยู่ที่ จ.สตูล


โดยนัดส่งมอบของกันในเวลา 19.45 น. ของวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่บริเวณแยกศาลาเขียว พื้นที่ หมู่ที่ 11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ โดยใช้รถ 2 คัน และ จ่าเอกไพรัช กับ อส.อีก 4 นาย เดินทางไปกับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตชูบิชิ รุ่นมิราช สีดำ ทะเบียนกทม. และให้ อส.สุทธิพงศ์ ควบคุมตัว นายธนกร ผู้ต้องหา ไปกับรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูชุ สีดำ ทะเบียนเชียงราย ซึ่งเป็นรถของผู้ต้องหา


แต่เมื่อไปถึงจุดนัดพบปรากฏว่า มีรถยนต์ 4 คัน ประกอบด้วย รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซุชุ แคป สีบรอนซ์ มีรั้วกั้นด้านหลัง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน คันที่ 2 รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยด้า รุ่นยาริส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รวมทั้งรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนต้า รุ่นแจ๊ส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และ รถยนต์กระบะ ไม่ทราบยี่ห้อ สี และไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาจอดรถปิดล้อมรถคันของ จ่าเอกไพรัช


ต่อมามีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 20 คน มีอาวุธปืนพกสั้นทุกคน และมีอาวุธปืนยาว M4 จำนวน 1 กระบอกลงมาจากรถ แล้วบังคับให้ทุกคนลงจากรถ ให้ถอดเสื้อ และปลดอาวุธปืนพกประจำกาย ประกอบด้วยอาวุธปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ซึ่งเป็นของ จ่าเอกไพรัช รวมทั้งอาวุธปืนพกสั้น 9 มม. อีก 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ของ อส. ที่เหลือด้วย


จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า เป็นหน่วยใด จ่าเอกไพรัช จึงแจ้งว่า เป็นเจ้าหน้าที่มีบัตร ป.ป.ส. และส่งบัตร ป.ป.ส. ให้คนร้ายดู ก่อนที่ทางกลุ่มคนร้ายอ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตภูมิ และให้ จ่าเอกไพรัช กับพวกรวม 5 คน ขึ้นรถยนต์กระบะคันที่มีรั้วกั้น แล้วขับรถออกมาประมาณ 50 เมตร


ก่อนที่คนร้ายจะให้ จ่าเอกไพรัช กับพวก ลงจากรถ แล้วขับรถหลบหนีไป พร้อมกับขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราช สีดำ ทะเบียนกทม. ของ จ่าเอกไพรัช ไปด้วย ซึ่งในรถมียาบ้าของกลางจำนวน 10 มัด และยังนำอาวุธปืนพกสั้นของเจ้าหน้าที่จำนวน 5 กระบอก และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง หลบหนีไป


ส่วนนายธนกร ผู้ต้องหานั้น กลุ่มคนร้ายไม่ได้ตัวไป เพราะอยู่ในรถอีกคัน แต่ยังไม่แน่ชัดว่า กลุ่มคนร้ายจะพยายามจะบุกชิงตัวผู้ต้องหาไปด้วยหรือไม่ หรือต้องการเอายาเสพติดเพียงอย่างเดียว


ขณะที่ อส.สุทธิพงษ์ ที่อยู่ด้านหลัง และกำลังควบคุมตัวผู้ต้องหาอยู่นั้น เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว จึงขับรถมาแจ้งเหตุที่ สภ.รัตภูมิ ทางตำรวจ สภ.รัตภูมิ จึงนำกำลังไปช่วยชุดของ จ่าเอกไพรัช กับพวก ออกจากที่เกิดเหตุ และพามาที่ สภ.รัตภูมิ และแจ้งความร้องทุกข์


ล่าสุดในวันนี้ (19 ต.ค. 65) ที่ สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา ทางตำรวจชุดสืบสวน ภาค 9 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา นำโดย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการสืบสวน ภาค 9 พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผู้กำกับการสืบสวนภูธร จ.สงขลา พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พ.ต.อ.ศิรโกศล ปราบกรี ผกก.สภ.รัตภูมิ และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้ลงพื้นประชุมสรุปเหตุการณ์ และวางแนวทางการสืบสวนล่าตัวคนร้าย


นอกจากนี้ยังได้ควบคุมตัว นายธนกร มาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมด้วย เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายทั้ง 20 คน เพราะเชื่อว่า น่าจะรู้จักกับกลุ่มคนร้าย และยังได้เชิญตัวจ่าเอกไพรัช พร้อม อส.อีก 5 นาย มาสอบสวนในรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย


ส่วนแนวทางการสืบสวนล่าตัวคนร้ายนั้น ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางทั้งหมด โดยแยกเป็น 4 เส้นทาง คือ เส้นทางท่าชะมวง-หาดใหญ่ เส้นทางท่าชะมวง-สตูล เส้นทางรัตภูมิ-คูหา และเส้นทางเข้าบ้านนิคมร่วมพัฒนา ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อที่สามารถแยกไปได้อีกหลายเส้นทาง


โดยแก๊งยาเสพติดแก๊งนี้เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด