อาชญากรรม

เก็บอัฐิลูกหลาน เหยื่อกราดยิง ใส่โกศเรียกกลับบ้าน - เตาไฟฟ้า เผาศพสุดท้าย พนักงานอบต.

โดย nattachat_c

12 ต.ค. 2565

100 views

บรรยากาศหลังฌาปนกิจร่าง ผู้วายชนม์จากเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู

เมื่อเวลา 05.30 น. (12 ต.ค.65) หลายครอบครัวเริ่มทยอยเดินทางมาดูกระดูกที่เชิงตะกอน โดยญาติเเต่ละรายมีการเตรียมโกศกระดูก พร้อมถาดอาหารคาวหวาน น้ำดื่ม นม ขนม ของเล่น รวมถึงน้ำเปล่าสำหรับล้างกระดูก

จากนั้น เวลา 06.00 น. เริ่มมีพิธีเก็บกระดูก โดยจะมีพระสงฆ์เป็นผู้เก็บกระดูกคนเเรก จากนั้นตามด้วยญาติๆ ซึ่งโดยใช้ผ้าตะเเกรงสีฟ้ากรองกระดูก นำไปล้างทำความสะอาด เมื่อทำความสะอาดกระดูกเสร็จเเล้วก็พรมด้วยน้ำอบน้ำหอม เเล้วนำใส่ห่อผ้าขาว ใส่หม้อดิน เเล้ววางเรียงกันบนเตาเผา ทั้ง 19 เชิงตะกอน เเละทำพิธีทางสงฆ์ ก่อนจะนำกระดูกบรรจุใส่โกศ

สำหรับการเก็บกระดูกเด็ก จากการสังเกตพบว่าทางญาติๆมีการใช้ไม้ไผ่เขี่ยเเละคีบ ซึ่งเป็นความเชื่อของคนในพื้นที่ ว่าการเก็บกระดูกจะต้องใช้การคีบหยิบจับ จะไม่สัมผัสกับมือโดยตรง เนื่องจากมองว่าเด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ เหมือนผ้าขาว ในระหว่างการเก็บก็จะมีการเรียกลูกหลานกลับบ้าน เเละพูดเป็นกุศโลบายว่าเเข็งเเรง กลับบ้านนะลูก, ขอให้ลูกหลานไปสู่สุคติ, ลูกหลานเป็นคนเก่ง เป็นคนแข็งแรง โดยจะเรียกเป็นภาษาอีสาน

“บักหล่าเอ้ย เมือบ้านเฮาเด้อลูก บักหล่าคือแข็งแรง เป็นผู้ฮู้ เป็นคนเก่ง”

จากนั้นญาติได้นำกระดูกทั้งหมดล้างน้ำ และพรมน้ำหอม น้ำอบ นำใส่หม้อดิน สำหรับครอบครัวที่จะฝังในวันนี้ ส่วนบางครอบครอบจะนำใส่โกศ และจะขึ้นไปบนศาลารวมกัน เพื่อทำพิธีอุทิศบุญกุศล ทำบุญ ถวายภัตตาหารเช้าเเด่พระภิกษุสงฏ์

ส่วนกระดูกของคุณครูที่ตั้งครรภ์ 8 เดือน ทางสามีบอกว่าจะเเบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนเเรกจะนำไปเก็บไว้บ้านภรรยา ส่วนที่สองจะนำไปเก็บไว้ที่บ้านสามี โดยจะเก็บรวมกันทั้งของคุณครูและลูก

ขณะที่บรรยากาศที่วัดศรีอุทัย มีการทำพิธีเผาร่างสุดท้าย โดยใช้เตาเผาไฟฟ้า เป็นร่างของนายวีรชน ที่เป็นพนักงานกองช่างของ อบต.อุทัยสวรรค์

บรรดาครอบครัว ญาติๆ เฝ้ารออยู่ที่วัดตลอดทั้งคืน เพราะการฌาปนกิจที่วัดศรีอุทัยมีทั้งหมด 9 ราย และต้องเป็นไปตามลำดับ

เมื่อเริ่มเคลื่อนร่าง มีตัวแทนครอบครัวโปรยข้าวตอกแตกนำทาง เป็นความเชื่อของคนอีสาน หมายความว่า โปรยทานว่ามีเกิดแล้วย่อมมีตายเป็นธรรมดา เมื่อตายแล้วก็ไม่สามารถฟื้นได้อีก เช่นเดียวกันกับข้าวตอก ที่คั่วแล้วนำมาหว่าน นำมาปลูกก็ไม่สามารถงอกเงยขึ้นมาได้ เปรียบดั่งสัจธรรมของชีวิต ตามด้วยพระสงฆ์เป็นถือสายสิญจน์โยงกับโลงศพนำส่งดวงวิญญาณ

เมื่อเคลื่อนร่างถึงหน้าเตาเผา ครอบครัวได้บอกกับเจ้าหน้าที่ก่อนว่า ให้รอหัวหน้างานของนายวีรชนก่อน หัวหน้าเขาอยากมาส่งดวงวิญญาณของลูกน้องเป็นครั้งสุดท้าย กำลังเดินทางมาจากอีกหมู่บ้านหนึ่ง

เมื่อมาถึงหัวหน้างานของนายวีรชน รีบปรี่เข้ามาไหว้ลาเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกล่าวลาด้วยน้ำตาว่า “ไปดีนะ เดี๋ยวงานที่ค้างไว้หัวหน้าสานต่อให้เอง” ขณะที่ครอบครัวอยู่ข้างเตาเผาแบบไม่ห่าง ซึ่งบรรยากาศนั้นเป็นไปด้วยความโศกเศร้า


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/9Tmkpnil2Js


คุณอาจสนใจ

Related News