อาชญากรรม

เลื่อนพิพากษาคดี "ลัลลาเบล" แม่เปิดใจยังทำใจต่อการจากไปไม่ได้

โดย paranee_s

13 ก.ย. 2565

246 views

วันนี้ (13 ก.ย.) ศาลอาญาธนบุรี นัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ในคดีการเสียชีวิตของ นางสาว ธิติมา หรือ ลันลาเบล พริตตี้สาววัย 26 ปี ที่ไปรับงานเอนเตอร์เทนแล้วดื่มเหล้ามากไป จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ในคอนโดมิเนียมของ นายรัชเดช หรือ น้ำอุ่น เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 โดยมีเพื่อน ๆ แก๊งบางบัวทองอีก 5 คน ที่เป็นจำนวนเลยคดีนี้ ใน 4 ข้อหา คือ

1.ซ่องโจร

2.พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย

3.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

4.กักขังหน่วงเหนี่ยว เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย


ด้านนาง ศุภมาส แม่ของลัลลาเบล เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย พร้อมเปิดใจว่า แม้จะผ่านไป 3 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถลืมหรือทำใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ ลูกสาวของลัลลาเบล ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ป.1 ยังพูดทุกวันว่า "แม่อยู่ในรูป แต่ออกมาไม่ได้"


ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ยอมรับว่าลำบากมากขึ้น จากเดิมที่ลัลลาเบลเป็นกำลังหลัก ตอนนี้ต้องอาศัยเงินจากการขายขนมมาดูแลหลาน


ส่วนเรื่องการฟ้องร้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายกับจำเลยทั้ง 6 คน นาย สุรเดช พจน์ยินดี ทนายความของแม่ลัลลาเบล บอกว่า ได้ยื่นฟ้องแพ่งต่อศาลแพ่งธนบุรีไปแล้ว โดยเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท เนื่องจากทางครอบครัวของลัลลาเบล ต้องขาดรายได้จุนเจือครอบครัว ค่าเล่าเรียนลูกสาวของลัลลาเบล และค่าอุปการะเลี้ยงดูบุพการี ซึ่งจะนำคำพิพากษาที่สิ้นสุดแล้วของคดีอาญา ไปประกอบการพิจารณาแก่ศาลแพ่งต่อไป


ด้านจำเลยทั้ง 6 คน ก็มาที่ศาลตามนัด แต่นาย รัชเดช หรือ น้ำอุ่น เมื่อลงจากศาล ได้เดินแยกไปออกทางประตูด้านหลังทันที โดยน้ำอุ่นบอกกับทนายความว่า ไม่อยากเจอนักข่าว ไม่อยาก


นาย เทพพิทักษ์ ทนายจำเลยกลุ่มบ้านบางบัวทอง เปิดเผยว่า ศาลได้เลื่อนคำพิพากษาอุทธรณ์ออกไป เนื่องจากคดีนี้มีรายละเอียดมาก และจำเลยแต่ละคนก็มีพฤติการณ์ในคดีต่างกัน ศาลจึงต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา เลื่อนเป็นวันที่ 17 มกราคม 2566


ซึ่งในส่วนของจำเลย ก็จะพยายามต่อสู้ในทั้งเรื่องของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ว่า ไม่ได้มีเจตนาทำให้เกิดเหตุจน "ลัลลาเบล" ต้องเสียชีวิต ส่วนเรื่องชดใช้ค่าสินไหมแก่โจทก์ ยืนยันว่า ทางฝ่ายจำเลยมีเจตนาที่จะมอบเงินดังกล่าวให้แก่ญาติผู้เสียหาย แต่ก็ต้องพิจารณาจำนวนเงินให้มีความเหมาะสมกว่านี้


สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 จำคุกนาย รัชเดช จำเลยที่ 1 ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย เป็นบทที่มีโทษหนักสุดให้จำคุก 8 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-6 ให้ลงโทษฐานเป็น ผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิดดังกล่าว จำคุกคนละ 5 ปี 4 เดือน และให้จำเลยทั้ง 6 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมแก่โจทก์รวม 748,660 บาท

คุณอาจสนใจ

Related News