หนุ่มเมียนมาปฎิเสธ ฆ่าโหดแท็กซี่ มัดมือ-ตีหัวทิ้งศพริมบ่อปลา อ้างฝีมือ 'บังซิก' พ่อค้ายารายใหญ่

รวบได้ทันควันหนุ่มชาวเมียนมา ผู้ต้องสงสัย ฆ่าโหดลุงขับแท็กซี่อายุ 63 จับมัดมือไพล่หลัง ใช้ของแข็งทุบหัว ทิ้งศพหมกริมบ่อปลา จังหวัดสมุทรปราการ ล่าสุดเจ้าตัวยังปฎิเสธ บอกไม่ได้ฆ่า

เหตุชาวเมียนมา ลวงฆ่าคนขับรถแท็กซี่ สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ ตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตอยู่ในซอยข้างโรงพยาบาลรามาธิบดีสมุทรปราการ ต.บางปลา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับแพทย์ และกู้ภัยฯ ที่บริเวณพงหญ้าริมบ่อปลา พบศพ นายมีชัย พันธุ์ชัย อายุ 63 ปี คนขับแท็กซี่ ชาวขอนแก่น ในสภาพท่อนลำตัวจมอยู่ในบ่อปลา ส่วนเท้าโผล่เหนือน้ำ แขนสองข้างถูกมัดมือไพล่หลังด้วยเชือกไนลอนสีเขียว ศีรษะมีรอยถูกมีดฟันและถูกตีด้วยของแข็งจนกะโหลกแตกยุบ ตามร่างกายมีรอยสักเต็มตัว ที่หน้าอกสักเสือเผ่น หลังสักรูปมังกร แขน หลังมือ และลำคอสักยันต์ คาดเสียชีวิตประมาณ 8-9 ชม.

สอบตรวจบริเวณจุดเกิดเหตุพบรอยล้อรถยนต์ขับเข้ามาเป็นทางยาว มีพยานให้ข้อมูลว่า ช่วงเวลา 02.30 น. ของวันที่ 27 สิงหาคม มีรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง คนขับรูปร่างสูง ผิวคล้ำขับเข้ามาในจุดเกิดเหตุ หลังทิ้งศพคนขับได้มาขอน้ำกินจากคนเฝ้าบ่อปลา จากนั้นก็ขับรถออกไปจนรุ่งเช้า ก็มีคนไปพบศพ

ด้านนายไพศาล สุขแสงเนตร อดีตกำนันตำบลบางปลา ให้การเพิ่มเติมว่า ขณะออกไปทำบุญที่วัด มีลูกน้องคนเฝ้าบ่อปลาโทรศัพท์มาบอกว่า เจอศพริมบ่อปลา ตนจึงรีบขับรถกลับมาดู พร้อมแจ้งผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของพื้นที่ช่วยประสานตำรวจมาตรวจสอบ แต่พอมาถึงพบว่า จุดพบศพไม่ใช่บ่อปลาของตน แต่เป็นของคนอื่นที่มีพื้นที่ติดกัน

ขณะที่ นางระเบียบ อายุ 43 ปี ญาติของผู้ตาย บอกว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. มีผู้ชายโทรศัพท์เข้ามาที่มือถือญาติเพื่อเรียกเงินจำนวน 20,000 บาท โดยขู่ว่าถ้าไม่ให้จะฆ่านายมีชัย จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้อง "โอ๊ย" ซึ่งตอนนั้นลูกชายของนายมีชัย ยังไม่ปักใจเชื่อเลยไม่ได้แจ้งความ จนกระทั่งเมื่อช่วงบ่ายจึงรู้ข่าวว่า นายมีชัย ถูกฆ่าตาย ซึ่งปกติรถแท็กซี่คันดังกล่าวจะขับกัน 2 คน นายมีชัย ขับกะกลางวัน ส่วนนายยอด ลูกชาย จะขับช่วงกลางคืน แต่ไม่รู้ว่าวันเกิดเหตุมีอะไรเกิดขึ้นถึงสลับเวรกัน ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง นายมีชัย กับ นายยอด ลูกชายนั้น ทั้งสองรักกันดี ไม่มีปัญหากัน ส่วนคนก่อเหตุที่จับกุมได้ยืนยันไม่เคยเห็นหน้า และไม่รู้ว่าทำไมรถแท็กซี่ของคนตายจึงไปอยู่ที่บางบัวทอง

ต่อมาตำรวจแกะรอยภาพวงจรปิด จนได้ภาพหลักฐาน รถแท็กซี่ของผู้ตายขับเข้าไปในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ตำรวจ จึงได้เข้าจับกุม นายซัน อายุ 42 ปี ชาวเมียนมา ภายในเพิงพัก หมู่บ้านบัวทองธานี หลังพบรถแท็กซี่ ของผู้ตาย เปื้อนโคลน โทรศัพท์มือถืออยู่กับ นายซัน และยังพบเสื้อสีขาวเปื้อนเลือด มีรอยฉีกขาด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะคุมตัว นายซัน ไปสอบสวนต่อที่ สภ.บางพลี พื้นที่เกิดเหตุ

และล่าสุดเมื่อเช้านี้ พนักงานสอบสวน เปิดเผยหลังสอบ นายซัน ว่า นายซันได้กล่าวอ้างถึงบังซิก ซึ่งเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวเมียนมา ในคืนวันเกิดเหตุได้นัดตนให้ไปรอที่ริมถนนย่านบางบัวทอง บอกจะมีงานให้ทำ ตนก็ไปรอตามนัด กระทั่งบังซิกนั่งรถแท็กซี่มากับ นายมีชัย แล้วบอกว่าจะไปส่งยากันที่ย่านคลองด่าน สมุทรปราการ แต่ระหว่างทาง บังซิก กับ นายมีชัย มีปากเสียงกันเรื่องค่ายาเสพติดที่ นายมีชัย ติดค้างบังซิกไว้ บังซิกจึงใช้มีดจี้นายมีชัยให้ขับรถเข้าไปในจุดที่เจอศพ จากนั้นบังซิกให้ตน ขับรถกลับไปรอที่บางบัวทอง ตนจึงขับกลับไป จากนั้นก็ไม่ทราบเหตุการณ์อะไรอีกเลย

ขณะที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ นายซัน เนื่องจากขัดแย้งกับพยานหลักฐานที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ และที่บ้านพักของ นายซัน อย่างไรก็ตามต้องรอผลการตรวจลายนิ้วมือแฝงที่รถของผู้ตาย และพยานหลักฐานอื่นๆ ว่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นอีกหรือไม่ ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/eWRGzmVR4Dw