อุกอาจ! 3 คนร้ายควงปืน จ่อยิงนร.เทคนิคดับก่อนถึงโรงเรียน เพื่อนเผยผู้ตายเรียนดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร

นักเรียนเทคนิคดุสิตถูกคู่อริต่างสถาบันตามไล่ทำร้าย ก่อนใช้วุธปืนยิงเสียชีวิตก่อนถึงโรงเรียนเพียง 300 เมตร ด้านเพื่อนผู้ตายระบุ คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ตามกันมา 3 คน คนก่อนจะวิ่งไล่ฟันและใช้ปืนปากกา ยิงเพื่อนเสียชีวิตต่อหน้า ส่วนแม่และพ่อ ผู้เสียชีวิตเดินทางมาดูศพลูกในจุดเกิดเหตุทำใจไม่ได้ร้องไห้ตะโกนเรียกลูกตลอดเวลา

เมื่อเช้านี้ เกิดเหตุวัยรุ่นชาย ถูกยิงภายในซอยระนอง 2 แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง ประมาณ 300 เมตร ที่เกิเหตุมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบภายหลังคือ เยาวชน อายุ 16 ปี (นายพงษ์ภีระ สงวนนามสกุล) เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยเทคนิคดุสิต ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวาทะลุอวัยวะสำคัญ ลักษณะบาดแผล สันนิษฐานถูกยิงในลักษณะของการจ่อยิงระยะประชิด ขนาดบาดแผลกว้าง 5 เซนติเมตร

จากการสอบถามเพื่อนกับผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ อยู่ในสภาพเสื้อเปื้อนเลือดของเพื่อน เล่าว่า เพื่อนลงรถเมล์มาจากบ้าน กำลังเดินเข้าโรงเรียน จากซอยทางด้านถนนพระราม 5 ตนเองจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ไปรับเพื่อเข้าโรงเรียนด้วยกัน ระหว่างนั้นได้มีกลุ่มคนร้าย 3 คนขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน แต่งกายมิดชิดใส่เท้าผ้าใบเสื้อเชิ้ตพร้อม สวมใส่หมวกกันน็อกมิดชิด ขี่เข้ามาทางถนนเทอดดำริ ผ่านหน้าโรงเรียนของตนเองมา

จากนั้นกลุ่มคนร้ายขี่มาประกบและถามว่า พวกตนเองเรียนที่ไหน ก็บอกไป จากนั้นกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธมีดจะเข้ามาทำร้าย พวกตนเองจึงป้องกันตัวและมีการต่อสู้กันก่อน จากนั้นในผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืน (ปืนปากกา) ยิงใส่เพื่อน จำนวน 1 นัดจนเพื่อนล้มลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากนั้นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปมุ่งหน้าถนนพระราม 5 เมื่อถามว่า มีคู่อริ ขัดแย้งกับใครหรือไม่ ก็บอกว่าเพื่อนที่เสียชีวิต เป็นคนเรียนดีไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน และไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นสถาบันไหนที่เข้ามาก่อเหตุดังกล่าว

ขณะที่แม่และพ่อของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ และเมื่อเห็นศพลูกก็ร้องไห้และตะโกนเรียกหนูตลอดเวลา ทีมข่าวได้สอบถาม นายชาญณรงค์ สุขโคตร อายุ 42 ปี พ่อผู้เสียชีวิต บอกว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาลูกตนเองก็ยกมือไหว้ออกมาโรงเรียนตามปกติโดยจะใช้วิธีการขึ้นรถเมล์มาเพียงลำพังจากบ้านที่ดินแดง แต่จะใส่ชุดปกติธรรมดามาโรงเรียนและเมื่อมาถึงก่อนจะเข้าโรงเรียนจะมีการเปลี่ยนชุดเปลี่ยนชุดนักเรียนเนื่องจากลูกเกรงว่าจะถูกทำร้ายระหว่างมาโรงเรียน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงและโหดร้ายขนาดนี้ขึ้นกับลูก

ส่วนลูกตั้งใจที่จะมาเรียนที่นี่ตนเองเคยจะให้ลาออกเพราะห่วงลูกเนื่องจากโรงเรียนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้งมาก่อนหน้านี้ แต่ลูกได้ไปขอร้องแม่เพื่อจะขอเรียนต่อ ตนเองจึงตามใจ แต่ไม่คิดว่า ลูกจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ ซึ่งรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ลูกต้องมาจากไปแบบนี้ และตนเองมีลูกเพียงคนเดียวด้วย

พันตำรวจเอก ไตรเทพ แพทย์รัตน์ ผู้กำกับการ สน.ดุสิต บอกว่า ผู้ตายซ้อนมอเตอร์ไซค์มากับเพื่อน จากถนนเทอดดำริ ตรงมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อมารอรับเพื่อนอีกคน ในซอยระนอง 2 แต่เมื่อมาถึงปรากฏว่า มีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ที่เป็นของผู้ก่อเหตุ ขี่มาประกบระยะประชิด ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิง ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะขี่มอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าออกไปทางถนนพระราม 5 ที่เกิดเหตุ พบมีปืน 1 กระบอกตกอยู่ เป็นปืนปากกา ขณะนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บไปเพื่อตรวจสอบหาความเชื่อมโยงว่าเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงหรือไม่ ส่วนเพื่อนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เบื้องต้นนำไปสอบปากคำที่ สน.ดุสิตแล้ว

ขณะที่พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ทั้งคู่อยู่ในภาวะโศกเศร้าเสียใจกับการสูญเสียลูกชายอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะแม่ของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในภาวะช็อคจนต้องให้ทีมแพทย์ปฐมพยาบาล และร่ำไห้ ครวญครางอาลัยแด่การจากไปของลูกชาย ได้มีการพูดอำลาลูกชายว่า ขอให้น้องภูมิไปสู่สุคติ ชาติหน้าขอให้เกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ได้มีการปิดกั้นห้ามเข้าออกซอยระยอง 2 และดำเนินการเก็บพิสูจน์ตรวจพยานหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุและศพผู้เสียชีวิต เบื้องต้นได้นำส่งไปตรวจชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

ด้านผู้อำนวยการวิทยาลัยเผย เบื้องต้นทราบเหตุการณ์ คนตายไม่พบมีคู่อริ แต่อจจะมีส่วนตัวมั้ยไม่รู้ เพื่อนขี่มารับเพื่อนด้วยกันก่อนไปโรงเรียน ตอนนี้ เพื่อนเอาไปสอบปากคำแล ยืนยันว่า เทคนิคไม่มีคู่ขัดแย้งกับใคร นักเรียบนร้อยละ 90 ไม่มีปัญหาใส่ชุดนักเรียนมาเรียนปกติ และที่ผ่านมาไม่มีเหตุมาก่อน นี่ถือเป็นครั้งแรก ต่อจากนี้การรักษาความปลอดภัยจะเพิ่มเข้มงวดขึ้น จัดครูเฝ้ากับตำรวจ แต่เมื่อเช้าเป็นจังหวะเครารพธงและเปลี่ยนเวรจึงเกิดเหตุ จะหารือเครือขายดูแลความปลอดภัย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qyZfVAMCCrA