แฉประเด็นใหม่ ‘ส่วยรถบัสท่องเที่ยว’ จ่าย ‘ขนส่งฯ-ตร.’ สูดสุดหลักแสนต่อเดือน

โผล่อีก! ผู้ประกอบการแฉ “ส่วยรถบัสท่องเที่ยว” ต้องควักจ่าย “ขนส่งฯ – ตำรวจ”เพื่อเลี่ยงตรวจสภาพรถทัวร์ หรือรถโดยสารไม่ประจำทาง หลักหมื่น - แสน ต่อเดือน

แหล่งข่าวซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจรถบัสให้เช่า เปิดเผยกับทีมข่าวอาชญากรรมว่า ในวงการธุรกิจรถบัสให้เช่าก็มีเรื่องของการจ่ายส่วยเช่นกัน แต่เป็นเรื่องของการดัดแปลงสภาพรถ แล้วเลี่ยงไม่ต่อทะเบียน / ไม่ต่อภาษี / ไม่ต่อประกันภัย / และการเอารถใหม่ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนมาวิ่งรับงานโดยใช้วิธีสวมทะเบียนรถเก่า ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละเจ้า ก็จะไปเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งขนส่งหรือตำรวจ ตามที่แต่ละเจ้าสามารถพูดคุยได้ แล้วเจ้าหน้าที่ที่รับเคลียร์จะไปประสานเคลียร์ต่อกับทุกหน่วยงาน "รายทาง" ให้ แต่การจ่ายส่วยแบบนี้จะไม่มีสติ๊กเกอร์ติด จะเป็นที่รู้กันในกลุ่มเจ้าหน้าที่เท่านั้น

ส่วนราคาที่ต้องจ่ายมีตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการแต่ละเจ้าว่ามีรถกี่คัน และการตกลงพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่รับเคลียร์ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว ราคาจะอยู่ที่ประมาณคันละ 1 หมื่นบาทต่อเดือน แต่ถ้าเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ มีรถจำนวนมากหลายสิบคัน ราคาต่อคันก็จะถูกลง เพราะเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บส่วยแบบราคาเหมา

พร้อมเปิดเผยว่า เรื่องส่วยรถบัสโดยสารเพิ่งเริ่มมีในช่วงที่โควิดระบาด เนื่องจากผู้ประกอบการมีรายได้ลดลง จึงไม่นำรถไปต่อทะเบียนหรือตรวจสภาพ แต่พอหลังสถานการณ์โควิดดีขึ้น ปัญหานี้ก็ลดน้อยลง แต่ยังมีผู้ประกอบการบางรายที่ยังเห็นแก่ตัว แอบไปเคลียร์ใต้โต๊ะ ตอนนี้มีประมาณ 10% ของตลาดรถบัสให้เช่าหรือราว 2,000 คัน จากรถในตลาดราว 2 หมื่นคันทั่วประเทศ

สอดคล้องกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ที่ยอมรับว่า มีการจ่ายส่วยรถ 30 หรือรถทัวร์จริง คันละ 1 หมื่นบาท เพราะรถเหล่านี้จะเป็นรถที่ดัดแปลงสภาพผิดกฎหมาย เช่น จดแจ้งว่ามี 30 ที่นั่ง แต่กลับต่อเติมจนมี 40 ที่นั่ง เจาะห้องโดยสารชั้นล่างทะลุกับห้องเก็บสัมภาระ เพื่อเพิ่มจำนวนที่นั่ง และในช่วงเทศกาลที่มีประชาชนเดินทางเยอะ เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ รถเหล่านี้จะมาวิ่งร่วมกับรถของ บขส.ด้วย หากจำนวนผู้โดยสารเยอะ หมายถึงเงินที่ได้ก็จะเยอะขึ้นไปด้วย

แต่การจะวิ่งรับส่งประชาชนได้ต้องผ่านการตรวจสภาพจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่งแน่นอนว่า หากนำรถไปตรวจสภาพไม่ผ่านแน่นอน การจะนำรถไปดัดแปลงสภาพให้ถูกต้องตามระเบียบก็ใช้เงินมาก จึงใช้วิธีจ่ายใต้โต๊ะแทน เพื่อให้ได้เอกสารครบและสามารถมารับงานได้ทันที และรถบางคันเจ้าหน้าที่ตรวจเจอว่าผิด ให้ไปแก้ไข และบันทึกลงระบบว่า "แจ้งซ่อม หยุดวิ่ง" แต่ผู้ประกอบการกลับเอาทะเบียนรถคันอื่นมาสวมแล้ววิ่งงานต่อ แต่ต้องจ่ายเงินเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้โดนจับระหว่างทาง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/62WB3QPHqzY