อาชญากรรม

รุ่นพี่แฉ สถานสงเคราห์สระบุรีลงโทษโหด จิกตบ-ให้อดอาหาร ชาวบ้านเผยได้ยินเสียงตวาดทุกวัน

โดย paweena_c

30 พ.ค. 2566

146 views

ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ในสระบุรี ทารุณเด็กกว่า 280 คน ทั้งมัดมือ กล้อนผม ล่าสุดปลัด พม.สั่งย้ายผู้ปกครองในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงแล้ว พร้อมดำเนินคดีพี่เลี้ยงเด็ก


จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวสถานสงเคราะห์ในจังหวัดสระบุรี ทารุณเด็กกว่า 280 คน ทางนายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยพลตำรวจตรี วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี นายเตือนใจ คงสมบัติ รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ร่วมประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริง

หลังจากประชุม พลตำรวจตรี วิชิต กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำเด็กไปบางส่วน ต่อสหวิชาชีพ ทราบว่า จุดเกิดเหตุเป็นบ้านหลังที่ 3 ชื่อ “บ้านทานตะวัน” ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวมีเด็กอาศัยอยู่ 40 คน โดยผู้ก่อเหตุเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ที่ดูแลเด็กในบ้านพักดังกล่าว สำหรับภาพเด็กที่ปรากฏ ถูกมัดมือมัดขานั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยพยานยืนยันว่าคนที่มัดเป็นเด็กโต 2 คน ซึ่งอยู่ในบ้านหลังนั้นจริง สาเหตุที่ลงโทษเนื่องจากเด็กกลุ่มดังกล่าวก่อเหตุทะเลาะกัน และหนีออกจากสถานที่พักอาศัย จำนวน 9 คน จึงถูกเรียกตัวกลับมาที่บ้านและถูกลงโทษ โดยรุ่นพี่จับมัดมือคู่กัน มัดปาก มัดเท้า และภาพที่เกิดขึ้น คือเด็กหญิงคนดังกล่าวปวดท้องเข้าห้องน้ำ รุ่นพี่จึงได้ช่วยอุ้มพาไปเข้าห้องน้ำ เเละมีรุ่นพี่อีกคนถ่ายรูปเก็บไว้

ครูพี่เลี้ยง ผู้ถูกกล่าวหา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำ แต่ยอมรับว่าเคยข่มขู่เด็ก ว่าถ้าทะเลาะกัน หรือออกนอกพื้นที่ที่กำหนด จะต้องถูกมัดมือ และต้องถูกลงโทษในลักษณะนี้ ซึ่งเด็กรุ่นพี่ทั้งสองคนก็ทำตามคำสั่งของพี่เลี้ยงที่เคยพูดไว้

ภายหลังครูพี่เลี้ยงเห็นภาพที่เด็กถูกมัดมือมัดเท้า แต่ก็ไม่ได้ให้การช่วยเหลือหรือตักเตือน แต่กลับสนับสนุนว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้อง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีแล้ว

ส่วนภาพที่เด็กไปนอนอยู่ในห้องน้ำนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงภายในห้องน้ำชั้น 2 โดยครูพี่เลี้ยง ผู้ถูกกล่าวหานั้น ให้การว่า เป็นกติกาของตัวเอง หากเด็กคนใดขับถ่ายเลอะที่นอนในช่วงกลางคืน ก็จะถูกลงโทษโดยให้ไปนอนในห้องน้ำ จนกว่าจะหยุดปัสสาวะรดที่นอน จึงจะให้กลับมานอนที่เดิม เพื่อเป็นตัวอย่างไม่ให้เด็กคนอื่นๆกระทำตาม

ส่วนกรณีข้อมูลของเด็กที่ระบุว่า มีเด็กหลายคนถูกลงโทษโดยการให้ลงไปแช่ในน้ำ กรณีนี้ครูพี่เลี้ยงยอมรับว่าเป็นกติกาที่ถูกกำหนดขึ้นในการที่จะลงโทษเด็กเล็ก หากดื้อหรือซน แต่จากการตรวจสอบที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีเด็กคนไหนเคยโดนลงโทษด้วยวิธีดังกล่าว แต่หากมีพยานหลักฐานก็จะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ทางตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อในคำให้การทั้งหมด อยู่ที่พยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมไปถึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ภายในสถานสงเคราะห์

ในส่วนของผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ ถ้าหากพบว่ามีพยานหลักฐานชี้ชัดว่าปล่อยปะละเลย หรือปล่อยให้เกิดเหตุการณ์นี้ก็จะถูกดำเนินคดีมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนครูพี่เลี้ยงผู้ถูกกล่าวหา จะมีการดำเนินคดี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 ความผิดเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพ เเละความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ส่วนข้อหาอื่นๆ ในเรื่องของการหน่วงเหนี่ยวกักขัง จะต้องดูพยานหลักฐานอีกครั้ง

ขณะที่นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัด พม. ได้มีคำสั่งย้ายผู้ปกครองที่ดูแลในสถานสงเคราะห์เด็กหญิง จังหวัดสระบุรี เป็นการลงโทษฐานปล่อยปละละเลย ทำให้เกิดเหตุพี่เลี้ยงกระทำทารุณกรรมเด็กในสถานสงเคราะห์

ขณะที่ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่ติดกับรั้วของสถานสงเคราะห์ โดยได้พูดคุยกับคุณแตงกวา กล่าวว่า เธอพักอาศัยและค้าขายอยู่ที่นี่มาร่วม 30 ปีแล้ว ซึ่งจะได้ยินเสียงเด็กทะเลาะกันข้ามรั้วออกมาเป็นประจำทุกวัน ทั้งเด็กโตและเด็กเล็ก บางครั้งผู้ปกครองก็จะออกมาตวาดหรือดุเด็กๆ โดยใช้คำพูด “กู มึง” บางครั้งเห็นบ่อยๆ ก็รู้สึกรับไม่ได้ เพราะรุนแรงเกินไป

คุณแตงกวา กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าว ทำให้รู้สึกสงสารเด็ก ไม่ควรจะต้องมัดมือมัดเท้า มัดปาก เธอไม่คิดว่าผู้ปกครองเป็นคนตั้งกฎกติกา คิดว่าสิ่งที่เด็กถูกกระทำ น่าจะมีบทลงโทษอย่างอื่นที่ดีกว่านี้

ล่าสุด ทีมข่าวเที่ยงวันได้พูดคุยกับนางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 24 ปี กล่าวว่า ตอนนั้นเธอเข้าไปอยู่ในสถานสงเคราะห์หญิงสระบุรี ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จนถึงอายุ 14 ขวบ ซึ่งปัจจุบันอายุ 24 ปีแล้ว ในช่วงที่เธออยู่ข้างในนั้น เคยถูกฉุดกระชากลากถูไปกับพื้น ถูกจิกหัว และผู้ปกครองเอารองเท้าตบหน้า ลงโทษเพียงแค่เธอนอนตื่นสาย ขึ้นรถไปโรงเรียนไม่ทัน ขณะเดียวกันเวลาร้องไห้ ก็จะถูกตีซ้ำๆ และจิกหัวตบแบบซ้ำๆ ทำให้รู้สึกเก็บกด อยากหลบหนีออกจากสถานสงเคราะห์

นางสาวบี กล่าวอีกว่า มีบางคนถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง ทนไม่ไหวถึงขั้นหลบหนี แต่ไปไม่รอด ถูกจับได้ ก็จะถูกทำร้ายร่างกาย และจับไปขังใต้บันได ให้อดข้าวอดน้ำ 2-3 วัน จนกว่าจะสำนึกได้ หลังจากนั้นจะให้ไปบำเพ็ญประโยชน์ เช่น ช่วงนั้นมีเขื่อนอยู่หลังหอพักก็จะให้ไปขนหินขนปูนกลางแดด ให้ถางหญ้ากลางแดด หากทำไม่เสร็จ ก็จะไม่ให้กินข้าว ทำโทษไม่รู้จักจบจักสิ้น นอกจากนี้ ยังลงโทษเด็กหลายวิธี ซึ่งการลงโทษนั้นจะมีหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ตักเตือน ไปจนถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกาย

นางสาวบี กล่าวว่า เธอเห็นข่าวในทีวี ทำให้มีผลต่อสภาพจิตใจเป็นอย่างมาก เพราะทำให้ย้อนเหตุการณ์ที่ถูกผู้ปกครองเอารองเท้าตบหน้า ดูข่าวไปน้ำตาก็ไหล ไม่คิดว่ายังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่ในสถานสงเคราะห์

นอกจากนี้ เธอยังฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการเปลี่ยนแปลงในองค์กรด้วย เนื่องจากระยะเวลาผ่านไปไม่รู้กี่รุ่นถึงกี่รุ่นแล้ว ก็ยังมีสภาพเหมือนเดิม ไม่อยากให้มีบทลงโทษที่รุนแรง เนื่องจากสงสารเด็กที่ถูกกระทำ


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vOHGcr5wGtU

คุณอาจสนใจ

Related News