'พิ้งกี้' คัมแบ็กวงการบันเทิง ออกงานแรกบวงสรวงหนัง ปรากฏตัวลุคผมสั้น หลังปล่อยตัวชั่วคราว

'พิ้งกี้' ดาราสาว คัมแบ็กวงการบันเทิงแล้ว ออกงานแรกหลังปล่อยตัวชั่วคราว ปรากฏตัวร่วมพิธีบวงสรวงภาพยนตร์ ลุกส์ผมสั้น


โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา "พิ้งกี้ สาวิกา" หลังจากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากการตกเป็นผู้ต้องหาคดีใหญ่แชร์ลูกโซ่ Forex 3D โดยหลังออกจากเรือนจำไม่ปรากฏตัวออกงานไหนมาก่อน ล่าสุดวันนี้ถือเป็นงานแรกของสาวพิ้งกี้


โดย พิ้งกี้ เดินทางมาร่วมในพิธีบวงสรวง ภาพยนตร์ เรื่อง "กุมาร" ที่ ศิวาลัยสถาน สวนลุมไนท์บาร์ซา แยกรัชดา-ลาดพร้าว ท่ามกลางแฟนคลับและคนในวงการที่ตื่นเต้นกับการมารับงานครั้งนี้ของสาวพิ้งกี้ ทั้งนี้ พิ้งกี้ มาในลุกส์ผมสั้นสวย สดใส


โดยหลังจากเสร็จร่วมบวงสรวงละคร พิ้งกี้ กล่าวว่า ไม่ตื่นเต้นมาก ก็เรียกได้ว่าปรับตัวมาสักระยะหนึ่งแล้วก็ชินบรรยากาศยังเหมือนเดิม ทุกคนยังน่ารักเหมือนเดิม สภาพจิตใจตอนนี้ก็เหมือนเรียกว่าไปปฏิบัติธรรมมา แต่ตัวกี้เองก็คือตัวกี้เองแหละ แต่เรียกได้ว่ามันเป็นวัฏจักรเหมือนเราได้เข้าไปเรียนรู้ชีวิตและได้ไปพบเจออะไรบางอย่าง ประสบการณ์สุดโต่งคิดว่าแบบนั้นค่ะ


พิ้งกี้ ยังบอกอีกว่า จริงๆวันนี้ก็ถือว่าเป็นการรวมตัวเพราะเราไม่ได้ออกสื่อเลยตั้งแต่เราถ่ายละครและไม่ได้มาเจอไม่ได้มาพูดคุยกันตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็นานมากแล้ว ก็รู้สึกว่าวันนี้พูดทีเดียวเลยแล้วกันพูดไปให้หมด"


ไม่ได้กดดัน เพราะเราก็คือคนทำงาน ตราบใดที่เราศรัทธาและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเป็น กี้เชื่อว่าความจริงมันเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แล้วต้องบอกว่าเราก็เป็นคนที่เป็นแบบนี้ ทำงานมาตลอด จะพูดว่าเราไม่ใช่คนที่ไปเบียดเบียนใครเพราะฉะนั้นบางทีชะตากรรมมันก็พัดพาสิ่งที่ ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในชีวิตเรา แต่อยู่ที่ว่าเราจะตั้งรับและมองมันยังไงให้เป็น ซึ่งวันนี้ก็ถือว่าเหมือนสร้างละครเรื่องหนึ่งค่ะ"


ส่วนที่ถามว่าตั้งรับได้ขนาดไหน ก็เหมือนทุกคนแหละเวลาเจอปัญหาเราก็ไม่คิดว่าชะตามันจะตกแต่งสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นให้กับเรา ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คือพี่ปิ๊ก (ทนายความ) ก็คือคนที่เป็นทนายให้เราตามกฎหมายแล้วพี่ปิ๊กจะพูดได้มากที่สุด"


พิ้งกี้ บอกว่า จริง ๆ อย่างที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว เวลาที่เราเจอปัญหาอะไรที่หนักๆ เราต้องบอกว่าเราต้องศรัทธาตัวเองก่อนและรักตัวเองให้มากที่สุดกกี้ว่าความจริงมันก็คือความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้ว เราก็สู้ตามกระบวนการกฎหมายตามที่มันเป็น ถามว่ากังวลใจในกระบวนการไหม ในพาร์ทของการถูกกล่าวหาเราก็สู้ตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อเราได้ถูกกล่าวหา เราก็ต้องสู้และเราก็รอว่าความจริงกับสิ่งที่เป็นความยุติธรรม เราเชื่อว่ามันจะรอเราอยู่ที่ปลายอุโมงค์ เราคิดว่ามันรออยู่ตรงนั้น เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ต้องแพนิค ไม่ต้องตกใจ วันนึงเดี๋ยวมันจะพิสูจน์เอง ก็มั่นใจและเชื่อในความเป็นตัวเองของตัวเราเองและศรัทธาในตัวเอง


นอกจากนี้ พิ้งกี้ ยังพูดถึงคุณแม่ว่า กำลังใจของคุณแม่ดีมากค่ะ กี้ก็ส่งพลังให้แม่ไป ด้วยตัวเราต้องเดินหน้าทำงานต่อเพราะว่าคุณแม่ก็เซนซิทีฟและโมเมนต์ของคนแก่กับเราเราก็เป็นนักสู้มากกว่าก็ต้องสู้ต่อไปนะคะ"


ขอบคุณสำหรับทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้มากค่ะ จริงๆต้องบอกว่าพอกี้มาตรงนี้จะไม่ค่อยได้เสพอะไรมากนัก ไม่สามารถตามโซเชียลได้เลยเพราะเข้าไปข้างในนานก็เลยอาจจะดีเลย์นิดหนึ่งก็ต้องบอกไว้เลยว่าช้ากว่าคนอื่นเหมือนกัน"


ถามว่าให้กำลังใจตัวเองยังไงบ้าง ก็ช้าๆค่อยค่อยเป็นค่อยค่อยไปยังไงก็เป็นแบบนี้แหละ อยู่ที่มุมมองของเราแล้วกันที่จะเป็นตัวที่จะช่วยเราให้เราตั้งรับกับเรื่องต่าง ๆ ได้"


สำหรับคนที่วิพากษ์วิจารณ์เราห้ามไม่ได้หรอกค่ะมันเป็นธรรมชาติ ธรรมดาอาจจะใช้คำว่าเราห้ามให้เขาผายลมไม่ได้ เหมือนเราห้ามให้คนได้เรอไม่ได้ เป็นสิ่งที่เขาระบายออกมาและเราเคารพในมุมมองของแต่ละคนมันเป็นธรรมชาติ


ส่วนประเด็นเรื่องขายบ้าน ได้ขายไปนานแล้ว และอยากขอขอเคลียร์ประเด็นที่คุณแม่เล่นการพนัน ยืนยันคุณแม่ก็ไม่ได้เล่นการพนันใดใด ส่วนบ้านก็ขายไปนานมากแล้วและบ้านหลังนั้นก็คือบ้านของคุณพ่อคุณแม่เราเป็นคนซื้อให้คุณพ่อคุณแม่


ด้านนายทรงพล อันนานนท์ ทนายความเผยว่า "จริง ๆ มันเป็นเรื่องของคดีอาญาก็เป็นเรื่องกระบวนการในชั้นศาล ศาลเองก็ได้มีการนัดสืบพยานเอาไว้แล้วที่เหลือก็รอขั้นตอนกระบวนการ คดีจะเริ่มพิจารณาไนเดือนสิงหาคมปีนี้ในศาลชั้นต้น และจะจบในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และหลังจากนั้นอีกประมาณสองถึงสามเดือนก็คงจะมีคำพิพากษาออกมา ส่วนจะมีในเรื่องของการอุทธรณ์หรือฎีกาหรือเปล่า ก็คงต้องรอดูกันอีกทีครับ ตอนนี้พิ้งกี้ก็สามารถทำงานได้ตามปกติ ในส่วนของคุณแม่เองทางเราก็กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่อศาลเพื่อขอให้ปล่อยตัวชั่วคราว ท่านก็ไม่ได้เครียดอะไร"

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ :  https://youtu.be/v9VnkzV7QMY