สังคม

ปล่อยตัวชายขโมยลูกชิ้น หลังฝากขังครบ 48 วัน - เจ้าของร้านวอนเข้าใจ ยันขอถอนแจ้งความแล้วแต่ไม่ได้

โดย thichaphat_d

13 ก.ค. 2567

129 views

จากกรณีนายบุญเที่ยง อายุ 50 ปี ถูกตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ จับกุมในข้อหาลักทรัพย์ ร้านลูกชิ้น ต่อมามีการนำเสนอข่าวว่าพนักงานสอบสวนจำใจต้องสรุปสำนวน และนำผู้ต้องหาส่งอัยการตามขั้นตอน

ทำให้โซเชียลต่างวิพากวิจารณ์ต่อว่าเจ้าของร้านลูกชิ้นเป็นจำนวนมาก เพราะมูลค่าลูกชิ้นที่ถูกขโมยไปเพียง 300 บาททำไมต้องแจ้งความดำเนินคดี และบางคนถึงขั้นบอกว่าจะไม่อุดหนุนลูกชิ้นร้านนี้อีก

วานนี้ (12 ก.ค.) น.ส.ณิชชาวีณ์ เจ้าของร้านลูกชิ้นที่ถูกขโมย และเป็นผู้เสียหาย ก็ได้ออกมาเปิดใจ และชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์ที่มีคนมาขโมยลูกชิ้นหน้าร้านเกิดขึ้นเวลาประมาณ 21.39 น. วันที่ 24 พ.ค.67 ซึ่งเป็นลูกชิ้นที่ลูกค้าสั่งซื้อไว้ 2 ถุงและจ่ายเงินให้กับทางร้านแล้ว

โดยทางร้านได้วางถุงลูกชิ้นไว้ให้ลูกค้าบนโต๊ะหน้าร้าน เพราะลูกค้าจะมารับเพื่อนำไปทอดขายตอนกลางคืน แต่พอลูกค้ามารับเหลือลูกชิ้นแค่ถุงเดียวจึงติดต่อมาทางร้าน เมื่อเปิดกล้องดูก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งขี่ จยย.มาขโมยไป ต่อมาวันที่ 25 พ.ค.67 ก็นำหลักฐานไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้รู้เลยว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครฐานะอย่างไร

กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 25 ก.ค. ตำรวจชุดสืบสวนแจ้งว่าสามารถจับกุมตัวคนที่ขโมยลูกชิ้นได้แล้ว ให้ตนไปชี้ตัวที่โรงพัก ซึ่งตำรวจชุดสืบก็ยังบอกกับตนเองว่าตอนไปจับกุมเห็นสภาพบ้านของผู้ก่อเหตุยากจนมาก พร้อมกับเอารูปถ่ายให้ดูด้วย แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เจอตัวผู้ก่อเหตุ

กระทั่งตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุมาถึงโรงพัก ก็ติดต่อให้ตนไปชี้ตัวผู้ต้องหาอีกครั้ง พอตนเห็นสภาพผู้ก่อเหตุก็รู้สึกสงสารไม่อยากเอาเรื่อง พอกลับมาถึงบ้านร้อยเวรฯ ก็ยังโทรศัพท์มาสอบถามว่าจะดำเนินการอย่างไร ตนก็แจ้งกับร้อยเวรฯ ไปว่าขอถอนแจ้งความเพราะสงสารไม่อยากเอาเรื่อง ก็คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว

แต่ต่อมาสักพักร้อยเวรฯ โทรมาแจ้งว่าผู้บังคับบัญชาบอกว่า ถอนแจ้งความไม่ได้เพราะเป็นคดีอาญาแผ่นดิน และเกรงจะไปก่อเหตุอีก ตำรวจก็จะโดนฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย ดังนั้นทางตำรวจจึงต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน

กระทั่งมีการออกข่าวล่าสุดว่าตำรวจนำสำนวนและผู้ต้องหาส่งอัยการ โดยที่ไม่มีข้อมูลของทางร้านเลย นำเสนอแค่ฝ่ายเดียว ทำให้ร้านโดนทัวร์ลงกระทบกับการค้าขายและสภาพจิตใจ ทั้งที่เป็นผู้เสียหาย จึงอยากให้สื่อนำเสนอให้รอบด้าน และฝากถึงโซเชียลให้ฟังทุกฝ่ายก่อนเมนต์ ก็ขอให้เห็นใจทางร้านด้วย เพราะการค้าขายก็มีต้นทุน แต่ที่ผ่านมาก็ร่วมกับญาติพี่น้องตอบแทนสังคม ด้วยการจัดโรงทานเลี้ยงผู้ยากไร้เป็นประจำทุกปี

ขณะที่เมื่อเวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว นายบุญเที่ยง หรือธง พิทักษ์พันธุ์ อายุ 50 ปี ที่ถูกฝากขังครบ 4 ผัด หรือ 48 วันที่ผ่านมาแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) เป็นวันครบวันฝากขังเป็นวันสุดท้าย

โดยบรรยากาศที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ตั้งแต่ตอนเช้า ได้มีคนเข้ามาสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักที่ไปเฝ้ารอความเคลื่อนไหว จนกระทั่งตอนเย็น ศาลได้สั่งให้ปล่อยตัวนายบุญเที่ยง เป็นการชั่วคราวโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน เพราะได้มีการฝากขังครบ 48 วันประกอบกับทรัพย์ของผู้เสียหายมีมูลค่าไม่มากคือ 300 บาท โดยญาติเป็นผู้ทำสัญญาต่อศาลรับรองความประพฤติของผู้ต้องหา

ทันทีที่นายบุญเที่ยง ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำก็เดินเข้าไปกอดพี่สาวทั้งน้ำตาคลอด้วยความดีใจหลังถูกควบคุมตัวในเรือนจำ 48 วัน พร้อมทั้งได้ยกมือไหว้ประธานสภาทนายความและทีมงานทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ และได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าดีใจที่ได้รับการปล่อยตัว และรับปากจะไม่ทำแบบนี้อีก หลังจากนี้จะไปทำงานรับจ้างทั่วไปเพื่อดูแลแม่ป่วยติดเตียงและพ่อที่แก่ชราด้วย

โดยหลังจากศาลได้ปล่อยตัวนายบุญเที่ยง เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปส่งที่บ้านที่ ต.หนองกระทิง อ.ลำปลายมาศ ซึ่งเป็นบ้านของพ่อแม่ เมื่อไปถึงนายบุญเที่ยง ได้โผเข้าไปหาพ่อและแม่ด้วยความดีใจ

คำแรกจากนางอุย พิทักษ์พันธุ์ อายุ 89 ปี แม่นายบุญเที่ยง บอกกับลูกชายคือ “ประพฤติตัวให้ดีนะลูก”โดยนายบุญเที่ยง รับปากว่าหลังจากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว

โดยแม่ของนายบุญเที่ยง บอกว่า ดีใจที่ลูกได้ปล่อยตัว เพราะหลังจากที่รู้ว่าลูกถูกจับก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเป็นห่วงกลัวจะไม่ได้กินข้าวก็ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ ทั้งนี้แม่ยังย้ำกับลูกชายว่าอย่าทำแบบนี้อีก ให้ทำงานหากินสุจริตอย่าไปขโมยของใคร

ด้านนายวุฒิกาญจน์ กุลสุวรรณ ประธานสภาทนายความ กล่าวว่า หลังจากนี้สภาทนายความจะเข้ามาดูแลด้านข้อกฎหมาย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ กรณีนี้ถึงแม้จะมีโทษสูง แต่การก่อเหตุเป็นลักษณะทำไปด้วยความแร้นแค้น หากไม่เคยก่อเหตุมาก่อนศาลอาจจะเห็นใจพิจารณาในทางที่สมควร เพราะต้องมีภาระเลี้ยงดูพ่อแม่



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/oUE3ghvdElI

คุณอาจสนใจ

Related News