อาชญากรรม

‘อนุวัต’ ร้องกองปราบ ถูกใช้ภาพแอบอ้างเป็นพรีเซนเตอร์ แอปเงินกู้ ล่อเหยื่อหลงเชื่อกว่าร้อยราย

โดย chutikan_o

26 ม.ค. 2566

49 views

อนุวัต ร้องตำรวจ สอท. หลังถูกมิจฉาชีพ นำคลิปและรูปภาพไปแฝงในแอปเงินกู้ออนไลน์ หลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ พบมีเหยื่อกว่าร้อยคน โดยบางคนสูญเงินมากกว่า 1 ล้านบาท

หนุ่ม อนุวัต เฟื่องทองแดง ผู้ประกาศข่าว พร้อมด้วย ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. หลังหนุ่ม อนุวัต ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำรูปภาพและวิดีโอไปใช้ในการหลอกเพื่อกู้ยืมเงินสินเชื่อออนไลน์ ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อหลายร้อยคน

หนุ่ม อนุวัต กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายที่ถูกหลอก อินบ็อกเข้ามาหาเกือบทุกวัน จนถึงตอนนี้รวบรวมผู้เสียหายได้กว่าหลายร้อยราย สาเหตุเนื่องมาจากชาวบ้านเข้าใจว่าเขาเป็นพรีเซนเตอร์ของแอปกู้เงินหลอกลวงเหล่านี้ เลยทำให้ชาวบ้านเชื่อถือและหลงเชื่อว่าเขาเป็นพรีเซนเตอร์จริง จึงตกเป็นเหยื่อให้แก่แก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้

หนุ่ม อนุวัต กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เขาทำคลิปเล่าข่าวแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับกลุ่มเงินกู้นอกระบบ และให้ข้อมูลว่า ขณะนี้มีแพลตฟอร์มสินเชื่อแบบใหม่ที่ชื่อว่า “ไชโยสินเชื่อ” ซึ่งเป็นเครือข่าวอยู่ภายใต้ธนาคารแห่งหนึ่ง แล้วโพสต์ลงหน้าเพจส่วนตัว

ปรากฎว่าแก๊งมิจฉาชีพได้นำคลิปข่าวไปตัดต่ออย่างแนบเนียนและแอบอ้างเป็นแพลตฟอร์มสินเชื่อที่ใช้ชื่อเดียวกันว่า “ไชโย แคปปิตอล” พร้อมกับนำรูปภาพของเขาไปตัดต่อเป็นพรีเซนเตอร์ของแพลตฟอร์มนี้ ทั้งที่เขาไม่เคยรู้จักและมีส่วนเกี่ยวข้องมาก่อน จนทำให้คนหลงเชื่อ

มิจฉาชีพกลุ่มนี้ จะยิงโฆษณาไปตามสื่อโซเชียลต่างๆ ทำเป็นขบวนการทั้งมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูล และเสนอวงเงินให้กู้ถึงหลักแสนบาท ซึ่งเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อก็จะถูกให้ทำตามขั้นตอนที่มิจฉาชีพวางไว้ เช่น ส่งเอกสารประจำตัว ทั้งสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดธนาคาร

จากนั้นมิจฉาชีพก็จะอ้างว่า ระบบมีปัญหาต้องให้ผู้เสียหายโอนเงินไปเพิ่มเพื่อปลดล็อกระบบ และผู้เสียหายบางคนถูกหลอกเพิ่มอีก ว่าตรวจสอบแล้วพบประวัติว่ามีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อปลดล็อกข้อมูล โดยพบว่า มีผู้เสียหายสูญเงินมากที่สุดถึงกว่า 1,020,000 บาท จนผู้เสียหายรายนี้ เครียดมากถึงอยากฆ่าตัวตาย

ส่วนข้อมูลของบริษัทไชโยที่แอบอ้างนั้น ตามที่ไปสืบดูพบว่า เป็นบริษัทที่ไม่มีอยู่จริง และสำนักงานใหญ่ที่ระบุอ้างก็เป็นเพียงบ้านร้างแห่งหนึ่งในกรุงเทพเท่านั้น จึงแนะนำว่า ทางบริษัทไชโยตัวจริงที่อยู่ในเครือธนาคารแห่งหนึ่งก็ควรมาแจ้งความร้องทุกข์ด้วยว่าบริษัทตัวเองถูกแอบอ้างด้วย

ทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า มาแจ้งความให้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) และมาตรา 16 ที่ว่าด้วยการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบอันเป็นการหลอกลวงประชาชนและตัดต่อให้ผู้อื่นเสียหาย และจะขอให้ทางตำรวจ สอท. ดำเนินการปิดแพลตฟอร์มเว็บเพจและไลน์มิจฉาชีพพวกนี้

ขณะที่พลตำรวจโทวรวัฒน์ กล่าวว่า คดีลักษณะนี้จะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้ยาก เพราะฐานข้อมูลจะอยู่ต่างประเทศ โดยหลังจากนี้จะเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อรวบรวมหลักฐาน และฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเงินกู้ออนไลน์ลักษณะนี้ และควรที่จะตรวจสอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย ก่อนที่จะทำธุรกรรม



รับชมได้ทางยูทูป :  https://youtu.be/FksMRfKVdm0

คุณอาจสนใจ

Related News