ตัวแทน OPPO-Realme เข้าให้ข้อมูล สคบ. ปมติดตั้งแอปฯกู้เงิน สืบหาเจ้าของ-ผู้พัฒนาแอปฯ

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เรียกตัวแทนของบริษัทมือถือ 2 ยี่ห้อ คือ OPPO และ Realme เข้าให้ข้อมูล หลังมีการติดตั้งแอปฯกู้เงิน Fineasy และ สินเชื่อความสุข อยู่ภายในโทรศัพท์ทั้ง 2 ยี่ห้อ ล่าสุดทั้ง 2 บริษัทยังยื่นยันว่า เป็นแอปฯที่ติดตั้งมากับเครื่องจากต่างประเทศ ขณะมีผู้เสียหายร้องสคบ.10 ราย ถูกมือถือฝั่งแอปฯมาในตัวเครื่อง



ตัวแทนบริษัทโทรศัพท์มือถือ ทั้ง 2 ยี่ห้อ ( OPPO และ Realme )เดินทางมายัง สคบ. ตั้งแต่ช่วงเที่ยง หลังจาก สคบ.เรียกทั้ง 2 บริษัทเข้าให้ข้อมูลในช่วงเวลา 13.00 น. ซึ่งตัวแทนของทั้ง 2 บริษัท ที่เข้าให้ข้อมูลกับ สคบ.ในวันนี้ เป็นผู้บริหารชุดเดียวกับที่เข้าให้ข้อมูลกับ กสทช.เมื่อวาน



จากนั้นในเวลา 13.00 น.ทั้ง 2 บริษัทร่วมประชุมกับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สคบ.โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวชนเข้าเก็บภาพ หรือเก็บบรรยากาศระหว่างการประชุม



ต่อมา ในเวลา 15.00 น.หลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง นายอนุพงษ์ เจริญเวช ผู้อำนวยการฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก ได้ออกมาให้ข้อมูลเบื้องต้นกับสื่อมวลชนว่า การประชุมกับ 2 บริษัทมือถือยังไม่แล้วเสร็จ แต่ทาง สคบ.จะให้ข้อมูลในเบื้องต้นกับสื่อก่อน เนื่องจากสื่อจำนวนมาก มารอติดตามการประชุมเป็นเวลานาน



คุณอนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวน บริษัทมือถือทั้ง 2 ยี่ห้อในหลายประเด็น ประเด็นแรก สคบ.อยากรู้ข้อมูลว่า ผู้พัฒนาและเป็นเจ้าของแอปฯFineasy และ สินเชื่อความสุข คือใคร และ ส่วนที่ 2 อยากรู้ข้อมูลของบริษัทผู้ปล่อยสินเชื่อที่อยู่ในแอปฯ ว่าเป็นใครบ้าง



ขณะนี้ทั้ง 2 บริษัทให้ข้อมูลในเบื้องต้น แต่ยังไม่ได้ข้อมูลเชิงลึก ดังนั้นจะต้องสอบถามรายละเอียดต่อ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึก เนื่องจากเรื่องนี้ คุณจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก โดยในวันพรุ่งนี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายฯ จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยว เพื่อประชุมรวมกันในช่วงบ่าย (ของวันที่ 15 มกราคม ) ที่ทำเนียบรัฐบาล



ในเบื้องต้นทั้ง 2 บริษัทมือถือ ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดว่า มีการติดตั้งแอปฯไปในโทรศัพท์มือถือทั้งหมดกี่เครื่อง เป็นหน้าที่ของ สคบ.ต้องเจาะข้อมูลเชิงลึก เพื่อให้ได้ตัวเลขจำนวนแอปฯที่อยู่ในเครื่องโทรศัพท์มาให้ได้ แต่เบื้องต้น บริษัทโทรศัพท์ระบุว่า วันที่ 16 มกราคม จะปล่อย OTA เพื่อลบแอปฯFineasy ออกจากเครื่อง ส่วนสินเชื่อความบริษัทโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 แจ้งว่าสามารถลบออกได้เลย



แต่ สคบ.ยังต้องการคำตอบว่า ได้จำหน่ายโทรศัพท์ที่มีแอปฯทั้ง 2 ตัวติดไป จำนวนกี่รุ่น มีรุ่นอะไรบ้าง จำนวนทั้งหมดกี่เครื่อง นอกจากนั้น สคบ.ยังต้องการข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยที่ต้องขออนุญาตก่อนด้วย ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาพูดคุยเพื่อหาข้อมูลเชิงลึก เช่น การปล่อยสินเชื่อได้ขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ รวมถึงการเรียกเก็บดอกเบี้ยเป็นไปตามที่กำหมายกำหนดหรือไม่ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ดังนั้นขณะนี้จึงยังต้องสอบสวนข้อมูลเชิงลึกกับทั้ง 2 บริษัทต่อ



ทั้งนี้มีผู้บริโภคร้องเรียนเข้ามา เรื่องมีแอปฯเงินกู้ ที่ติดมากับเครื่องโทรศัพท์แล้ว 9-10 ราย แต่ผู้ร้องเรียน กังวล และไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ที่กลัวข้อมูลรั่วไหล แต่ผู้ที่ร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด ยังไม่มีใคร ที่เข้าไปกู้เงินกับแอปฯดังกล่าว



แต่วันนี้ทาง สคบ.จะสอบถามข้อมูลกับทั้ง 2 บริษัทให้ได้มากที่สุด เนื่องจากวันพรุ่งนี้ 15 มกราคม จะมีการประชุมในเรื่องนี้ ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำเนียบรัฐบาล หากพบผิดกฎหมายของหน่วยงานไหนก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ทันที



ในส่วนของแอปฯเงินกู้ ทั้ง 2 บริษัทยังยืนยันว่า เป็นเพียงตัวแทนจำหน่าย แต่แอปฯติดมากับตัวเครื่อง แต่ในส่วนนี้ทาง สคบ.ก็ยังไม่เชื่อข้อมูลที่ทั้ง 2 บริษัทแจ้งมา เพราะในเรื่องการปล่อยสินเชื่อสามารถทำได้ แต่ต้องดูรายละเอียดของกฎหมายแต่ละประเทศด้วย ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย พรุ่งนี้หน่วยงานต่างๆต้องมาคุยกันว่า ถ้าเจ้าของแอปฯอยู่ต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ถ้าทำอะไรไม่ได้ ต้องมีความชัดเจนว่าตัวแทนจำหน่ายที่อยู่ในประเทศไทยจะต้องรับผิดชอบอย่างไร



ส่วนผู้เสียหายที่มีการกู้เงินในแอปฯดังกล่าวไปแล้ว และเกิดความเสียหาย จะถือเป็นคดีอาญา ต้องมาดูรายละเอียดว่าผิดกฎหมายด้านใดบ้าง เช่น เรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด หรือทวงถามที่ผิด พรบ.ทวงหนี้ สามารถร้องทุกข์ดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนได้เลย ในพรุ่งนี้จะมีตำรวจ ปคบ.เข้าร่วมประชุมด้วย หากมีผู้เสียหานจากการกู้เงินจากแอปฯก็สามารถประสานดำเนินคดีได้เลย



ในเบื้องทั้ง 2 บริษัท ยังยืนยันว่าเจ้าของและผู้พัฒนาแอปฯอยู่ในต่างประเทศ แต่เจ้าหน้าจะต้องหาข้อมูลเลิงลึกว่าจริงหรือไม่ ขณะเดียวกันเจ้าหน้ามีอำนาจเรียกดูสัญญาของแอปฯกับบริษัทมือถือได้ ว่ามีการตกลงผลประโยชน์จากแอปฯร่วมกันอย่างไรบ้าง เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานมาก ทั้งนี้เบื้องต้นทางบริษัทมือถือทั้ง 2 บริษัทแจ้งว่า ไม่สะดวกให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ในวันนี้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/c0KkCFkRq7U