สคบ.เผยยังไม่ชัด เจ้าของแอปเงินกู้ OPPO ชี้หากเอาผิดทางจีนไม่ได้ ตัวแทนไทยต้องรับผิดแทน

สคบ. เรียก OPPO-Realme แจงปมแอปฯกู้เงิน ยังไม่ชัดใครเป็นนายทุนเงินกู้ ส่วนเจ้าของแอปฯ รู้แค่ว่าเป็นคนจีน ด้านเหยื่อคนไทยคลิกกู้เงินหากเข้ามาร้องเรียน สคบ.พร้อมคุ้มครอง ส่วนเงินที่กู้มาหากจ่ายท่วมเงินต้นแล้วไม่จำเป็นต้องจ่ายที่เหลือ เผย หากเอาผิดทางจีนไม่ได้ ตัวแทนไทยต้องรับผิดแทน

กรณีสมาร์ทโฟน 2 ค่ายดัง  OPPO และ Realme ได้ติดตั้งแอปพลิเคชันเงินกู้ สินเชื่อความสุข และ Fineasy ซึ่งถูกติดตั้งในเครื่องและไม่สามารถลบออกได้นั้น โดยเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา ทาง กสทช.เรียกตัวแทน OPPO และ Realme เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งภายหลังการชี้แจง กสทช. ได้ขีดเส้นให้ทั้ง 2 ค่ายส่งข้อมูลและระบุวันลบแอปฯแบบเร่งด่วนในวันที่ 16 ม.ค.นี้ ซึ่งตอนแรกมีการขอเวลา 1 เดือน แต่ กสทช. บอกว่านานเกินไป ขณะเดียวกันทั้ง 2 ค่ายยังยอมรับด้วยว่าได้ติดตั้งแอปฯเงินกู้ตั้งแต่โรงงานเพื่ออำนวยสะดวกด้านธุรกรรมการเงินซึ่งไม่ได้ขออนุญาตแบงก์ชาติ และล่าสุดในส่วนของแอปฯ Fineasy ได้ประกาศหยุดให้บริการแล้ว

ความคืบหน้าวานนี้ (14 ม.ค.68) เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. พบว่า ทางบริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO และบริษัท โปรทา จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Realme เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ สคบ.

ต่อมาเวลา 15.00 น. ภายหลังตัวแทน 2 บริษัท เข้าชี้แจงกว่า 2 ชม. นายอนุพงศ์ เจริญเวช ผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บอกว่า จากการได้พูดคุยในเบื้องต้น ยังไม่ได้ข้อมูลในเชิงลึกจึงต้องใช้เวลาในการสอบสวนต่อ แต่เราได้เค้นสอบไปหลายประเด็น ความชัดเจนในการลบแอปฯ  คนพัฒนาแอปฯ รวมทั้งตัวเลขผู้ลงทะเบียนใช้เงินกู้ทั้ง 2 แอปฯ ซึ่งฝั่งตัวแทนมีการให้ข้อมูลกับ สคบ. แล้ว แต่ยังไม่ได้บอกทั้งหมด  

ส่วนเครือข่ายเงินกู้ที่อยู่ในแอปฯ เราจะทำการตรวจสอบและเรียกมาขยายผลต่อไป รวมทั้งตรวจสอบถึงนายทุนที่แท้จริงด้วย แต่เจ้าของแอปฯที่แท้จริงยังไม่มีข้อมูลสาวไปถึง โดยเบื้องต้นรู้เพียงว่าอยู่ประเทศจีนเท่านั้น

ส่วนประเด็นที่ประเทศจีนซึ่งเป็นต้นทางของ ผลิตภัณฑ์ทั้งสองค่ายนี้อนุญาตให้ติดตั้งแอปฯนี้หรือไม่อย่างไร นายอนุพงศ์ บอกว่า  ในการสอบสวน ตัวแทนที่มาบอกว่า มันติดมาจากในเครื่อง ไม่สามารถดำเนินการใดใดได้

เมื่อถามว่าหากเป็นเช่นนี้เหมือนเป็นการตั้งใจมาหลอกให้คนไทยกู้เงินหรือไม่ นายอนุพงศ์ บอกว่า “อาจจะคิดแบบนั้นก็ได้“ ซึ่งการทำธุรกิจสินเชื่อทำได้แต่ต้องดูกฎหมายของประเทศนั้นๆด้วย

เมื่อถามถึงประเด็นที่มีข้อมูลว่าแอปฯเงินกู้ Fineasy จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศไทยนั้น ทาง สคบ. บอกว่า “กำลังตรวจสอบอยู่ เพื่อหาตัวนักพัฒนาแอปฯ หรือเจ้าของและนายทุน”

นายอนุพงศ์ ยังกล่าวว่า ตามอำนาจ สคบ. มีอำนาจในการเรียกดูสัญญาได้ ถ้าหากเกี่ยวข้องกับคดีอาญาเราเรียกสอบอยู่แล้วส่วนต่างประเทศ สคบ.ไปไม่ถึงแต่ของประเทศไทยเราต้องมาดูกันต่อเพราะคนที่จะทำธุรกิจร่วมกันมันต้องมีผลประโยชน์อะไรบางอย่างอยู่แล้ว

ส่วนเครือข่ายที่นำโทรศัพท์มือถือมาขายตามศูนย์ฯจะเรียกคุยด้วยหรือไม่ นายอนุพงศ์ กล่าวว่า ในขั้นตอนต่อไปจะเชิญทุกเครือข่ายมาพูดคุย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นก็เป็นตัวสะท้อน ในอนาคตว่าการที่จะรับเครื่องมาขายนั้น ก็ต้องตรวจสอบ หรือในหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องมีมาตรการที่ตรวจสอบให้มากขึ้น

นายอนุพงศ์ กล่าวต่อ เบื้องต้นในตอนนี้มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนต่อ สคบ.แล้วประมาณ 10 ราย แต่ยังไม่ได้กดเข้าไปกู้เงิน เป็นเพียงลงทะเบียนใช้แอปฯเท่านั้น ซึ่งผู้เสียหายเหล่านี้ที่มาร้องเรียนเพราะเป็นกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล

ส่วนผู้เสียหายที่กู้เงินหลักหมื่นและต้องจ่ายกว่า 7 แสนบาทนั้น จะคุ้มครอง ประชาชนคนไทยอย่างไร ประเด็นนี้ นายอนุพงศ์ กล่าวว่า ให้ร้องเรียนมาที่ สคบ. ได้เลย โดยเราจะประสานไปยังตำรวจ ปคบ. เพราะเป็นความผิดอาญา ซึ่งการปล่อยเงินกู้เรียกดอกเบี้ย ผิดตาม พ.ร.บ.ทวงหนี้ของประเทศไทย เราจะดำเนินการทันที แต่หนี้ดังกล่าวจะเป็นโมฆะหรือไม่ ขอบอกว่า อาจจะทำไม่ได้ เพราะเป็นหนี้ก็ต้องใช้ แต่จะมาดูต่อไปว่าดอกเบี้ยที่จ่ายไปแล้วสมดุลกับเงินต้นหรือไม่อย่างไร หากคำนวณแล้วจ่ายเกินเงินต้นที่กู้มาแล้วก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินที่เหลือ เช่นเดียวกันกับการไปกู้นอกระบบแล้วต้องมีการไกล่เกลี่ยกัน

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ (15 ม.ค.68) อาจมีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรกับประเทศจีนที่เป็นผู้ผลิตฯได้หรือไม่ หรือหากเอาผิดไม่ได้ หรือความผิดไปไม่ถึง ตัวแทนในประเทศไทยต้องรับผิดชอบ ส่วนจะรับผิดชอบได้มากน้อยแค่ไหนนั้นจะไปหารือกับหลายหน่วยงานที่ทำเนียบรัฐบาล

นอกจากนี้ นายอนุพงศ์ ยังแจ้งด้วยว่า ตัวแทนทั้ง 2 บริษัทไม่สะดวกที่จะออกมาพบกับสื่อมวลชน และได้กลับทันทีโดยเลี่ยงพบสื่อภายหลังให้ข้อมูลเสร็จ

ส่วนรายละเอียดทั้งหมดที่ตัวแทนทั้ง 2 บริษัทเข้าชี้แจง นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ให้สัมภาษณ์ต่อไปภายหลังการประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ม.ค.67)

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dyjCJMgwJoo