‘ฆาตกรต่อเนื่อง’ โต้ไม่ได้กักขังทารุณ อ้างเหยื่อมาหาเอง ลั่นเสพยาไม่ได้เดือดร้อนใคร

ความคืบหน้าคดีที่ตำรวจกองปราบจับกุมฆาตกรต่อเนื่อง แชทลวงสาวหลอกให้หลงรัก แล้วกักขังทำร้ายร่างกายจนน่วม ล่าสุดตำรวจพัทลุงเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 2 คดี ขณะที่ผู้ต้องหายังปฏิเสธเสียงแข็งไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แต่ฝ่ายหญิงมาหาเอง แล้วทะเลาะตบตีกับแฟนตนเอง ด้านหญิงสาวผู้เสียหาย แฉผู้ต้องหามีพฤิตกรรมชายรักชาย


คดีนี้ตำรวจกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ควบคุมตัว นายธนเดช หรือ รุจ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดี ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยบุกเข้าไปจับกุมได้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา


พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ช่วยเหลือ นางสาวเนย ผู้เสียหายวัย 31 ปี ชาวลำพูน ที่ถูกล่อลวงมาซ้อมทรมานและกักขังอยู่ภายในห้องเช่า โดยมีสภาพบาดเจ็บ มีรอยบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายจำนวนมาก ใบหน้าบวมช้ำจนผิดรูป


ซึ่งทันทีที่เจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือ นางสาวเนย ถึงกับร่ำไห้ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ พร้อมกับบอกว่า "คิดว่าตนเองจะต้องตายในห้องนี้แล้ว ไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอดออกมาได้" ทางเจ้าหน้าที่ได้กอดปลอบใจจากนั้นได้นำส่งโรงพยาบาลพัทลุง


โดยเรื่องราวการจับกุม สืบเนื่องจากวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจ สน.บางยี่ขัน ได้รับแจ้งว่าพบศพ นางสาวกมลเนตร อายุ 26 ปี เสียชีวิตอยู่ในบ้านเช่า แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร สภาพศพถูกทำร้ายกะโหลกศีรษะแตก เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง กระดูกสันหลังหัก กระดูกซี่โครงหัก จากการสืบสวนทราบว่า นายธนเดช ซึ่งเป็นแฟนของผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุ


โดยนายธนเดช รู้จักกับผู้ตายผ่านทางแอปหาคู่ จากนั้นได้แชทคุยกัน โดยนายธนเดช ได้ชักชวนผู้ตายมาพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าย่านอรุณอมรินทร์ และมีพฤติกรรมทำร้ายผู้ตายด้วยการซ้อม ทุบตี กระทืบ และกักขังไว้ในบ้าน


จนกระทั่งผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยทั้งคู่รู้จักกันไม่ถึง 1 เดือน จากนั้นนายธนเดช ได้หลบหนีไปเช่าห้องอยู่ที่พัทลุง และนางสาวเนย ที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือไว้ได้ทัน ก็ตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวงมากักขังอยู่ในห้องพักอีกราย


นางสาวเนย บอกว่า ตนเองรู้จักกับนายธนเดช เมื่อประมาณต้นเดือนสิงหาคม ผ่านทางแอปหาคู่ จากนั้นแชทคุยกันประมาณ 1 เดือน นายธนเดช ได้ลวงให้ตนเดินทางมาหาที่จังหวัดพัทลุง ด้วยการบอกว่ารักตนมาก และอยากพบเจอ


ประมาณต้นเดือนกันยายน ตนจึงนั่งรถไฟมาจากจังหวัดลำพูน มาที่กรุงเทพฯ จากนั้นนั่งรถไฟต่อจากกรุงเทพฯ มาที่พัทลุง วันที่พบหน้ากันครั้งแรก นายธนเดช ก็ใช้ความรุนแรงกับเธอทันทีในขณะที่นั่งทานข้าวด้วยกัน


โดยกล่าวหาว่าเธอไปมองชายอื่น แล้วเอาจานข้าวที่ทานอยู่ปาใส่ใบหน้า และใช้ถ้วยน้ำซุปเทราดศีรษะ แล้วทำร้ายร่างกายกลางตลาด ก่อนจะลากกลับมาที่ห้องพัก จากนั้นก็ขังเธอไม่ให้ออกไปไหน ไม่ให้ติดต่อกับใคร และใช้กำลังทำร้ายร่างกายเรื่อยมา ถ้าวันไหน นาย ธนเดช เสพยาบ้า จะลงมือทำร้ายเธอหนักขึ้นไปอีก เธอทนอยู่แบบนี้มานานกว่า 1 เดือนและไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอด


นางสาวเนย เปิดเผยว่า ฝ่ายชายมีอารมณ์รุนแรง ระแวง ถ้าหากมองหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่เขา จะถูกทั้งตบ ทั้งเตะ หรือมองหน้าเขาก็ไม่ได้ โดนซ้อมตลอด นักข่าวสอบถามว่าพฤติกรรมของฝ่ายชายเป็นอย่างไร


นางสาวเนย ระบุว่า เขามีนิสัยชายรักชาย และขายตัว ชอบถ่ายภาพอวัยวะเพศตัวเองส่งไปขายให้กับลูกค้าในสื่อออนไลน์ ได้เงินมาครั้งละ 200 บาท นอกจากนี้ัยังเห็นเขากินยาเม็ดสีฟ้า ๆ ทุกครั้ง ก่อนที่จะนั่งเล่นเกมสล๊อก ส่วนยาเสพติดอื่นไม่เห็น


ส่วนอาการล่าสุดของ นางสาวเนย นายแพทย์จรุง บุญกาญจน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทลุง ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าดูอาการ คาดว่าต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 1 เดือน


ซึ่งจากการตรวจของทีมแพทย์ พบว่านางสาวเนย ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายทั้งบริเวณใบหน้า ที่เป็นแผลฟกช้ำ ดั้งจมูกหัก กระดูกซี่โครงทั้งด้านซ้ายและขวา หักรวม 9 ซี่ กระดูกสันหลังบริเวณเอว และหลังหัก 3 ตำแหน่ง


ขณะที่แม่ของนางสาวเนย อายุ 61 ปี ได้ร้องขอความช่วยเหลือกับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า ลูกสาวหายออกจากบ้านตั้งแต่ 6 กันยายน คาดว่าจะชายที่รู้จักแอปฯ หาคู่ และมีการแชทกันทางเฟซบุ๊กล่อลวงไป


แม่บอกด้วยว่า ลูกถูกทำร้าย และมีภาพโป๊เปลือยของลูกถูกส่งมาหาแม่ ซึ่งชายคนดังกล่าวโทรมาหาแม่ เพื่อให้โอนเงินให้ 2,000 บาท อ้างว่าลูกสาวไม่สบาย แต่แม่ไม่ให้ ต่อมาคนร้ายโทรหาแม่อีกครั้ง และลงมือทำร้ายร่างกายลูกสาวให้แม่ได้ยินเสียงร้อง อีกทั้งยังขู่จะฆ่าลูกสาวให้ตาย จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน พร้อมกับร้องเรียนมูลนิธิ จนสามารถเข้าช่วยเหลือลูกสาวได้


ทางด้านผู้ต้องหา นายธนเดช หลังการจับกุมของตำรวจกองปราบ ได้ควบคุมตัวส่งมาที่ สน.บางยี่ขัน ระหว่างนำตัวออกจากห้องขังของ สน.บางยี่ขัน มาสอบปากคำ นักข่าวพยายามสอบถาม นายธนเดช อ้างว่าเคสของ นางสาวเนย ตนไม่ได้กักขัง เขามาหาเอง และทะเลาะกับแฟนของตนเพราะหึงหวงตน


ยืนยันไม่ได้แชทหลอกล่อให้มาหา ใครจะโง่ ตนแฟนเยอะเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้ทำร้ายร่างกายนางสาวเนย ตนไม่ใช่คนเลวร้ายขนาดนั้น มันเป็นโชคชะตา เรื่องเสพยาก็ไม่ได้เดือดร้อนใคร ยอมรับเสพจริง ส่วนที่ทำร้ายร่างกาย นางสาวกมลเนตร เสียชีวิต สารภาพก่อเหตุจริงไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นเพราะความหึงหวง และบอกนักข่าวว่า ให้นำเสนอข่าวตามความจริงบ้าง


ส่วนความคืบหน้าทางคดี เช้านี้ พลตำรวจตรีตานิตย์ รามดิษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้รุดเยี่ยมนางสาวเนย ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพัทลุง พร้อมเปิดเผยว่า ในส่วนของคดีในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ทางพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนผู้เสียหาย


และเตรียมออกหมายจับ นายธนเดชเพิ่ม อีก 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และกักขังหน่วงเหนี่ยว หลังจากศาลออกหมายจับ จะขออายัดตัวจาก สน.บางยี่ขัน มาทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


และในวันพรุ่งนี้ แม่ของนางสาวเนย และนางปวีณา จะเดินทางเข้าเยี่ยมอาการของนางสาวเนย.