สลดซ้ำ! ย่าล่ามโซ่หลานวัย 11 แจงทำเพราะมีคนมาข่มขืน ซ้ำคดีไม่คืบ ตร.โต้ย่าไม่มาให้ปากคำ

เด็กหญิง วัย 11 ปี ถูกปู่กับย่า ล่ามโซ่ไว้ในบ้าน และเฆี่ยนตี ล่าสุดพบเรื่องสุดสะเทือนใจซ้ำ เด็กเคยถูกชายวัย 45 ข่มขืน แจ้งความแต่คดีไม่คืบ ด้านพนักงานสอบสวน แจงเพราะย่าเด็กไม่ยอมมาให้ปากคำ

จากการที่เมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังบ้านของเด็กหญิงวัย 11 ปี ที่ถูกปู่กับย่า ล่ามโซ่ และทำร้ายร่ายกาย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือ

ย่าของเด็ก กล่าวว่า ใจจริงไม่ได้อยากทำหลาน เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ หลังพ่อกับแม่เด็กได้แยกทางกัน พอโตหลานเริ่มมีนิสัยดื้อรั้น ชอบขโมยเงิน สอนไม่ฟัง จึงได้ล่ามโซ่เอาไว้ แต่จะล่ามเฉพาะวันหยุดเรียน ยอมรับจำเป็นต้องทำ เพราะไม่มีทางออก

และอีกหนึ่งสาเหตุที่ล่ามโซ่หลาน เพราะเมื่อ 2 ปีก่อน มีคนในหมู่บ้าน ชื่อ นายเลิฟ อายุ 45 ปี มาล่อลวงหลาน ด้วยการเอาเงินให้ 500 บาท แล้วบอกว่าจะพาไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อในตัวอำเภอ และทำการล่วงละเมิดหลาน

จากนั้นหลานมาบอก จึงได้พาไปแจ้งความ แต่ตำรวจไม่ได้ดำเนินการใดๆ จนกระทั่งหลานบ่นว่าเจ็บที่อวัยวะเพศ จึงพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นหมอถามว่า มีใบสั่งของตำรวจมาหรือไม่ พอบอกว่า ไม่มี หมอเลยไม่ตรวจให้

ต่อมาได้ปรึกษาครูที่โรงเรียน เรื่องหลานถูกล่วงละเมิด ได้รับคำตอบจากครูว่า ย่าไม่ใช่ผู้ปกครองเด็กโดยตรง จะต้องให้พ่อแม่พาไปตรวจร่างกาย แล้วแจ้งความ หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป มารู้อีกทีนายเลิฟได้เพียงแค่ใบเตือน และไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ และนายเลิฟ ก็ยังแวะเวียนซื้อขนมมาให้หลานอีกหลายครั้ง ด้วยความกลัวนายเลิฟจะมาล่อลวงหลานอีก จึงได้ล่ามโซ่หลานเอาไว้ ยอมรับว่าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเกี่ยวกับคดี เพราะไม่มีความรู้ ได้แต่สงสารหลานที่ถูกกระทำ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พนักงานสอบสวน สภ.ลำปลายมาศ เจ้าของคดี กล่าวว่า เรื่องนี้มีการแจ้งความไว้ เมื่อปี 2564 จริง สำนวนคดียังอยู่ ยังไม่หมดอายุความ สาเหตุไม่คืบหน้า เพราะย่าของเด็กไม่ยอมมาให้ปากคำเพิ่มเติมตามนัด เรื่องจึงค้างไว้อยู่ หากย่าเด็กประสงค์จะดำเนินคดีก็มาให้ปากคำเพิ่มเติม ตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

ขณะที่เพื่อนบ้าน นางอำนวย เรียมกุญชร อายุ 44 ปี กล่าวว่า เด็กมาเล่นที่บ้านเป็นประจำ เป็นเด็กพูดจาไพเราะ ชอบมาเล่าให้ฟังประจำว่าถูกปู่กับย่าทำร้าย ไม่อยากอยู่บ้าน ส่วนตัวคิดว่าเด็กคนจะเหงาที่อยู่คนเดียว ปู่กับย่า มักจะไปเก็บผักมาให้หลานเอาไปขาย ถ้าขายไม่ได้จะโดนทำร้ายทุกครั้ง เมื่อเห็นจะช่วยซื้อไว้ประจำเพราะสงสารเด็ก

และครั้งล่าสุดเด็กหอบเสื้อผ้ามาขออยู่ด้วยบอกว่า "หนูไม่อยากอยู่แล้ว" จึงไปถามทั้งปู่กับย่าได้รับคำตอบว่า "เอาไปเลย" แต่ตัวเองไม่กล้าเอาเด็กมา เพราะกลัวมีปัญหา แต่ถ้าเด็กจะมาเล่นที่บ้านเหมือนปกติก็มาได้

ด้าน นายรัฐพล วิลัยฤทธิ์ ผอ.โรงเรียนอนุบาลลำปลายมาศ เปิดเผยว่า เท่าที่ทราบ เด็กหญิงคนนี้ อ่านออกเขียนได้ และเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่ ตอนขึ้นชั้น ป.3 เลยไม่รู้เรื่องที่เด็กเคยถูกล่วงละเมิด เมื่อสอบถามปู่กับย่าเรื่องการล่ามโซ่ บอกว่าเพิ่งทำเพียงครั้งเดียว โดยสรุปคาดเด็กน่าจะขาดความอบอุ่นจากครอบครัว