พ่ออดีตทหารเกณฑ์คลั่งเปิดใจ ลูกแค้นเคยถูกครูฝึก-รุ่นพี่ติดยาทำร้าย ไม่ให้พูดภาษาอังกฤษในค่าย

นายกิตติ อายุ 61 ปี พ่ออดีตทหารเกณฑ์คลั่ง เผยว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายออกจากบ้านไปตอน 4 ทุ่ม ไม่รู้ว่าออกไปทำอะไรบ้าง รู้อีกทีตอนที่ตำรวจโทรมาบอกว่า ลูกชายไปยิงคนเสียชีวิต 2 ศพ เท่าที่ทราบลูกชายมีเรื่องคับแค้นใจ 2 เรื่อง ตั้งแต่ตอนเป็นทหารเกณฑ์ โดนครูฝึกซ้อมเพราะพูดภาษาอังกฤษ และยังถูกครูฝึกที่ติดยาทำร้ายตลอดเวลาที่อยู่ในค่าย จึงเกิดความคับแค้นใจ เป็นเรื่องที่เก็บกดมานาน

ที่ผ่านมาเคยพยายามร้องเรียน แต่ก็ไม่ได้รับความธรรมถึงเคยหนีทหาร ตนเองพยายามเตือนแล้ว ว่าอย่าไปทำคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ตอนนี้ลูกชายปลดประจำการมานานแล้ว ปัจจุบันทำงานส่งเอกสาร และทำคอมพิวเตอร์ให้กับญาติๆ ล่าสุดกำลังทำวีซ่าที่จะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ถ้าได้ไปลูกชายบอกว่า จะอยู่ที่นั่นเลย แต่มาเกิดเรื่องเสียก่อน

ด้านแม่ของอดีตทหารเกณฑ์คลั่ง บอกว่า ลูกถูกครูฝึก ฝึกอย่างหนักจนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ถูกรุ่นพี่ที่ติดยาซ้อมจนกลายความกดดัน ที่รับไม่ได้คือ ลูกถูกตบหน้าเพราะพูดภาษาอังกฤษในค่าย ทั้งที่ลูกชายใช้ความสามารถของตนเองให้เกิดประโยชน์ ใช้ความสามารถของตัวเองในโอกาสต่างๆ อาชีพทหารเป็นอาชีพที่ลูกชายใฝ่ฝัน เพราะชอบปืน และความเป็นระเบียบวินัย แต่เมื่อเข้าไปอยู่จริง ๆ กลับเกลียดอาชีพนี้ ชีวิตของลูกชายน่าสงสาร ถูกบูลลี่ตั้งแต่อยู่โรงเรียนประจำ อยู่ค่ายทหารก็ถูกทำร้ายอีก ทำให้ลูกมีจิตผิดปกติ

ทั้งพ่อและแม่บอว่า ไม่ได้จะพยายามเอามาเป็นข้ออ้างทำร้ายลูกชาย เรื่องที่เกิดขึ้นพ่อแม่ก็เสียใจมาก พร้อมจะรับผิดชอบช่วยเหลือครอบครัวที่สูญเสีย ซึ่งก่อนเกิดเรื่องลูกชายทะเลาะกับพ่อ เรื่องจะไปอเมริกา พ่อเห็นว่าลูกป่วยยังไม่อยากให้ ลูกก็ระเบิดอารมณ์ใส่ ด่าพ่อ แล้วก็ขับรถออกจากบ้านไป

หลังก่อเหตุทั้งพ่อและแม่ก็พยายามติดต่อลูก เกลี้ยกล่อมลูกให้เข้ามอบตัว บอกลูกว่าที่ปทุมธานี เขาไม่ใช่ขี้ยา แต่เป็นผู้ป่วยโควิด ลูกชายก็ตอบว่า รู้แล้วครับ และบอกหลายๆ ครั้งว่า รักพ่อ และไม่อยากถูกทำร้าย