โจรผัวเมีย ขโมยแบตรถที่ร้าน ไม่ถึง 10 นาที เอากลับมาขายร้านเดิม

วันนี้ (5 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรบางคล้า พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางคล้า นำตัว 2 ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในหลายพื้นที่ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมของกลางเครื่องยนต์เบนซินส่วนเสื้อสูบ และแบตเตอรี่จำนวน 2 ลูก ประกอบนายนิรันดร์ คงเจริญ หรือ ปลา สัมปทวน อายุ 40 ปี และ น.ส.สุวิมล ด่านปรีดา หรือ ไอซ์ อายุ 33 ปี สองผัวเมียผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ หลังก่อนหน้านี้ถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางคล้า ตามไปรวบได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.10 ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซุปเปอร์คัพ สีชมพู หมายเลขทะเบียน 1 กญ 8539 ฉะเชิงเทรา ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ

พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางคล้า เปิดเผยว่า โดยพื้นที่ของ สภ.บางคล้าได้รับแจ้งเหตุขโมยเครื่องยนต์ในอู่ซ่อมรถนำชัยออโต้ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนหาข่าว แกะรอยจากกล้องวงจรปิด จนทราบว่าคนร้ายเป็นใคร และกำลังจะขอหมายศาลเข้าจับกุม จนกระทั่งวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายปลา และ น.ส.ไอซ์ ได้ตระเวนก่อเหตุอีกครั้ง ซึ่งรอบนี้ได้ก่อเหตุขโมยแบตเตอรี่ที่ร้าน บจก.ฉะเชิงเทรา แบตเตอรี่ จำนวน 2 ลูก โดยพฤติการณ์ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดข้างร้าน ก่อนจะอาศัยจังหวะที่พนักงานเฝ้าร้านอยู่คนละห้อง ขโมยแบตเตอรี่ออกไปจำนวน 2 ลูกก่อนจะวนรถจักรยานยนต์กลับมาหน้าร้าน เพื่อนำแบตเตอรี่ของร้านที่ขโมยมาไม่ถึง สิบนาทีกลับมาขายคืนที่ร้าน ซึ่งโชคดีที่พนักงานในร้านจำสัญลักษณ์ได้ จึงเดินเข้าไปในร้านเพื่อโทรศัพท์บอกเจ้าของร้าน ทำให้นายปลา และ น.ส.ไอซ์ เห็นท่าไม่ดี จึงรีบยกแบตเตอรี่ขึ้นรถขี่หลบหนีไป

นอกจากนี้นายปลา ยังยอมรับสารภาพว่า เป็นคนที่เข้าไปขโมยถังแก๊ส ภายในร้านลานกิจกรรม พื้นที่อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันขโมยทรัพย์สิน โดยใช้ยาพาหนะในการหลบหนี ก่อนจะนำตัวส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกกหมายต่อไป

นายนิรันดร์ เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพหลักคือขี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เมื่อเงินขาดมือไม่พอใช้ ก็จะชวน น.ส.สุวิมล ภรรยาตระเวนขี่รถจักรยานยนต์ไปตามทาง เมื่อเห็นสบโอกาสร้านไหนสามารถขโมยของได้ก็จะเข้าไปขโมย แล้วนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า ส่วนแบตเตอรี่นั้นตนเองคิดว่าพนักงานที่ร้านไม่น่าจะจำได้ หลังขโมยมาแล้วจึงวนรถไปทางด้านหน้าร้านเลย เพื่อเอามาขาย แต่พนักงานในร้านดูสงสัยและกำลังโทรศัพท์ ตนเองจึงชวนภรรยาขี่รถหนีออกมา ส่วนเงินที่ได้จากการขโมยของนั้น ก็ต้องนำมาเลี้ยงลูกตนเอง 3 คน และลูกติดภรรยาอีก 3 คน รวม 6 คนที่ตนเองต้องดูแล

นายศราวุธ จอรกา อายุ 36 ปี พนักงานร้านขายแบตเตอรี่รถยนต์ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุที่สองสามีภรรยาเข้ามาขโมยแบตเตอรี่ ตนนั่งอยู่อีกห้อง จนกระทั่งสองสามีภรรยาขี่รถเข้ามาที่ร้าน เพื่อจะนำแบตเตอรี่มาขาย ซึ่งขณะที่น.ส.สุวิมล กำลังยกแบตมาวางหน้าร้าน ตนเองจำได้ว่าเป็นแบตของทางร้านเพราะมีสัญลักษณ์อยู่ จึงรู้สึกเอะใจเดินเข้าร้านไปหยิบโทรศัพท์เพื่อจะโทรหาเจ้าของ ทันใดนั้นสองผัวเมียก็ยกแบตเตอรี่ขึ้นรถจักรยานยนต์ แล้วขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว ตนเองเห็นภาพผิดปกติ จึงมาย้อนกล้องดูก็พบเหตุการณ์ความจริงดังกล่าว ยอมรับว่าตนเองก็งง เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ สองผัวเมียช่างกล้ามาก มาขโมยของที่ร้านแล้วยังจะนำกลับมาขายที่ร้านอีก