อาชญากรรม

ช่างปูนเมาทำร้ายเมีย หัวหน้าคนงานเข้าห้าม ถูกไล่แทง ก่อนชุลมุน สุดท้ายช่างปูนดับ

โดย attayuth_b

4 ก.พ. 2566

153 views

วันนี้ (4 ก.พ.) เมื่อเวลา 08.00 น. ร.ต.อ.อิสระ แสงสว่าง พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกทำร้ายร่างกายนอนเสียชีวิตภายในแคมป์คนงานไม่มีชื่อภายในซอยวัดใหญ่-ซอยปริ๊น ถนนตัดใหม่ หมู่ที่ 6 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุพบเป็นสถานที่ก่อสร้างบ้านขนาดใหญ่ บริเวณด้านข้างปลูกเป็นเพิงไม้คลุมด้วยผ้าใบซึ่งใช้สำหรับคนงานมานั่งดัดเหล็กเพื่อใช้ในการก่อสร้าง พบร่าง นายนพดล เขียวศรี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/3 หมู่ที่ 9 ต.ทุ่งขวาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นอนหงายอยู่บนพื้นดินสภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นสีชมพู สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ไม่สวมรองท้า บริเวณใบหน้ามีรอยคล้ายถูกของแข็งกระทบจนเบ้าตาบวมปูดทั้ง 2 ข้าง โหนกแก้มซ้ายบวม บริเวณปากและจมูกมีคราบเลือดไหลออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ในที่เกิดเหตุยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ทราบชื่อภายหลัง นายสฤษดิ์ ทับเมฆา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/2 หมู่ที่ 6 ต.ยางซ้าย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง มีบาดแผลถูกของมีคมบาดเป็นแผลบริเวณนิ้วก้อยเท้าข้างซ้าย ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงาน

จากการสอบถาม นางละเอียด สายทอง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ที่ 4 ต.สระเยาว์ อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ภรรยาของผู้ตาย เล่าว่าผู้ตายเป็นช่างปูนอยู่ในแคมป์คนงานดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ผู้ตายและตนนั่งดื่มสุรากันอยู่ในห้องพักซึ่งอยู่ติดกันกับห้องของหัวหน้า ก่อนที่จะมีปากเสียงใส่กันในเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานจนผู้ตายเข้าทำร้ายร่างกายตนหลายครั้ง กระทั่งหัวหน้าได้ยินเสียงจึงเดินเข้ามาห้ามปรามและให้แยกกัน แต่ผู้ตายไม่ฟังพร้อมด่าทอใส่หัวหน้า ก่อนที่จะคว้ามีดทำครัววิ่งปรี่เข้าแทง แต่หัวหน้าหลบได้ทันจึงเกิดการเยื้อแย่งมีดกันและชกต่อยกันอย่างอุตลุด

โดยมีคนงานในแคมป์และตนพยายามช่วยกันแยกให้เลิกกระทำและแยกย้ายกันเข้านอน แต่ด้วยตนเกรงว่าจะถูกหัวหน้าด่าว่าอีกจึงให้เพื่อนร่วมงานช่วยพยุงผู้ตายออกมานอนด้านนอกเพื่อหลีกเลี่ยงหัวหน้า กระทั่งตื่นมาตอนเช้าพบสามีนอนเสียชีวิตแล้ว โดยปกติผู้ตายมักจะรับประทานสุราขนาด 40 ดีกรีทุกวันพร้อมมีปากเสียงและทำร้ายตนทุกครั้งเมื่อเมาสุราจนเพื่อนๆและหัวหน้าคนงานเริ่มเอือมระอาอีกทั้งผู้ตายยังมีโรคประจำตัวป่วยเป็นลมชักอีกด้วย

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ ก่อนนำตัวหัวหน้างานไปสอบสวนเพื่อเติมที่สถานีตำรวจพร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News