ชายฉกรรจ์อาวุธครบ บุกกระทืบพ่อค้ากระท่อมถึงร้าน จนแฟนสาวกราบขอชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย ที่ร้านขายใบกระท่อมแห่งหนึ่ง ในซอยวัดเสาธงกลาง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ โดยเข้าปฐมพยาบาลนาย คมกฤษ อ่อนพลับ อายุ 27 ปี ได้รับบาดเจ็บสะบักสะบอมไปทั้งตัว นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

จากการภาพวงจรปิดที่หน้าร้านขายใบกระท่อมเกิดเหตุ จับภาพได้ขณะที่ หญิงสาวพนักงานของทางร้านกำลังขายใบกระท่อมให้กับลูกค้าตามปกติ จากนั้นไม่นานพบว่ามีชายวัยกลางคนพากันขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้าน โดยมีรถเก๋งสีดำขับตามมาจอดปิดที่หน้าร้าน จากนั้นทั้งหมดต่างพากันถืออาวุธกรูกันเข้าไปในร้านรุมทำร้ายร่างกาย คมกฤษ อ่อนพลับ อายุ 27 ปี ที่นั่งอยู่ในร้าน โดยมีชายคนหนึ่งที่ลงมาจากรถเก๋ง ชักปืนที่พกติดตัวมายืนจ่อชี้ไปทางผู้บาดเจ็บ ขณะที่แฟนสาวพยามเข้าไปช่วยเหลือ ร้องขอชีวิตแต่พอเธอหันมาเห็นชายคนขับรถเก๋งที่นั่งอยู่ในรถชักปืนขึ้นลำหันจ่อมาทางเธอ จนต้องหลบความตาย จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ลากนาย คมกฤษ จากภายในร้านเพื่อจะมาขึ้นรถเก๋ง โดยแฟนสาวได้เข้าก้มกราบร้องขอชีวิตแฟนหนุ่ม ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุเปลี่ยนใจ แต่มีหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ขวดน้ำมันที่เตรียมมาเทราดลงกับพื้นหวังจุดไฟเผา และได้พากันกระหน่ำตีไม่ยั้งอีกหลายครั้งจนคนในร้านต้องช่วยกันเอาน้ำราดดับไฟ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะพากันขับรถออกไป

จากการสอบถามพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเจ้าตัวขอเบลอหน้าและปิดบังชื่อ เล่าเหตุการณ์ว่าขณะยืนอยู่ในร้านพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมาถึง ก็พากันเข้ามารุมทำร้ายร่างกายคนเจ็บอย่างบ้าคลั่งโดยมีการใช้ไม้รุมตีอย่างหนัก ขณะที่มีบางคนชักปืนออกมาข่มขู่ไม่ให้เข้าช่วยคนเจ็บ จนกระทั่งแฟนสาวของคนเจ็บพยามเข้าช่วยแต่ถูกถือปืนจ่อจนต้องก้มกราบขอชีวิต

ขณะที่แฟนสาวของคนเจ็บบอกว่าตนเองและแฟนหนุ่มมารับจ้างขายใบกระท่อมที่ร้านแห่งนี้ จนมีกลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งตนเองจำได้ว่าหนึ่งในนั้นคือ บังมด วัดศรี พากันบุกมาทำร้ายแฟนจนบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาในคลังสินค้าที่ฝ่ายคู่กรณีทำผิดผิดกฎของโรงงานจนถูกแบน ทำให้ไม่พอใจจึงพากันมาทำร้าย ส่วนเรื่องที่มีปัญหากันนั้นไม่ใช่เรื่องที่มาจากแฟน แต่เกิดจากรุ่นน้องของแฟน ซึ่งเรื่องมันยาว แต่ตนเองยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะจำหน้าได้ทุกคน อีกทั้งมาก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายแถมยังมีปืนมาถึงสองกระบอก

เบื้องต้นทางด้านพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและเตรียมนำภาพวงจรปิดไปใช้เป็นเบาะแสเพื่อติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพราะถือเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ